‘กรมชลประทาน’แจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำลงสู่ด้าน‘ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา’ เพื่อควบคุมระดับน้ำเหนือ-ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับปริมาณฝนที่ตกบริเวณทางตอนบนของภาค
4 สิงหาคม 2565 นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ล่าสุดกรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจากอัตรา 499 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที (เวลา 06.00 น.) เป็นอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันนี้ (4 ส.ค.65) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงวันที่ 2-10 ส.ค.65 ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า จะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนักอยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันได้
สำหรับสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (4 ส.ค.65 เวลา 12.00 น.) ปริมาณน้ำที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 784 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่ง 6.77 เมตร มีการควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่สถานี C.13 อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ กรมชลประทานจะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ฝนที่ตกลงมา จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขาต่างๆ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน
-005