ร้องปอศ.เช็คบิล‘ซ้อพร’ ตุ๋นลงทุนโควตา‘หวยทิพย์’ สูญรวมกว่า 100 ล้านบาท
10 สิงหาคม 2565 ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) กลุ่มตัวแทนผู้เสียหาย 50 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.หญิง ปวรี เขื่อนเพ็ชร สว.(สอบสวน) กก.4 บก.ปอศ. หลังทำสัญญาซื้อโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลกับ “ซ้อพร” อายุ 67 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 แต่กลับไม่ได้รับสลาก มูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
นายไกรวิทย์ ธรรมชาติ อายุ 53 ปี ตัวแทนผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับ “ซ้อพร” เพราะมีเพื่อนแนะนำ โดยซ้อพรอ้างว่ามีโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล รู้จักกับคนในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถสั่งพิมพ์สลากหรือนำมาให้พวกตนได้ ประกอบกับตนเคยได้ยินซ้อพรโทรศัพท์ในเรื่องการพิมพ์สลาก จึงหลงเชื่อเริ่มลงทุนประมาณ 5-10 เล่ม เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 จากนั้นจึงได้ลงทุนจริงจัง โดยลงทุนสลาก 50 เล่ม เป็นเงิน 3 แสนบาท เมื่อพรรคพวกเห็นว่าตนมีสลากจึงเริ่มลงทุนเพิ่มจนมีผู้ร่วมลงทุนมากขึ้น โดยปกติพวกตนจะรวบรวมเงินกันและนำไปให้ซ้อพร ซึ่งซ้อพรไม่ให้โอนเงิน ต้องนำเงินสดไปให้ที่บ้านเช่าของซ้อพรที่หมู่บ้านย่านประชาชื่น จากนั้นจะไปรับสลากที่ตลาดสนามบินน้ำข้างสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยแต่ละครั้งจะมีการทำสัญญาไว้
จนกระทั่งเดือนกันยายน 2564 ซ้อพรไม่ส่งสลากให้กับตน ค้างอยู่ 687 เล่ม มูลค่าประมาณ 7 ล้านบาท อ้างว่าสลากยังไม่ออก แต่ให้พวกตนลงทุนสลากงวดถัดไปเรื่อยมา เพราะหากไม่ลงทุนต่อจะถูกตัดโควตา ปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับสลากดังกล่าวแต่อย่างใด ส่วนสลากงวดต่อๆมา ได้รับเพียงบางส่วนเท่านั้น พวกตนจึงไปขอเงินคืน แต่ซ้อพรกลับปฏิเสธ อ้างว่าเงินส่งไปในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว และจะเคลียร์เงินคืนให้ โดยในสายของตนมีผู้เสียหายมากกว่า 50 คน แต่ละคนมีความเสียหายหลักล้านบาท
“ตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ถึงปัจจุบัน ซ้อพรค้างเงินซื้อสลากตนประมาณ 33 ล้านบาท ซึ่งซ้อพรได้ทำสัญญาลูกหนี้กับตนไว้ และยังมีเงินแป๊ะเจี๊ยะซื้อโควตาเล่มละ 1 หมื่นบาทต่างหาก นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายที่อยู่ในสายอื่นอีก เพราะผู้ที่ร่วมลงทุนกับซ้อพรมีประมาณ 10 สาย ทราบว่าอีกสายเสียหายประมาณ 15 ล้านบาท คาดว่ามูลค่าความเสียหายรวมถึงหลัก 100 ล้านบาท เพราะแต่ละสายมีผู้ร่วมลงทุนหลักสิบคน แต่ซ้อพรห้ามให้แต่ละสายพูดคุยกัน เพิ่งมารู้จักกันเมื่อไม่ได้รับสลาก ซึ่งซ้อพรไม่บอกว่านำเงินไปให้ใคร บอกว่าตอบไม่ได้ อีกทั้งขณะนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้” นายไกรวิทย์ กล่าว
นายไกรวิทย์ ระบุว่า นอกจากนี้ตนยังกังวลว่าจะถูกดำเนินคดี เพราะมีลูกสายฟ้องตนกับซ้อพรในคดีฉ้อโกงประมาณ 13 คดี อีกทั้งซ้อพรยังบอกว่าหากใครไปแจ้งความจะไม่ให้สลาก แต่พวกตนรอไม่ได้แล้ว อยากได้เงินคืน บางคนต้องนำบ้านหรือที่ดินไปจำนอง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี