อุตุเตือนทั่วไทยฝนถล่มต่อเนื่อง

นํ้ำท่วมยังวิกฤต

GISTDA ชี้ 11 ลุ่มน้ำจม 3 ล้านไร่

‘เจ้าพระยา/บางปะกง’ยังอ่วม

‘สุพรรณ-ปราจีน-แปดริ้ว’หนัก

ศรีสะเกษปิด27โรงเรียนหนีน้ำ

นายกฯลงพื้นที่เพชรบูรณ์6ต.ค.

สถานการณ์น้ำท่วมยังวิกฤตหลายพื้นที่ “บิ๊กตู่” ย้ำนโยบาย 10 ข้อ ให้ผู้ว่าฯทั่วประเทศ บริหารจัดการน้ำเร่งช่วยเหลือประชาชน มั่นใจรับมือได้ เตรียมลงตรวจพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ 6 ตุลาคม สั่งทหารเสริมกำลัง ดูแลผู้ประสบภัยจุดวิกฤต “มท.1” ชี้ถ้าไม่มีมรสุมซ้ำเติมน้ำท่วมไม่ซ้ำรอยปี’54 ด้าน อุตุฯเตือนทั่วไทยยังมีฝนตกหนัก ส่วน GISTDA เผยพื้นที่ 11 ลุ่มน้ำหลักท่วมแล้วกว่า 3 ล้านไร่–นาข้าวเสียหายแล้วกว่า 5 แสนไร่ ศรีสะเกษ โรงเรียนจมน้ำ สั่งปิดแล้ว 27 แห่ง ขณะที่น้ำท่าจีนหลาก-น้ำเขื่อน

ทะลักท่วม สุพรรณฯบ้านเรือนจมบาดาล ส่วนอ่างเก็บน้ำล้น ปราจีนบุรี และแปดริ้ว ทะลักท่วม

เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก มีใจความว่า ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์อุทกภัยในหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ซึ่งได้สั่งการเน้นย้ำนโยบาย 10 ข้อ ในการบริหารจัดการสถานการณ์อุทกภัย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ นำไปปฏิบัติ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และได้ติดตามการทำงานระดับพื้นที่ จ.ขอนแก่น และอุบลราชธานี

บิ๊กตู่เผยติดตามแก้ปัญหาน้ำท่วม

จากการรายงานผลการดำเนินงานทั้ง2 จังหวัด ทำให้ทราบว่ามีการจัดการสถานการณ์อย่างเต็มที่ ตามแผนเผชิญเหตุที่รัฐบาลสั่งการไว้ล่วงหน้า มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และหน่วยงานต่างๆ ระดมสรรพกำลัง รวมถึงประสานงานแจ้งข่าวสารถึงพี่น้องประชาชนในการระมัดระวังและช่องทางการขอรับความช่วยเหลือ ทำให้มีความมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ย้ำรัฐบาลพร้อมสนับสนุนตามแผน

“ผมได้เน้นย้ำกับทั้ง 2จังหวัดว่ารัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามแผนการปฏิบัติต่างๆ ทั้งในรูปแบบของงบประมาณเพิ่มเติม กำลังคน เครื่องจักรกล และทรัพยากรอื่นๆ ที่จำเป็นอย่างเต็มที่ โดยสิ่งสำคัญคือเราจำเป็นต้องระบายน้ำให้ได้เร็วและมากที่สุด เพื่อบรรเทาสถานการณ์ และเตรียมพร้อมหากจะมีพายุเข้ามาอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า แม้จะลงพื้นที่เพียง 2 จังหวัด แต่ก็เป็นห่วงพี่น้องจังหวัดอื่นๆ ที่เผชิญอุทกภัยอยู่ตลอด และจะคอยติดตามการดำเนินงานของแต่ละจังหวัด และจะลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนอีกเท่าที่จะทำได้

นายกฯลุยตรวจเพชรบูรณ์6ต.ค.นี้

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ มีกำหนดการลงพื้นที่ตรวจติดตามแก้ปัญหาอุทกภัย ที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ในวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้ จ.เพชรบูรณ์ เป็นหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลร่องมรสุมหย่อมความกดอากาศต่ำ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่งผลให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก เกิดอุทกภัยใน6 อำเภอ และยังคงเป็นพื้นที่เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง ตามรายงานข้อมูลคาดการณ์และแจ้งเตือนภัยของปภ.โดยนายกฯ จะติดตามสถานการณ์ รับฟังปัญหาและพบปะให้กำลังผู้ประสบภัยอย่างใกล้ชิด

สั่งเสริมกำลังทหารช่วยจุดวิกฤต

ขณะที่ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการทุกเหล่าทัพ เสริมกำลังพลและเครื่องมือเข้าไปช่วยวิกฤตอุทกภัยในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อช่วยประชาชนที่ประสบอุทกภัย และร่วมรับมือปริมาณน้ำสะสมที่เกิดจากฝนตกต่อเนื่อง และผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนสูง ระหว่างวันที่ 5-13 ตุลาคม 2565 โดยประสานฝ่ายปกครอง ช่วยประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติม เน้นย้ำให้การช่วยเหลือโรงพยาบาล โรงเรียนที่น้ำท่วมขัง และดูแลชาวบ้านที่ยังติดค้างในพื้นที่ให้ทั่วถึง

มท.1ชี้ถ้าไม่มีมรสุมไม่ซ้ำรอยปี’54

วันเดียวกัน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม ว่าคาดว่ามวลน้ำจะถึง จ.อุบลราชธานี วันที่ 8 ตุลาคมนี้ ซึ่งจะพีคสุด โดยขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าตลิ่ง จึงเร่งระบายเพื่อลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด ส่วนลุ่มเจ้าพระยา การระบายน้ำที่เขื่อนชัยนาท และเขื่อนเจ้าพระยา เมื่อบวกกับน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ปริมาณน้ำยังไม่ส่งผลกระทบต่อ กทม.ถ้าไม่มีฝนตกเข้ามาอีก

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า สถานการณ์ภาพรวมจะไม่ซ้ำรอยปี 2554 ถ้าไม่มีพายุฤดูร้อนเข้ามาอีก หรือร่องมรสุมพาดผ่าน ขณะนี้คาดว่าจะมีร่องมรสุมจากอิทธิพลความกดอากาศจากประเทศจีน ส่วนปี 2554 มีพายุหมุนฤดูร้อน 3 ลูก และมีร่องมรสุมพาดผ่านติดต่อกัน 3 ครั้ง จึงทำให้มีฝนมากและระบายน้ำไม่ทัน แต่ปีนี้จะหนักในบริเวณน้ำไหลผ่าน ถ้าไม่มีมรสุมหรือร่องมรสุมเข้ามาอีก จะสามารถบริหารจัดการน้ำได้

วอนงดเที่ยวอุทยานในภาคเหนือ

ขณะเดียวกัน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการปิดอุทยานแห่งชาติช่วงสถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ ว่ากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้หัวหน้าอุทยานต่างๆ พิจารณาตามความเหมาะสม เพราะขณะนี้อุทยานต่างๆ ได้รับผลกระทบแตกต่างกันไป เช่น ในภาคเหนือ อุทยานที่มีน้ำตก จะปิด 100% เพราะอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลม ไม่มีความปลอดภัยกับนักท่องเที่ยว ขณะที่อุทยานบางส่วนที่ยังไม่ปิด ได้ให้เจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว รวมถึงสถานการณ์ดินโคลนถล่ม ซึ่งกรมทรัพยากรธรณี ได้เฝ้าระวังอยู่

เตือนปชช.อดใจท่องเที่ยวน้ำตก

นายวราวุธฝากเตือนประชาชนว่าในอุทยานที่มีน้ำตกและป่าขอให้ประชาชนอดใจรออีกสักนิด เพราะการท่องเที่ยวช่วงนี้นอกจากไม่สวยงามแล้วยังเป็นอันตราย เวลาไปเที่ยวน้ำตก หากเห็นน้ำเปลี่ยนสีเป็นโคลน ให้รีบออกจากพื้นที่ทันที เพราะน้ำป่ากำลังจะมา ส่วนอุทยานทางทะเลฝั่งอันดามัน ฤดูกาลดำน้ำกำลังจะเปิด จึงขอเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยว แต่ขอให้ตรวจสอบสภาพอากาศก่อน

อุตุฯเตือนทั่วไทยยังมีฝนต่อเนื่อง

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่าความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ โดยมีลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นเข้าปกคลุมภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคกลาง รวมทั้งกทม.และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มในระยะนี้

ทะเลอันดามันคลื่นลมปานกลาง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

GISTDAเผย11ลุ่มน้ำ/ท่วม3ล้านไร่

สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม โดยใช้ดาวเทียม Sentinel-1 พบว่าน้ำท่วมขังรวมทั้งสิ้น 3,289,514 ไร่ ในพื้นที่บางส่วนของ 11 ลุ่มน้ำสำคัญ ได้แก่ ลุ่มน้ำยม ลุ่มน้ำน่าน ลุ่มน้ำสะแกกรัง ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำป่าสัก ลุ่มน้ำบางปะกง ลุ่มน้ำปราจีน ลุ่มน้ำโขง ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล รวม 25 จังหวัด ในเขตภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

นาข้าวเสียหายแล้วกว่า5แสนไร่

ส่วนพื้นที่นาข้าวที่ได้รับผลกระทบแล้วรวม 526,577 ไร่ โดยนอกจากนั้นยังเป็นพื้นที่เกษตรกรรมอื่นๆ ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมสองฝั่งแม่น้ำสายหลักและสายรอง ชุมชนที่อยู่อาศัย และเส้นทางคมนาคมบางส่วน โดยทาง GISTDAได้ส่งต่อข้อมูลภาพจากดาวเทียมให้กับหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้สนับสนุนการบริหารจัดการตามภารกิจ ทั้งด้านการวางแผน การติดตาม เพื่อประเมินสถานการณ์ได้ทันท่วงที

ศรีสะเกษน้ำทะลัก25โรงเรียนอ่วม

ที่ จ.ศรีสะเกษ ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ว่าโรงเรียนบ้านหนองบัวไชยวาน ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ นายสุเทพ ศรบุญทอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1พร้อมคณะ ได้นั่งเรือไปเยี่ยมและให้กำลังใจคณะครูและนักเรียน ภายหลังประสบภัยน้ำท่วมจนอาคารเรียน อุปกรณ์การเรียนการสอน ได้รับความเสียหาย บางส่วนครูได้ขนย้ายขึ้นที่สูงแล้ว แต่ก็ขนย้ายได้ไม่มาก เนื่องจากน้ำมาเร็ว

นายสุเทพ กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนในสังกัด 258 แห่ง ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเล็กน้อย 11 แห่ง น้ำท่วมปานกลาง 4 แห่ง และน้ำท่วมหนัก 25 แห่ง มีความจำเป็นต้องปิดโรงเรียน 27 แห่ง เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมอาจเป็นอันตรายต่อคณะครูและนักเรียน โดยจะให้โรงเรียนพิจารณาปิดการเรียนการสอนด้วยเหตุพิเศษตามอำนาจที่มี และรายงานให้ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ทราบต่อไป

อพยพช้าง100เชือกหนีน้ำกรุงเก่า

ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำลพบุรี ที่ไหลผ่าน ต.บ้านเกาะ และ ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 30 เซนติเมตร จนเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนริมแม่น้ำและวังช้างอยุธยาแลเพนียด หมู่บ้านช้าง หมู่ 3 ต.สวนพริก แม้ว่าจะมีการนำกระสอบทรายมากั้น แต่ทางวังช้างฯ ไม่มั่นใจ เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นมาก จึงเตรียมที่จะอพยพช้างที่มีอยู่กว่า 100 เชือกไปอยู่ในเพนียดคล้องช้าง ถ้าหากไม่พ้นก็จะอพยพไปยังบริเวณพระราชานุวารรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหารราช ต.ภูเขาทอง โดยขณะนี้น้ำได้ท่วมทุ่งทะเลหญ้าที่ปลูกอาหารให้ช้างทั้งหมดแล้ว ทำให้ประสบปัญหาอาหารที่อาจจะขาดแคลนในเร็วๆนี้

น้ำท่าจีนทะลักท่วมสุพรรณฯ

ดร.เอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า ระดับน้ำแม่น้ำท่าจีน อยู่ที่ 5.98 เมตร และมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับเขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง ระบายน้ำเพิ่มขึ้น ทางเทศบาลฯ จึงป้องกันไม่ให้น้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจ หากประชาชนต้องการกระสอบทรายเพื่อใช้ในการป้องกันน้ำท่วม ขอให้มารับได้ที่เทศบาลฯ

อ่างสียัดน้ำ ไหลล้นตลิ่งท่วมบ้าน

ที่ จ.ฉะเชิงเทรา จากฝนที่ตกสะสม ส่งผลให้พื้นที่ อ.สนามชัยเขต อ.ท่าตะเกียบ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองระบม และอ่งเก็บน้ำสียัด เริ่มล้นสปิลเวย์ จนต้องเร่งระบายน้ำ จนลงสู่คลองท่าลาด เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหาย ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งสำรวจและช่วยเหลือ ขณะที่ในพื้นที่ อ.พนมสารคาม ภายหลังฝนตกชุกต่อเนื่อง ทำให้น้ำในคลองท่าลาด เพิ่มระดับสูงขึ้นจนเอ่อล้นท่วมบ้านเรือนที่อยู่ริมสองฝั่งคลองดังกล่าว

สำหรับ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมแล้ว 5 ตำบลได้แก่ ต.เขาหินซ้อน ต.เกาะขนุน ต.ท่าถ่าน ต.พนมสารคาม และ ต.เมืองเก่า ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งสำรวจ ประเมินความเสียหายและให้การช่วยเหลือต่อไป

ชลประทานแปดริ้วโร่แจ้งเตือนรับน้ำ

ทั้งนี้ โครงการชลประทานฉะเชิงเทราได้ออกหนังสือแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนหลังจากน้ำในพื้นที่ อ.สนามชัยเขตและอ.ท่าตะเกียบไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำคลองสียัดและอ่างเก็บน้ำคลองระบมเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเกินเกณฑ์การควบคุมปริมาณน้ำเก็บกักที่กำหนด อีกทั้งยังมีฝนตกต่อเนื่อง เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการควบคุมระดับน้ำ จึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำในอัตรา 1.00 - 1.50 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน จากอัตราการระบายในปัจจุบัน 0.500 - 0.800 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

กทม.เตือน4เขต ระวังท่วมหนัก

อีกด้านหนึ่ง น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม.และนายเจษฎา จันทรประภา รอง ผอ.สำนักการระบายน้ำ กทม.แถลงถึงสถานการณ์น้ำใน กทม.ว่าสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) เตือนว่าน้ำเหนือจะลงมาในวันเดียวกันนี้และจะสูงขึ้นในวันที่ 7-8 ตุลาคม 2565ทางนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.จึงสั่งให้รายงานสถานการณ์ ทั้งก่อนและหลังจากฝนตก และแจ้งเตือนประชาชนทราบ

ด้าน นายเจษฎา กล่าวว่ากทม.เตรียมแผนรับมือน้ำเหนือและน้ำฝนไว้แล้ว โดยจัดกระสอบทรายอุดจุดฟันหลอ 76 จุดทำแผนบังคับน้ำปรับทางน้ำไหลที่คลองบางซื่อ คลองชวดใหญ่ตัดคลองลาดพร้าว ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และบังคับน้ำปรับทิศทางน้ำไหลบริเวณคลองบางเขนตัดคลองเปรมประชากร ติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮดรอลิกที่สถานีสูบน้ำพระโขนง เพิ่มอีก 5 เครื่อง พร้อมกับประสานงานกับกรมชลประทานต่อเนื่อง ขณะที่พยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าพื้นที่ทางใต้ 4 เขต ได้แก่ เขตบางนา บางขุนเทียน ลาดกระบัง และประเวศ อาจมีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง จึงขอให้เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง