‘สวนดุสิตโพล’กาง 5 ปัญหาคนไทยมักควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ‘เครียด โกรธ โมโห’ทำอย่างไร
25 กันยายน 2565 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,138 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 17-22 กันยายน 2565 หัวข้อ “คนไทยกับการควบคุมอารมณ์” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีในช่วงที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าข่าวความรุนแรงในสังคมไทยมีให้เห็นมากขึ้น เกิดพฤติกรรมรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือเสียชีวิต ทั้งนี้หลายฝ่ายก็มองว่าอาจเกิดจากภาวะทางอารมณ์ ซึมเศร้า ขาดสติ ถูกกดดัน หรือทำให้โกรธแค้น การจัดการและควบคุมอารมณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับประชาชนอย่างยิ่งโดยเฉพาะในช่วงที่อยู่ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ สรุปผลได้ดังนี้
1. เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงและต้องเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ประชาชนมักจะมีอารมณ์แบบใด
อันดับ 1 ทำใจยอมรับ 51.00%
อันดับ 2 มีความคาดหวังและอยากรู้ว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป 37.55%
อันดับ 3 ตื่นเต้นกับสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น 34.45%
อันดับ 4 กลัว 33.82%
อันดับ 5 เศร้าและเสียใจ 31.27%
2. เมื่อมีปัญหาต่าง ๆ เข้ามารุมเร้า ประชาชนควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีเพียงใด
ควบคุมอารมณ์ได้บ้าง 59.91%
ควบคุมอารมณ์ได้ดี 33.57%
ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ 6.52%
3. เรื่องอะไรที่มักทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
อันดับ 1 สุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บ ไม่สบาย 51.62%
อันดับ 2 มีปัญหาเรื่องเงิน 43.14%
อันดับ 3 มีปัญหาในการทำงาน/การเรียน 38.63%
อันดับ 4 เรื่องของเพื่อน แฟน คนใกล้ชิด 33.66%
อันดับ 5 เรื่องเกี่ยวกับครอบครัว พ่อแม่ 28.25%
4. เวลาที่เครียด โกรธ โมโห ประชาชนมักจะทำอย่างไร
อันดับ 1 ตั้งสติ 51.58%
อันดับ 2 ยอมรับและเผชิญกับความเป็นจริง 48.42%
อันดับ 3 ปล่อยวาง หยุดคิด 46.48%
อันดับ 4 คุยกับเพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้ 44.98%
อันดับ 5 ปรับวิธีคิด คิดบวก ให้กำลังใจตัวเอง 43.49%
5. ประชาชนคิดอย่างไรกับข่าวความรุนแรงในสังคมปัจจุบัน (เช่น สาดน้ำกรดภรรยา จ่าทหารคลั่งกราดยิง ป้าใช้อีโต้ฟันหัวหลาน ฯลฯ)
อันดับ 1 น่าจะถูกกดดัน เครียด ขาดสติ ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ 41.97%
อันดับ 2 สุขภาพจิตของคนในสังคมแย่ลง 22.58%
อันดับ 3 รู้สึกแย่ หดหู่ รุนแรงโหดร้ายเกินไป ไม่ควรเกิดขึ้นกับสังคมไทย 18.59%
อันดับ 4 มีการนำเสนอข่าวบ่อยครั้ง ตอกย้ำความรุนแรง 12.22%
อันดับ 5 อยากให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเปลี่ยนสังคมไทยให้น่าอยู่มากขึ้น 11.69%
6. จากปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ตัวประชาชนเองตอนนี้อยู่ในสภาวะใด
ยังทนได้ 73.37%
ไม่อยากทนและท้อถอย 26.63%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า โควิด-19 ที่กินเวลายาวนานกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นส่งผลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจของคนไทย โดยจากผลโพลพบว่าเมื่อมีปัญหาคนส่วนใหญ่จะ “ทำใจยอมรับ” และยังอยู่ในสภาพที่ “ทนได้” เมื่อเครียด ก็พยายาม “ตั้งสติ” และจะควบคุมอารมณ์ตนเองให้ได้ แต่ก็มีกลุ่มที่บอกว่าตนเองนั้น “ควบคุมอารมณ์ไม่ได้” สอดคล้องกับข่าวความรุนแรงที่พบเห็นกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่ต้องทนอยู่กับปัญหา กดดัน เครียด และขาดสติ ดังนั้นการดูแลสุขภาพใจจึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ช่วยกันดูแล และสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้แก่ตนเองและคนใกล้ตัวในช่วงวิกฤติเช่นนี้
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัชนก นุกิจ รองคณบดีโรงเรียนการเรือน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า จากผลการจัดสนทนากลุ่ม (Focus Group) พบว่า จากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้คนไทยต้องพบกับความเครียด ปัญหาสุขภาพจิตและการฆ่าตัวตาย ซึ่งมีสาเหตุมาจากการเจ็บป่วย ปัญหาสุขภาพ การเงิน การจัดการเวลาและสัมพันธภาพ ซึ่งทักษะชีวิต (Life Skill) ที่สำคัญและควรมีเพื่อความอยู่รอด ไม่ว่าคนเจเนอเรชั่นไหน อายุเท่าไหร่ ก็จำเป็นต้องเรียนรู้และฝึกฝน คือ 1) EQ (Emotional Quotient) ความฉลาดทางด้านอารมณ์ 2) AQ (Adversity Quotient) ความฉลาดในการรับมือกับปัญหา 3) RQ (Resilience Quotient) ความสามารถทางอารมณ์และจิตใจในการปรับตัวและฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติภายหลังที่พบกับวิกฤติ
นอกจากนี้ในปัจจุบันการเจริญสติ (Mindfulness) เป็นจิตวิทยากระแสใหม่ซึ่งอาศัยหลักการพักด้วยการฝึกสมาธิ ทำงานด้วยการฝึกสติ มีการนำมาใช้อย่างแพร่หลายในด้านจิตบำบัด การพัฒนาคน การสร้างสุขด้วยสติในองค์กร ซึ่งหากเราได้รับการพัฒนาสติและสมาธิแล้วก็จะตั้งรับกับปัญหาและสามารถแก้ไขปัญหาที่เผชิญได้อย่างมีประสิทธิภาพซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการเอาตัวรอดจากวิกฤติที่เกิดขึ้น
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี