"แม่ - น้องสาว"อดีตผู้กำกับโจ้ ยื่นศาลถอนอุทธรณ์ ให้ศาลออกหมายจำคุกถึงที่สุดคดีถุงดำคลุมศรีษะผู้ต้องหายาเสพติดตาย เเม่เผยลูกชายเสียใจหนักน้อมรับโทษ ยอมชดใช้ค่าเสียหายให้ครอบครัวคนตาย

เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง  ถ.เลียบทางรถไฟ นางจันทา อุทธนผล มารดาของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผู้กำกับโจ้” อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยคดีใช้ถุงดำคลุมศรีษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนขาดอากาศหายใจและถึงแก่ความตาย พร้อมด้วย น.ส.ธนัญญา อุทธนผล น้องสาวของอดีตผู้กำกับโจ้ เดินทางมายื่นคำร้องขอให้ศาลอาญาคดีทุจริต ฯออกหมายจำคุกอดีต ผู้กำกับโจ้ คดีถึงที่สุด เนื่องจากไม่ประสงค์ยื่นอุทธรณ์คดี หลังจากที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯมีคำพิพากษาประหารชีวิต พ.ต.อ.ธิติสรรค์ และได้ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา

นางจันทา มารดาของ อดีตผกก.โจ้ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายสำนึกในการกระทำผิดดังกล่าวแล้ว และรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ขาดความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และพร้อมจะน้อมรับโทษตามที่ศาลพิพากษามา และไม่ประสงค์ที่จะต่อสู้คดีในชั้นอุทธรณ์หรือฎีกาอีกต่อไป โดยให้โทษถึงที่สุดเป็นไปตามที่ศาลพิพากษาไว้ ทั้งนี้ยังรู้สึกห่วงสุขภาพของลูก

ขณะที่น้องสาวของ ผกก.โจ้ ระบุว่า พี่ชายอยากจะรับผิดชอบต่อสิ่งที่ได้ทำไป จึงขอรับโทษ และจะจ่ายเงินเยียวยาครอบครัวของผู้เสียชีวิตตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อย่างไรก็ตาม  ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 245 วรรค2 บัญญัติไว้ว่า ศาลชั้นต้น มีหน้าที่ต้องส่งสำนวนคดีที่พิพากษาให้ลงโทษ ประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิตไปยังศาลอุทธรณ์ แม้จะไม่มีการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษานั้น และคำพิพากษาเช่นว่านี้จะยังไม่ถึงที่สุดเว้นแต่ ศาลอุทธรณ์จะได้ พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น