สองคนร้ายขับรถจักรยานยนต์กระหน่ำยิง”คมบ้านเล”8 นัดดับคาร้านน้ำชากลางหมู่บ้านพบประเด็นเคยเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เร่งล่าสองคนร้ายพบมีการโทรศัพท์ล่อออกมายิง

วันที่ 10 ตุลาคม 2565  ร.ต.อ.ขรรชัย แก้วทอง รอง สว.สอบสวน สภ.ควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา รับแจ้งได้เกิดเหตุยิงกันตายที่หน้าบ้าน ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นเป็นร้านน้ำชาตั้งอยู่กลางหมู่บ้าน หลังจากลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ศราวุธ เจี้ยงเต็ม ผู้กำกับการสภ.ควนมีด และตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนและฝ่ายปราบปราม

พบร่างนายชูสิทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี หรือคมบ้านเล ถูกยิงเสียชีวิตนอนหงายอยู่หน้าร้านขายโรตีสวมเสื้อโปโลสีดำนุ่งผ้าถุงใส่รองเท้าแตะและมีกระเป๋าคาดตัว

ในสภาพที่มีบาดแผลถูกกระหน่ำยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าบริเวณลำตัว 8 นัด และพบหัวกระสุนในตัว 2 หัว รวมทั้งปลอกกระสุนปืน 9 มม.ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 8 ปลอก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้บนถนนฝั่งตรงข้ามกับร้านขายน้ำชาก็ยังมีรถยนต์กระบะ 4 ประตู ของผู้ตายจอดอยู่

จากการสอบถามพยานแวดล้อมทราบว่าขณะเกิดเหตุ นายชูสิทธิ์  ได้ขับรถยนต์กระบะ มาจอดเยื้องกับร้านน้ำชา และลงจากรถเดินมาซื้อโรตี ขณะที่ยืนอยู่หน้าร้านในลักษณะหันหลัง ได้มีคนร้าย 2 คันขับรถจักรยานยนต์ไม่ทราบชนิด มาจอดบนถนนหน้าร้าน และคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายได้ลงจากรถและเดินมาทางด้านหลังเรียกชื่อ บัง บัง บัง ก่อนที่จะชักอาวุธปืนออกมากกระหน่ำยิงนายชูสิทธิ์ 8 นัด ล้มลงเสียชีวิตคาที่ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่นั่งกินน้ำชาอยู่ในร้านหลายคน ส่วนคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

นอกจากนี้จากนี้ยังทราบว่าก่อนเกิดเหตุได้มีโทรศัพท์เข้ามานัดแนะ นายชูสิทธิ์ ให้ออกไปพบที่หน้าร้านน้ำชาเพื่อพูดคุยเรื่องบางอย่าง นายชูสิทธิ์ จึงออกไปพบกระทั่งถูกยิงเสียชีวิต โดยเชื่อว่าน่าจะเป็นแผนลวงของคนร้ายที่ล่อ ให้นายชูสิทธิ์ ออกไปพบ 

ส่วนในทางการสืบสวนจากการตรวจสอบประวัติผู้ตายพบว่าเคยมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยก่อนหน้านี้เคยค้าใบกระท่อมอยู่แถวๆชายแดนไทยมาเลเซียในสมัยที่ใบกระท่อมยังผิดกฏหมาย  และก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนเพื่อนที่อยู่ในทีมเดียวกันก็ถูกจับยาบ้าด้วย

เบื้องต้นตำรวจจึงมุ่งประเด็นไปที่ขัดแย้งเรื่องยาเสพติด และในทางการสืบสวนยังไม่พบประเด็นเรื่องการฆ่าล้างหนี้ ที่มีบางกระแสออกมา เนื่องจากผู้ตายก็ไม่ใช่คนในพื้นที่เกิดเหตุและคนชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่รู้จักและก็ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งชัดเจน ทราบเพียงว่ามีญาติมีเรือประมงอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ

ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างติดต่อญาติที่ใกล้ชิดมาสอบสวนในเชิงลึกทั้งเรื่องส่วนตัวและการงาน ว่ามีความขัดแย้งกับใครบ้างรวมทั้งเร่งหาเบาะแสของคนร้ายทั้งสองคน