วันพฤหัสบดี ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ผงะ! ผลวิจัยธุรกิจสวนกล้วยจีนในลาว อุทาหรณ์ซ่อนพิษธุรกิจทุนข้ามชาติ

ผงะ! ผลวิจัยธุรกิจสวนกล้วยจีนในลาว อุทาหรณ์ซ่อนพิษธุรกิจทุนข้ามชาติ

วันอังคาร ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2565, 20.28 น.
Tag : สวนกล้วยจีนในลาว นักวิชาการ สวนกล้วย กัมพูชาฯพม่า
  •  

เผยผลวิจัยธุรกิจสวนกล้วยจีนในลาว นักวิชาการระบุสร้างผลกระทบต่อชาวบ้าน-สิ่งแวดล้อมเหตุใช้สารเคมีเข้มข้น ชาวบ้านป่วยตายจนทางการลาวสั่งห้ามสัมปทานแต่ย้ายฐานไปพม่า-กัมพูชา

เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2565 ผศ.ดร.เสถียร ฉันทะ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จ.เชียงราย เปิดเผยถึงผลการวิจัยเกี่ยวกับธุรกิจเกษตรข้ามชาติของจีนและผลกระทบกรณีศึกษาการทำสวนกล้วยในประเทศลาว ว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คนจีนเข้ามาทำกิจการในลาวจำนวนมาก โดยเฉพาะการทำธุรกิจการเกษตร ทั้งการทำสวนกล้วย ปลูกฟักทอง นอกจากนี้ยังมียางพารา การปลูกข้าวโพด แต่ที่เห็นชัดคือพืชระยะสั้น เช่น ฟักทอง แตงโม ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นของธุรกิจจีนในลาวเป็นอย่างไรนั้น  ตนเองได้เข้าไปดูที่แขวงบ่อแก้วเป็นหลักโดยเฉพาะในส่วนของกล้วย


ผศ.ดร.เสถียรกล่าวว่า กล้วยส่งผลกระทบต่อวิธีชุมชนทั้งบวกและลบคือในทางบวกนั้นทำให้มีการสร้างรายได้ แต่ในทางลบคือชาวบ้านได้รับผลกระทบจากสารเคมีและขยะ โดยมีหลายแขวงที่นักธุรกิจจีนเข้าไปทำสวนกล้วยในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2555 จำนวน 7 บริษัท ใน 5 เมือง โดยมีการบริหารจัดการแรงงานคือทั้งอยู่ประจำและไป-กลับ ซึ่งที่เมืองต้นผึ้งเป็นเมืองหนึ่งที่มีการปลูกกล้วยในพื้นที่จำนวนมาก โดยแรงงานที่อยู่ประจำในสวนกล้วยมักอยู่ได้ไม่ถึง 3 ปีก็เจ็บป่วยจากสารเคมี บางคนเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีปัญหาการแย่งชิงที่ดินระหว่างชาวบ้านกับชาวบ้าน และมีการร้องเรียนไปยังรัฐบาลกลางของลาวจนเป็นเหตุให้มีการยุติการขยายพื้นที่ให้สัมปทานการปลูกกล้วย และ เมื่อปลูกกล้วยไม่ได้ทำให้นายทุนจีนหันไปปลูกอื่นๆ เช่น ถั่วเหลือง เดือย และทำปศุสัตว์โดยทุนจีนเหมือนเดิม ทั้งนี้ล่าสุดยังมีสวนกล้วยอยู่แต่ไม่ให้สัมปทานเพิ่ม

“ข้อค้นพบคือการปฎิบัติการข้ามชาติของทุนจีน เป็นการเกี้ยเซียะผลประโยชน์ของรัฐต่อรัฐ และรัฐต่อพ่อค้าชาวจีน ส่งผลกราะทบต่อเรื่องทรัพยากรและสุขภาพ โดยชุมชนพยายามต่อรองให้ยุติการสัมปทานเพิ่มซึ่งก็สำเร็จเพราะรัฐบาลลาวให้ความสำคัญเรื่องสุขภาพ นโยบายของจีนและลาวตกลงกันทางด้านเศรษฐกิจเพื่อให้รัฐปลายทางยอมรับทุนจีนคือเรื่องของความช่วยเหลือ”ผศ.ดร.เสถียร กล่าว

นักวิชาการผู้นี้กล่าวด้วยว่า ทั้งหมดเป็นข้อมูลที่เจอในประเทศลาว เรื่องของกล้วยไม่ใช่เป็นปัญหาพืชกล้วยๆแต่เป็นเรื่องของการแย่งชิงทรัพยากร แย่งน้ำ ส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่โดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย ขณะที่มีการใช้สารเคมีหลายตัวมาก จนไม่รู้ว่าใช้ตัวไหนเป็นหลัก ที่สำคัญคือเขียนเป็นภาษาจีน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีปัญหาเกี่ยวกับการตรวจสอบ

ผศ.ดร.เสถียร กล่าวว่าการจ้างงานทำสวนกล้วยในลาว มี 3 แบบคือ แรงงานแบบอยู่ถาวรส่วนใหญ่เป็นลาวสูงคือม้ง เข้ามาอยู่ราว 3 ปีก็ต้องไปเพราะป่วย แรงงานชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นลาวเทิงและลาวลุ่มบางส่วน ซึ่งเป็นการเช่าที่จากชาวบ้าน แต่บางทีนายทุนจีนก็ไม่จ่ายค่าเช่า ที่สำคัญบางครั้งเมื่อปรับเป็นแปลงขนาดใหญ่ ทำให้ชาวบ้านไม่รู้แนวเขตเพราะมีการปรับลำน้ำคูคลองใหม่หมด

“การเข้ามาของทุนจีน กล้วยมาทีหลังแทนยางพาราและพืชล้มลุก เพราะให้ผลตอบแทนที่สูง และในจีนปลูกกล้วยได้เฉพาะตอนใต้ แต่การเช่าที่ดินราคาแพงขึ้น เมื่อลาวไม่ให้ขยายสัมปทาน ทุนเหล่านี้เคลื่อนย้ายไปในพม่าและกัมพูชา”นักวิชาการผู้นี้กล่าว

ผศ.ดร.เสถียร กล่าวว่า ระบบแรงงานและการคุ้มครองแรงงานในลาวนั้น ลาวมีกฏหมายคุ้มครองเช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่รัฐลลาวไม่ได้เข้าไปดูว่าคนเหล่านี้เข้าถึงกระบวนการคุ้มครองหรือไม่ กฎหมายมีอยู่แต่ไม่ได้ถูกนำไปใช้ และฐานข้อมูลแรงงานก็ไม่มีชัดเจนว่ามีคนงานจำนวนเท่าไร ดังนั้นการคุ้มครองเรื่องสิทธิสุขภาพจึงไม่ปรากฏ ขณะที่ทุนจีนพยายามลดความขัดแย้งโดยการสนับสนุนด้านสาธารณูปโภคต่างๆรวมถึงโรงเรียน สุขศาลา

เมื่อถามว่าการปลูกกล้วยโดยใช้สารเคมีเข้มข้นแต่ทำไมถึงส่งกลับจีนได้ ผศ.ดร.เสถียรกล่าวว่า กล้วยส่งกลับไปขายจีน แต่เวลาเก็บผลการตัดชุบน้ำยาและขนย้ายพื้นที่เก่าในลาวเริ่มลดลงเพราะจีนไม่เปิดชายแดนให้กล้วยเข้าในช่วงโควิด จึงส่งไปที่คาสิโนต้นผึ้ง รัฐบาลลาวพยายามควบคุมเรื่องสารเคมี แต่เขาไม่รู้ว่าเป็นประเภทไหนเพราะเป็นภาษาจีนหมด

“คนงานอยู่ 3 ปีเริ่มป่วย ก็จะถูกเลิกจ้างเพราะคนจีนไม่อยากรับภาระ เขาก็ยังหาคนงานมาแทนได้ตลอด การอยู่สวนกล้วยมีรายได้แน่นอนกว่า ทั้งแบบรายวันและรายเดือน ขึ้นอยู่กับทำงานอะไร หรือทำงานในรูปแบบไหน เช่น เหมาดูแลเป็นแปลงโดยนับเป็นจำนวนต้น”ผศ.ดร.เสถียร กล่าว

-001

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ก่อนไฟเขียว‘คาสิโน’ นักวิชาการฝากโจทย์ให้คิด กม.พร้อมหรือยัง?-บังคับใช้เข้มไหม? ก่อนไฟเขียว‘คาสิโน’ นักวิชาการฝากโจทย์ให้คิด กม.พร้อมหรือยัง?-บังคับใช้เข้มไหม?
  • นักวิชาการย้ำฝีหนองที่เนื้อหมูไม่ใช่โรค-ไม่ติดต่อสู่คน แนะวิธีบริโภคอย่างปลอดภัย นักวิชาการย้ำฝีหนองที่เนื้อหมูไม่ใช่โรค-ไม่ติดต่อสู่คน แนะวิธีบริโภคอย่างปลอดภัย
  • สสส.ระดมความเห็นผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ร่างแผนหลัก 5 ปี ก่อนชงบอร์ดพิจารณา 18 ส.ค. สสส.ระดมความเห็นผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ ร่างแผนหลัก 5 ปี ก่อนชงบอร์ดพิจารณา 18 ส.ค.
  • ‘นักวิชาการ-ภาคประชาสังคม’ แนะรัฐหามาตรการดูแล‘ผู้เช่าที่พัก’ลดค่าครองชีพ ‘นักวิชาการ-ภาคประชาสังคม’ แนะรัฐหามาตรการดูแล‘ผู้เช่าที่พัก’ลดค่าครองชีพ
  • ชาวกะเหรี่ยงฮือโต้\'วีระกร\' เอาข้อมูลไม่จริงอภิปรายโครงการผันน้ำยวม ชาวกะเหรี่ยงฮือโต้'วีระกร' เอาข้อมูลไม่จริงอภิปรายโครงการผันน้ำยวม
  • นักวิชาการแนะบริโภคเนื้อแดงเหมาะสม ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย นักวิชาการแนะบริโภคเนื้อแดงเหมาะสม ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย
  •  

Breaking News

‘บัวขาว’ยัน! ไม่มีปัญหากับชาวกัมพูชา-มวยกุน ขแมร์ แต่ขอทวงค่าตัวยังค้างอยู่

จับตาวงการลูกหนังผู้ดี! จ่อคุมเข้ม'ซื้อ-ขายทีม'สกัดทุนเทา-นายใหม่ ทำลายรากเหง้าชุมชน

ชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน ทลายเครือข่ายยาบ้า ยึดของกลาง 98,000 เม็ด

หนีฝุ่นพิษ! 'โรงเรียนสาธิตจุฬาฯฝ่ายประถม' ประกาศปิดเรียน 1 วัน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved