ติดเชื้อโควิดลดต่อเนื่อง รายวันเหลือ 1,093 ราย หายป่วยมากกว่าเท่าตัวอยู่ที่ 2,101 รายตาย 19 ศพ ปอดอักเสบทรงตัวที่ 681 คน รัฐบาลย้ำฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจำเป็นแนะปชช.ไปฉีดเข็มกระตุ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองและภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประเทศ ชี้ไทยมีวัคซีนพอสำหรับทุกเพศทุกวัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 วันที่ 11 กันยายนว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ รักษาตัวในโรงพยาบาล (รพ.) 1,093 ราย จำแนกเป็นผู้ป่วยในประเทศ 1,092 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 1 ราย ผู้ป่วยสะสม 2,444,111 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 หายป่วยกลับบ้าน 2,101 ราย หายป่วยสะสม 2,453,747 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ผู้ป่วยกำลังรักษา 12,766 ราย เสียชีวิต 19 ราย เสียชีวิตสะสม 10,841 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 681 ราย
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิดจำเป็นมาก โดยเฉพาะวัคซีนเข็มกระตุ้นตั้งแต่เข็มที่ 3 เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและลดอัตราเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือกลุ่ม 608 และกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ขวบ ซึ่งปัจจุบันฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นไปแล้วประมาณร้อยละ 50 ของประชากร จากที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งเป้าฉีดเข็มกระตุ้นตั้งแต่เข็มที่ 3 ขึ้นไปไว้ที่ร้อยละ 60-70 ดังนั้น เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จึงขอความร่วมมือประชาชนทุกคนให้ความสำคัญกับการรีบเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากขึ้น เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเองและภูมิคุ้มกันหมู่ของประเทศ รองรับการเปิดประเทศเต็มรูปแบบและการท่องเที่ยวของประเทศไทยต่อจากนี้ ที่จะมุ่งเน้นพัฒนาการท่องเที่ยว อย่างทั่วถึง ยั่งยืน และสมดุล บนพื้นฐานแนวคิดไม่ทิ้งใคร ไว้ข้างหลัง ตลอดจนขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลให้เดินหน้าต่อไปได้
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมการฉีดวัคซีนโควิดให้กลุ่มเด็กอายุระหว่าง 6 เดือน-น้อยกว่า 5 ปี โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบการปรับสัญญาการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด ของบริษัท ไฟเซอร์ที่คงเหลือ 3,000,000 โดส ให้เป็นวัคซีนสำหรับกลุ่มเด็กที่อายุระหว่าง 6 เดือน-น้อยกว่า 5 ปี ฝาสีแดง ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีวัคซีนป้องกันโควิดครอบคลุมทุกช่วงวัย ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะได้รับมอบวัคซีนดังกล่าวภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 เพื่อฉีดให้กลุ่มเด็ก 1,000,000 คน ในอัตรา 1 คนต่อวัคซีน 3 เข็ม มีระยะห่างในการฉีดวัคซีนคือ ฉีดเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 ห่างกันประมาณ 3 สัปดาห์ หลังฉีดเข็มที่ 2 แล้ว ให้เว้นระยะเวลา 6 สัปดาห์ จึงเข้ารับการฉีดเข็มที่ 3ตามลำดับ เพื่อป้องกันการเกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็กหากติดเชื้อโควิด รวมถึงภาวะการเกิด MIS-C (Multisystem Inflammatory Syndrome in Children) หรือกลุ่มอาการอักเสบหลายระบบที่เป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงในเด็กที่หายป่วยจากโควิด ประชาชนสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ที่โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน รวมถึงที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ที่จะให้บริการถึงวันที่ 30 กันยายน อย่างไรก็ตาม หากมีสถานการณ์จำเป็นต้องเร่งฉีด ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเตรียมแผน “ปิดแต่พร้อมเปิด” ไว้รองรับแล้ว โดยสามารถเปิดศูนย์ฯ เพื่อให้บริการใหม่ได้ภายใน 1 วัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี