สภากทม. ดันกิจกรรม “เยาวชนคนดนตรี” สร้างทักษะดนตรีให้เด็กช่วงปิดเทอม เตรียมยื่นญัตติศึกษารร.ดนตรีกทม. สร้างโอกาสสู่เส้นทางอาชีพ 

วันที่ 19 ต.ค. 2565 นางสาวนฤนันมนต์ ห่วงทรัพย์ โฆษกสภากรุงเทพมหานคร แถลงข่าว กิจกรรม “เยาวชนคนดนตรี” กิจกรรมภายใต้การผลักดันของสภากรุงเทพมหานครณ โถงอาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกทม. ดินแดง โดยกล่าวว่า ตามที่สภากรุงเทพมหานครได้เสนอญัตติให้กรุงเทพมหานครพิจารณาสถานที่จัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนเรียน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว(สวท.) รับนโยบายนำร่องจัดกิจกรรม “เยาวชนคนดนตรี” เพื่อสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนอย่างสร้างสรรค์ และสามารถค้นหาศักยภาพของตนเอง เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต ทักษะทางสังคม และพัฒนาทักษะความสามารถด้านต่างๆ สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต

สำหรับกิจกรรม “เยาวชนคนดนตรี” ประกอบด้วยการฝึกทักษะการขับร้องเบื้องต้น การฝึกทักษะด้านโสตประสาทและทักษะการเล่นเครื่องดนตรี แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ กิจกรรมนำร่องช่วงปิดภาคเรียนที่ 1 เดือนตุลาคม 2565 จัดระหว่างวันที่ 10-28 ตุลาคม เปิดสอนการขับร้องแบบกลุ่ม และฝึกโสตประสาท และ กิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 เดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคม 2566 เปิดสอนการฝึกทักษะเล่นเครื่องดนตรี ทั้งดนตรีไทยและดนตรีสากล การขับร้องและโสตประสาท กีตาร์ คีย์บอร์ด กลอง ไวโอลิน วิโอลา เชลโล ดับเบิ้ลเบส ขิม ขลุ่ย ซึ่งจะเปิดรับสมัครช่วงเดือนมีนาคม 2566  เด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้องค์ประกอบของดนตรีทั้งทำนองและจังหวะ สามารถนำไปต่อยอดการฝึกทักษะทางด้านดนตรีอื่นๆ ได้ เด็กที่สนใจ ติดตามรายละเอียดการรับสมัคร ได้ทาง Facebook เพจ“สภากรุงเทพมหานคร” และ เพจ “สำนักวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว” โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่จะรับสมัครจำนวนจำกัด

“สภากรุงเทพมหานครเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนของกรุงเทพมหานครได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปิดภาคเรียน เพื่อเป็นการเพิ่มทักษะและประสบการณ์ตรง และลดภาระเรื่องการดูแลบุตรหลานในช่วงที่ผู้ปกครองต้องออกไปทำงานหรือประกอบอาชีพจึงได้ผลักดันให้จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมจัดกิจกรรม โดยครั้งที่ 1 ได้ใช้สถานที่อาคารไอราวัตพัฒนา กทม. ดินแดงและศูนย์เยาวกรุงเทพมาหนคร (ไทย-ญี่ปุ่น) ดินแดง กิจกรรมครั้งที่ 2 ที่จะจัดในช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 จะมีการจัดทั้งศูนย์เยาวชน ศูนย์กีฬา รวมถึงโรงเรียนกทม. ซึ่งสำนักการศึกษาจะให้ใช้สถานที่และจัดงบอาหารกลางวันให้เด็กด้วย” โฆษกสภากทม. กล่าวและว่า นอกจากนี้ ในส่วนของโรงเรียน
ดนตรีกรุงเทพมหานคร ที่เดิมมีโครงการแต่เงียบหายไป สภากทม.จะสนับสนุนเด็กและเยาวชนให้ได้รับโอกาสศึกษาด้านดนตรีโดยจะต้องมีการหารือหลายฝ่ายทั้งเรื่องหลักสูตรและงบประมาณซึ่งสภากทม.จะยื่นญัตติเข้าที่ประชุมสภากรุงเทพมหานครศึกษาต่อไป 

“ดิฉันเข้าใจดีในฐานะที่เคยเป็นเด็กนักเรียนดนตรีมาก่อนการเรียนดนตรีเฉพาะด้านนั้นต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูง ถ้าเด็กที่ไม่มีกำลังทรัพย์ได้มีโอกาสก็จะช่วยสานฝันต่อยอดไปสู่นักดนตรีอาชีพได้ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะผลักดัน 1 ครอบครัว1 ซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อให้เด็กได้เป็นอนาคตของครอบครัวต่อไป”สก. นฤนันมนต์ กล่าว