กำชับ13มาตรการรับมือฤดูฝน
‘บิ๊กป้อม’ลุยแปดริว
โวน้ำไม่ท่วมใหญ่เหมือนปี’54
กรมชลฯเตือน11จว.เสี่ยงจม
เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม
อุทัยธานี-ชัยนาท-สิงห์บุรี-กทม.
อุตุฯชี้มรสุมทำฝนตกชุกทั่วไทย
กรมชลฯเล็งปรับระบายน้ำเพิ่มเขื่อนเจ้าพระยา 4 กันยายนเตือน 11 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำสูงขึ้น ด้านอุตุฯ ชี้มรสุมทำฝนตกชุกใน 34 จังหวัด ขณะที่แม่น้ำยมไหลสู่ จ.พิจิตรเริ่มล้นตลิ่งท่วม อ.สามง่าม ส่วนน้ำป่าหลากท่วม จ.จันทบุรีซัดบ้านพัง 3 หลัง ที่ จ.บุรีรัมย์ ฝนถล่มน้ำท่วมถนนเกือบทุกสายรถจมน้ำเสียหาย
เมื่อวันที่ 1กันยายน นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนาแน่น ส่งผลทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์น้ำ เมื่อวันที่ 31สิงหาคม เวลา 06.00 น. ตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,846 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที สมทบกับแม่น้ำสะแกกรังผ่านสถานีวัดน้ำ Ct.19 จ.อุทัยธานี วัดได้ 103 ลบ.ม.ต่อวินาที ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ระดับบวก 15.89 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.)
น้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่ม
นายทวีศักดิ์กล่าวต่อว่า ระดับท้ายบวก 13.46 ม.รทก.ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มเป็น1,678 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดการณ์ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานี C.2 จ.นครสวรรค์ อยู่ระหว่าง 1,800-1,900 ลบ.ม.ต่อวินาที แม่น้ำสะแกกรัง สถานี Ct.19 อัตรา 100 ลบ.ม.ต่อวินาที และลำน้ำสาขาอัตรา 200 ลบ.ม.ต่อวินาที ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณระหว่าง 2,100-2,200ลบ.ม.ต่อวินาที การรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวมจำนวน 200ลบ.ม.ต่อวินาที
กรมชลฯปรับเพิ่มระบายน้ำเขื่อนฯ
นายทวีศักดิ์กล่าวอีกว่า ได้ดำเนินการภายใต้เกณฑ์การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอนุญาตให้กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายน้ำไม่เกิน 2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที แบบขั้นบันไดพร้อมทั้งบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณ การระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพของพื้นที่เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตร โดยปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2565 ในอัตรา 1,800-2,000 ลบ.ม.ต่อวินาที
คาดส่งผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ
นายทวีศักดิ์กล่าวว่า การปรับการระบายน้ำดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มสูงขึ้น บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ คลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน 0.40-0.50 เมตร ในช่วงวันที่ 5-6 กันยายน 2565 ทั้งนี้ หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น ที่จะส่งผลให้ มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,000ลบ.ม.ต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
เตือน11จังหวัดรับมือน้ำเพิ่มสูง
นายทวีศักดิ์กล่าวอีกว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ จึงได้แจ้งเตือน 11จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และ กทม.รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อุตุฯชี้มรสุมทำไทยมีฝนตกหนัก
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24ชั่วโมงข้างหน้า ว่าร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบนของภาคเหนือ และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ตอนล่าง มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในระยะนี้
ฝนตกกระจายทั่วทุกภูมิภาค
ส่วนพยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตรภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งอุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตรกทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาฯ อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาฯ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.
พิจิตรรับน้ำภาคเหนือตอนบน
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำใน จ.พิจิตร หลังจากฝนตกชุกและมีน้ำจาก จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก เริ่มไหลเข้าสู่พื้นที่ จ.พิจิตร ทำให้แม่น้ำยม เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำได้ล้นตลิ่ง เอ่อเข้าท่วมบ้านเกาะสาริกา หมู่ 4 ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร โดยน้ำได้เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชนกว่า 15 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 60-80 เซนติเมตร ประชาชนที่ถูกน้ำท่วมต้องใช้เรือในการสัญจรและนำของมีค่า รวมทั้งรถยนต์และจักรยายนต์ไปจอดบนถนน เนื่องจากระดับน้ำมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
โร่เตือนชาวนารีบเก็บเกี่ยวข้าว
นายเอกฉัตร เอี่ยมตาล ผอ.โครงการชลประทานพิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์ฝนที่ตกในภาคเหนือตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่องส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากจาก จ.แพร่เข้าสู่ อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ที่ประตูระบายน้ำหาดสะพานจันทร์มีมวลน้ำที่ควบคุมได้ 500 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที ผ่านตัวเมืองสุโขทัยควบคุมได้ 420 ลบ.ม.ต่อวินาที น้ำส่วนเกินจึงต้องระบายน้ำลงสู่คลองสาขาและเข้าสู่ จ.พิษณุโลก ก่อนเข้าสู่ลุ่มน้ำยม จ.พิจิตร ระดับน้ำเฉลี่ยต่ำกว่าตลิ่งไม่ถึง 1 เมตร เช่นเดียวกับแม่น้ำน่าน ที่ อ.บางมูลนาก จึงขอเตือนชาวนาหรือพื้นที่ปลูกข้าวฝั่งขวาของแม่น้ำยม ให้เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิต เนื่องจากอาจเกิดน้ำท่วมขึ้นได้
ชาวจันทบุรีเศร้าเงินหายไปกับน้ำ
อีกด้านหนึ่ง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุภาพร อายุ 62 ปี หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากพื้นที่บ้านชำปาง หมู่ 8 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า ภายหลังฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากซัดเข้าบ้านตนจนกำแพงทะลุ ข้าวของ รวมถึงเงินสด 250,000 บาท หายไปกับน้ำ จนแทบสิ้นเนื้อปราะดาตัว ซึ่งนายรภัทร กิจกาญจน์ ปลัดอำเภอมะขาม ต้องเข้าปลอบใจนางสุภาพร ว่ายังโชคดีที่เอาชีวิตรอดมาได้ อย่างไรก็ดี จากการสำรวจพบว่ามีบ้านเรือนถูกน้ำป่าซัดเสียหาย 3 หลัง และพื้นที่การเกษตรอีกบางส่วน ได้เร่งหาแนวทางช่วยเหลือ และจัดหาที่พักชั่วคราวให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวแล้ว
บุรีรัมย์น้ำท่วมถนนหลายสาย
ที่ จ.บุรีรัมย์ นับตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากเกิดพายุฝนกระหน่ำอย่างหนักนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำท่วมขังถนนเกือบทุกสายทั้งในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และเทศบาล ต.อิสาณ สูงกว่า 30-50 เซนติเมตร แต่จุดที่น้ำท่วมสูง คือถนนข้างสหกรณ์ออมทรัพย์ครูบุรีรัมย์ ระดับน้ำสูงเกือบ 60 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร ถึงถนนทางเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว ได้รับผลกระทบโดยการสัญจรไปมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก
รถยนต์-จยย.จมน้ำเสียหายอื้อ
ขณะที่ถนนจิระ ตั้งแต่สี่แยกไฟแดงจนถึงหน้าศาลากลาง จ.บุรีรัมย์ (หลังเดิม) มีน้ำท่วมสูงราว 30-50 เซนติเมตร เป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ส่งผลให้รถยนต์และจักรยานยนต์จำนวนมากที่จอดอยู่สองฝั่งถนนถูกน้ำท่วม รวมถึงบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยสาเหตุที่น้ำท่วมขังถนนหลายสายในตัวเมืองบุรีรัมย์ครั้งนี้ เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงซึ่งน้ำที่ท่วมขังจนต้องรอการระบายครั้งนี้ถือว่าท่วมขังอย่างหนักในรอบหลายปี
‘บิ๊กป้อม’ลงพื้นที่จ.ฉะเชิงเทรา
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจราชการ จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมเดินทางไปด้วย ขณะที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และคณะ ร่วมลงพื้นที่ พร้อมกับ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คอยให้การต้อนรับโดยจุดแรก พล.อ.ประวิตร เข้าตรวจเยี่ยมสถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ผวจ.ฉะเชิงเทรา ให้การต้อนรับและนำเสนอสภาพพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฎิบัติการ 3 นำเสนอการจัดการสถานการณ์น้ำ
เน้นบริหารน้ำตาม13มาตรการ
ทั้งนี้ ในส่วนของสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำบางปะกง กอนช.คาดการณ์ว่าในช่วงเดือน กันยายน-ตุลาคมนี้ จะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ซึ่งการลงพื้นที่ของ พล.อ.ประวิตร ในครั้งนี้ ได้เน้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตาม13 มาตรการรับมือฤดูฝนอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำห้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่กระทบพื้นที่ท้ายน้ำ เช่น เขื่อนขุนด่านปราการชลและเขื่อนนฤบดินทรจินดา ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเกินเกณฑ์ระดับเก็บกักสูงสุดที่จะต้องบริหารจัดการให้สามารถรองรับปริมาณฝนที่คาดว่าจะตกลงมาเพิ่มในระยะต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี