“ตรีนุช” เปิดโครงการพัฒนาการศึกษาด้านอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนพื้นที่ จ.สระแก้ว ทุ่มงบ 350 ล้านสร้าง ร.ร.จุฬาภรณ์ฯ ต.ค.นี้
วันที่ 22 สิงหาคม 2565 ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)สระแก้ว จังหวัดสระแก้ว นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) เป็นประธาน เปิดโครงการพัฒนาการศึกษาด้านอาชีพ เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสระแก้วและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) และภาคีเครือข่าย โดย น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง การจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 หรือการจัดการศึกษาเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต การพัฒนาตนเอง การพัฒนาทักษะอาชีพ และการพัฒนาทักษะฝีมือ ถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งเน้นให้คนไทยได้รับการพัฒนาการศึกษาทุกช่วงวัย ในทุกสถานที่ ทุกที่ทุกเวลา ทั้งการเรียนในระบบที่หลากหลาย เพื่อให้เกิดเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
รมว.ศธ.กล่าวว่า กศน. ถือเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เพราะเป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่น สามารถตอบโจทย์คนทุกช่วงวัยเป็นการศึกษาตลอดชีวิต ที่สำคัญตอบโจทย์การพัฒนาอาชีพ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับพื้นที่ได้ อย่างจังหวัดสระแก้วซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่เกษตร กศน.ได้มาจัดการเรียนการสอน มาสร้างอาชีพให้ ซึ่งต้องยอมรับว่าอาชีพเกษตรกร มีฤดูกาล และมีปัญหาเรื่องความผันผวนของราคาพืชผลทางการเกษตรที่ไม่แน่นอน วันนี้ กศน.ได้ร่วมกับ อบจ.สระแก้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว โดยฟังเสียงของชุมชนว่าต้องการอะไร จนเกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งนอกจากจะได้ต่อยอดนวัตกรรม ต่อยอดอาชีพ หาตลาดรองรับ ยังได้สร้างเศรษฐกิจ และรายได้ให้พี่น้องชาวสระแก้วอย่างแท้จริง
“นอกจากนี้ กศน.ยังได้ขับเคลื่อนในหลาย ๆเรื่อง เพราะเป็นหน่วยงานที่เข้าถึงประชาชนทุกช่วงวัย แต่ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมายังมีความยากลำบากและความไม่พร้อม งบประมาณก็มีจำกัด ดิฉันได้พยายามผลักดัน จัดสรรงบประมาณเรื่องของการซ่อมแซมสถานที่ เพื่อให้สามรถเข้าถึงการพัฒนาอาชีพ พัฒนาการศึกษาของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย” น.ส.ตรีนุช กล่าว
รมว.ศธ. กล่าวอีกว่า เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษา ในฐานะลูกหลานชาวสระแก้ว มีโอกาสได้เข้าไปทำงานในกระทรวงศึกษาธิการ ที่ดูแลการศึกษาในทุกมิติ ทำให้เห็นถึงข้อจำกัดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่ถึงแม้กระทรวงศึกษาธิการจะได้งบฯเป็นอันดับต้น ๆของประเทศ แต่งบฯที่ได้มาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของบุคลากร ทำให้มีงบฯพัฒนาน้อย เมื่อมีโอกาสดูเรื่องการศึกษาก็พยายามมองว่าจะสามารถพัฒนาด้านการศึกษาอะไรให้กับประเทศบนข้อจำกัดที่มีอยู่ ทั้งการสร้างคุณภาพ การลดความเหลื่อมล้ำและการสร้างโอกาส จึงเกิดเป็น”สระแก้วโมเดล” โดยทำกลุ่มโรงเรียนคุณภาพ 58 โรง ในจังหวัดสระแก้ว ให้เป็นโรงเรียนคุณภาพอย่างแท้จริง โดยจัดสื่อดิจิทัล ให้โรงเรียนคุณภาพของจังหวัดสระแก้วทุกแห่ง มีสมาร์ทีวีอยู่ทุกห้อง รวมถึงโรงเรียนชายขอบ ก็จะไม่ทอดทิ้ง จะส่งเสริมให้เด็กเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพให้ได้ และโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลก็จะไม่ทอดทิ้ง จะสร้างเสริมให้เข้าถึงคุณภาพให้ได้ รวมถึงได้มีการจัดครู ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ เข้าไปเสริมให้ เพราะถือว่าภาษาก็เป็นเรื่องสำคัญ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้เด็ก ๆ
รมว.ศธ. กล่าวต่อว่า จังหวัดสระแก้ว เป็นจังหวัดที่อยู่ติดชายแดน ตนได้ปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงการสร้างโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ในจังหวัด ซึ่งขณะนี้ สพฐ. เตรียมงบประมาณไว้แล้ว พร้อมทำการสำรวจเด็กว่าจะมาเรียนกี่คน เมื่อสำรวจเสร็จแล้ว จะยื่นให้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อนุมัติสร้างโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ต่อไป ขณะนี้ มอบหมายให้ สพฐ.เร่งหาสถานที่ เพื่อจัดสร้างโรงเรียนด้วย การสร้างโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กฐานะยากลำบากกลับเข้าสู่การศึกษาเพิ่มขึ้น
"ส่วนการสร้างโอกาสทางการศึกษา ดิฉัน เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ลงพื้นที่ไปหลายแห่ง ประชาชนสะท้อนมาว่าอยากมีโรงเรียนดีๆ ดังๆ ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งหลายคนนึกถึงโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ซึ่งโรงเรียนนี้เน้นสร้างเด็กมีความเก่งด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ขณะนี้ ศธ.อยู่ระหว่างผลักดัน โดย สพฐ.เตรียมงบประมาณ และที่ดินสำหรับโรงเรียนนี้ไว้แล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ โดยใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท ต่อไปลูกหลานในจังหวัดสระแก้ว จะมีโรงเรียนคุณภาพใกล้บ้าน ผู้ปกครองก็ไม่ต้องส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนไกลๆ อีกต่อไป" น.ส.ตรีนุช กล่าว
ด้าน นายวัลลพ สงวนนาม เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า สำนักงาน กศน. มีหน้าที่สำคัญ ในการจัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยที่มีคุณภาพสอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและยกระดับการศึกษา พัฒนาทักษะการเรียนรู้ของประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมาย ขณะเดียวกันก็ส่งเสริม สนับสนุน แสวงหา และประสานความร่วมมือเชิงรุกกับภาคีเครือข่ายให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนและจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย รวมถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิตในรูปแบบต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน พร้อมทั้ง ส่งเสริมและพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษา และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้พัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดและให้บริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง และ พัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สื่อและนวัตกรรม การวัดและประเมินผลในทุกรูปแบบให้มีคุณภาพสอดคล้องกับบริบทในปัจจุบัน
เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม สำนักงาน กศน.จึงมอบหมายให้ กศน.จังหวัดสระแก้ว ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาสระแก้ว และศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดนสระแก้ว ร่วมกันจัดทำเวทีประชาคมในพื้นที่ร่วมกับภาครัฐ องค์กรส่วนท้องถิ่น และประชาชนในจังหวัดสระแก้ว พบว่า ประชาชนกลุ่มเป้าหมายของ กศน.มีความต้องการการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเกษตรสมุนไพร การพัฒนา และสนับสนุนปัจจัยการผลิต การบริหารจัดการน้ำโดยใช้พลังงานทดแทน การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพ ตลอดจนพัฒนามาตรฐานการผลิตและการแปรรูป โดยเฉพาะช่องทางการตลาด รวมถึงการเพิ่มมูลค่าสินค้าทั้งการพัฒนาจนเข้าสู่มาตรฐานการรับรองทั้งภายในประเทศและต่างประเทศสู่การยกระดับเพื่อการส่งออก
“กศน.มีการประสานความร่วมมือทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ได้แก่ บริษัท เจียงเหลียง โฮลดิ้งส์ จำกัด บริษัท อ้วยอันโอสถ จำกัด บริษัท ดีท้อกซ์ ประเทศไทย จำกัด โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว สมาพันธ์เกษตรกรรมยั่งยืนสระแก้ว สำนักงานพลังงานจังหวัดสระแก้ว มหาวิทยาลัยบูรพา วิทยาเขตสระแก้ว มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ศูนย์สระแก้ว วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว วิทยาลัยชุมชนสระแก้ว วิทยาลัยเทคนิควังน้ำเย็น วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เพื่อร่วมกันพัฒนาการศึกษาและศักยภาพด้านอาชีพของประชาชน เพื่อสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการพัฒนาอาชีพทางด้านพืชสมุนไพรที่มีอยู่ในชุมชน ท้องถิ่น ในรูปแบบ SAKAEO MODEL by กศน. และ การตลาด นำการผลิต” เลขาธิการ กศน. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี