‘ตำรวจสอบสวนกลาง’เปิดปฏิบัติการ AOC ต่อเนื่อง ‘ปอศ.’รวบหนุ่มขาย‘บัญชีม้า’ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความหลายพื้นที่ พบเงินหมุนเวียนในบัญชีม้าเกือบ 30 ล้าน
13 มิถุนายน 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ. ) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. , พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. , พ.ต.อ.จักรกริช เสรีบุตร รอง ผบก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.หญิง วณิชยา ไชยปรุง สว.กก.2 บก.ปอศ. , ร.ต.อ.หญิง ชนิสรา หนองหารพิทักษ์ รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.สุฤทธ์ ขุนอินทร์ , ด.ต.วรวุฒิ ลักขณา, จ.ส.ต.ภัทรพล สุขรัตน์ และ ส.ต.อ.ชัยวัฒน์ มหาโพธิ์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายสมวิชัย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ในความผิดฐาน “ฉ้อโกงและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งที่บิดเบือนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหายแต่ละคนโดยตรง” โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
สืบเนื่องจากว่าเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนสอบสวน เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ที่มีมากในปัจจุบัน ตามปฏิบัติการ Anti Online scame (AOC) ที่มีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการสืบสวนติดตามบุคคลตามหมายจับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดให้ดำเนินการ กก.2 บก.ปอศ. จึงได้ทำการสืบสวน จนสืบทราบว่า นายสมวิชัย มีพฤติการณ์รับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับขบวนการหลอกลงทุนในเงินดิจิทัล แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเครือข่ายพนันออนไลน์ โดยได้รับเงินค่าจ้างเป็นเงิน 3,000 บาท เปิดทั้งสิ้น 2 บัญชี
ทั้งนี้ มีผู้เสียหายจำนวนหนึ่งได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบัญชี และกลุ่มที่ร่วมกันก่อเหตุ หลายท้องที่ ทั้งพื้นที่สุพรรณบุรี , นนทบุรี และขอนแก่น พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าผู้ต้องหาพักอาศัยอยู่บริเวณหน้าบ้านใน ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง จึงได้เดินทางไปดักรอในบริเวณดังกล่าว และเมื่อผู้ต้องหาปรากฏตัว จึงได้เข้าแสดงตัวจับกุมบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเป็ด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเบื้องต้นว่า เปิดบัญชีม้าเพื่อแลกกับเงินค่าจ้าง 3,000 บาท ต่อ 2 บัญชี ซึ่งขายในกับคนที่รู้จักกันที่อยู่หมู่บ้านข้างเคียง และทราบว่าบัญชีดังกล่าว ถูกใช้ในขบวนการ call center เมื่อไปตรวจสอบในบัญชีก่อนที่จะโดนอายัด มีเงินหมุนเวียนกว่า 30 ล้านบาท และผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความให้การว่าโดนหลอกลงทุนให้ซื้อสินทรัพย์ดิจิทัล
ทั้งนี้ บช.ก. ขอแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนว่าการรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารหรือให้ผู้อื่นใช้บัญชีธนาคารของตนเองนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย โดยมีความผิดตาม พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ระบุว่า “เจ้าของบัญชีม้า หรือเบอร์ม้า ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” จึงขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับบัญชีม้า และวิธีป้องกันตนเอง โดยอย่าเปิดบัญชีธนาคารให้กับคนอื่น , อย่าให้ใครยืมใช้บัญชีธนาคาร , หมั่นตรวจสอบบัญชีเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ให้รีบแจ้งธนาคารทันทีเพื่อขอคำแนะนำ และระงับบัญชี , ระวังข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า-หลัง , รหัส OPT ของธนาคาร เพราะมิจฉาชีพอาจนำข้อมูลเหล่านั้น ไปเปิดบัญชีม้าได้ และกรณีที่มีหมายเรียกจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอให้ดำเนินการตามหมายเรียก อย่าละเลยไม่ดำเนินการตามหมายเรียก มิฉะนั้นอาจเป็นเหตุให้ถูกออกหมายจับได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี