วันที่ 10 ตุลาคม 2565 ที่หน้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3อ.เมืองนครราชสีมา พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 พร้อมด้วยพล ต.ต.คีรีศักดิ์ รอง ผบช ภ.3 พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจน์กิจ ผบก สส.ภ.3 พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก.ภ.นครรสชสีมา และชุดสืบสวน กก สืบสวน 1 บก.ภ.3 แถลงข่าวการกำชับในการเร่งรัดสืบสวนจับกุมคนร้ายที่ประกอบเหตุ ให้ได้โดยเร็ว โดยมอบหมาย พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ3 ควบคุมการปฏิบัติ
ต่อมาวันที่ 7 ตุลาคม 2565 อำนวยการโดย พลตตสายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ชูสวัสดิ์ จันทร์โรจนกิจ ผบก.สสภ3 พล.ต.ตอิทธิพล นาคค่า ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา, พ.ต.อ.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผบกสสภ3 พ.ต.อ.ยุทธพงษ์ รอดนวล ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่, พ.ต.อ.ธัชพล ส่องแสง ผกก.สภ.บัวใหญ่ ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.อิทธิพล เพ็ญเดิมพันธ์ สว.ปรก กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3, ฝ่ายสืบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่
จับกุมตัว นายกานพล กองมงคล อายุ 54 ปี หมายจับของศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 108/65 ลงวันที่ 5 ต.ค.2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ “พยายามฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” พร้อมด้วยของกลาง ประกอบด้วย (1) สมุดธนาคารกสิกรไทยและธนาคารอื่นๆ รวม จำนวน 7 เล่ม (2) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 6 เล่ม (3) โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ true จํานวน 1 เครื่อง (4) บัญชีรายชื่อ ข้าราชการตำรวจ ระดับรอง สว. จำนวน 8 แผ่น (5) วิทยุสื่อสาร ยี่ห้อ Spender จำนวน 1 เครื่อง (6)ซิมการ์ดเครือข่าย ดีแทคและทรู จำนวน 11 อัน (7) บัตรกดเงินสด (ATM) 1 ใบ
จากการซักถาม นายกานพล ยอมรับว่า ตนได้แอบอ้างเป็น พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.น.9 ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.หนองคาย นำรูปประจำตัวไปสมัครแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อทำการ หลอกลวงนายตำรวจ จำนวน 14 ราย และมีรายชื่อนายตำรวจ จำนวน 40 รายในสมุดบัญชี ที่หามาจาก บัญชีรายชื่อการแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งระดับรองสารวัตร ทั้ง 9 ภาค ที่ลงไว้ในโซเซียลมิเดีย จะใช้วิธีการ พุดคุยในลักษณะเดียวกันทุกราย โดยจะโทรไปหาเจ้าหน้าที่วิทยุสื่อสารของ สภ.ต่างๆ ให้นายตำรวจ หลาย ๆ คนที่ถูกหลอกติดต่อกลับนายเวรหน้าห้อง เมื่อพูดคุยจะอ้างว่าตนเองคือ พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.น.9 ว่า สามารถ ช่วยเหลือในการแต่งตั้งขึ้นตำแหน่งสารวัตรได้ บางรายให้ส่งประวัติการรับราชการมาให้ทางแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อจะได้ส่งให้นายพิจารณา และเรียกเงินเป็นค่าดำเนินการ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหลาย 14 ราย ไม่หลงเชื่อ จึงไม่โอนเงินให้ผู้ต้องหา กระทั่งทางชุดสืบสวน กก.สืบสวน 1 บก.สส.ภ.3
จากการสืบทราบว่า นายกานพล ผู้ต้องหารายนี้ เคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันมาก่อนและถูกตำรวจกอง ปราบปราม จับกุมตัวได้เมื่อปี 2555 ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 8 เดือน และถูกฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม จับกุมตัวได้ เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2562 ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี ในคดีหลอกเข้านักเรียนนายสิบตำรวจ ได้เงิน จำนวน 30,000 บาท และ ที่ สภนาจะหลวย จว.อุบลราชธานี คดีหลอกเข้านักเรียนนายสิบตำรวจ เช่นกัน ถูกศาลตัดสินจำคุก 4 เดือน พอพ้นโทษออกมาก็ไม่เข็ดหลาบยังมีพฤติกรรมแบบเดิมอีก จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนติดตามไปจับกุมตัวได้ขณะหลบหนีไปกบดานที่ ห้องเช่าเลขที่ 5 ชั้น 3 ร้านเกมส์ไอเพลย์ เลขที่ 43/6 ถ.เทวฤทธิ์ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ เหตุเกิดที่ สภ.บัวใหญ่ ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จว.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 22 กย2565 จับกุมตัวได้ที่ ห้องเช่าเลขที่ 5 ชั้น 3 ร้านเกมส์ไอเพลย์ เลขที่ 43/6 ถ.เทวฤทธิ์ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
จากการสืบสวน เชื่อว่าคนร้ายรายนี้ นอกจากที่รับสารภาพแล้ว น่าจะเคยกระทำผิดหลายครั้ง ในหลายพื้นที่ จากการสอบสวน นายกานพล ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพเป็นเซลล์ขายแผงโซล่าเซลล์อยู่ ในพื้นที่ภาคเหนือ กับลูกและภรรยา และเคยคลุกคลีกับพรรคพวกที่เป็นตำรวจมาก่อน ทำให้รู้ถึงแนวทาง ในการวิ่งเต้นแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ จึงไปซื้อซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ มาใช้กับ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว ก่อนนำมาสมัครแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อ พ.ต.อ.พรชัย และใช้รูปประจำตัวของ พ.ต.อ.พรชัย ซึ่งหามาได้จากทางโซเชียลมีเดีย มาตั้งเป็นรูปโปรไฟล์ จากนั้นใช้วิธีโทรศัพท์ไปตามโรงพัก ต่างๆ เพื่อสุ่มหลอกลวงนายตำรวจสัญญาบัตร อ้างว่า ตนเป็นนายตำรวจระดับสูงปฏิบัติหน้าที่ใน สํานักงาน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และสามารถช่วยเหลือในการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้น ตำแหน่งสารวัตรได้ เมื่อเหยื่อตายใจหลงเชื่อก็จะใช้แอพพลิเคชั่นไลน์ทักไปหาเพื่อความน่าเชื่อถือ โดยที่ เรียกค่าดำเนินการรายละ 300,000 บาท แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดหลงเชื่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี