วันอังคาร ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2566
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
‘กสม.’ติงออกกฎ‘ป่วยจิต’ห้ามเป็นขรก. หวั่นเอกชนเอาอย่างไม่จ้างงาน

‘กสม.’ติงออกกฎ‘ป่วยจิต’ห้ามเป็นขรก. หวั่นเอกชนเอาอย่างไม่จ้างงาน

วันพฤหัสบดี ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 13.41 น.
Tag : กสม. ป่วยทางจิต จ้างงาน ข้าราชการ ขรก. เอกชน
  •  

กสม.ติงออกกฎป่วยจิตห้ามเป็นขรก. หวั่นเอกชนเอาอย่างไม่จ้างงาน-ชี้รักษาต่อเนื่องหายขาดได้

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ในการแถลงข่าวประจำสัปดาห์ของสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2565 เห็นชอบร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เสนอปรับปรุงกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2553 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน


โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจโรคจิตหรือโรคอารมณ์ผิดปกติโดยคณะกรรมการแพทย์ของ ก.พ. ก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษา สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎ ก.พ.ดังกล่าวมีการยกเลิก “โรควัณโรคในระยะแพร่กระจายเชื้อ” ซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้ออกจากลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือน ขณะที่มีการเสนอให้โรคจิต (psychosis) หรือโรคอารมณ์ผิดปกติ (mood disorders) ที่มีอาการเด่นชัดรุนแรงหรือเรื้อรังและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่เป็นลักษณะต้องห้าม

ซึ่งต่อมา กสม. ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ กรณีการแก้ไขร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรคดังกล่าวว่าอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิในการเข้าถึงการมีงานทำของกลุ่มคนพิการทางจิตสังคม และกลุ่มผู้ป่วยโรคจิตและโรคอารมณ์ผิดปกติ และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและตีตราว่าบุคคลเหล่านี้ไม่สามารถทำงานได้ อันนำไปสู่การเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความพิการหรือสุขภาพ

ด้วยเหตุนี้ เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2565 กสม. จึงได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อกรณีการกำหนดให้โรคจิต หรือโรคอารมณ์ผิดปกติเป็นลักษณะต้องห้ามของการเข้ารับราชการพลเรือน โดยมีผู้แทนสำนักงาน ก.พ. ผู้แทนหน่วยงานด้านสุขภาพจิต คณะอนุกรรมาธิการกิจการคนพิการ วุฒิสภา และภาคีเครือข่ายคนพิการร่วมให้ข้อมูลและข้อเสนอแนะ

“ผลจากการประชุมหารือปรากฏรายงานข้อเท็จจริงยืนยันว่า กลุ่มคนพิการทางจิตสังคม และกลุ่มผู้ป่วยทางจิตเวชฯ สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและหายขาดจากโรคได้ หากได้รับการบำบัดรักษาฟื้นฟูต่อเนื่อง และได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานให้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ปฏิบัติงานได้” นายวสันต์ ระบุ

นายวสันต์ กล่าวต่อไปว่า ในทางกลับกัน ร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. ....  กลับมิได้ระบุลักษณะของโรคร้ายแรงอื่นที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือเรื้อรังและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ไว้ด้วย ดังนั้น การระบุชื่อ “โรคจิตหรือโรคอารมณ์ผิดปกติ” ไว้เป็นการเฉพาะ จึงเป็นการเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งความพิการหรือสุขภาพ และอาจเป็นการเปิดช่องให้มีการใช้ดุลยพินิจในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน อันส่งผลกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพของกลุ่มคนพิการทางจิตสังคม และกลุ่มผู้ป่วยทางจิตเวช โรคจิตฯ

ซึ่งขัดแย้งกับนโยบายการส่งเสริมการมีงานทำของคนพิการในหน่วยงานของรัฐ และไม่สอดคล้องตามหลักการไม่เลือกปฏิบัติดังที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ (CRPD) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีให้การรับรอง นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นว่า การระบุให้โรคจิตหรือโรคอารมณ์ผิดปกติเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือน อาจส่งผลให้กลุ่มคนพิการทางจิตสังคม และกลุ่มผู้ป่วยทางจิตเวชฯ ปฏิเสธการเข้าสู่กระบวนการรักษา และทำให้สถานการณ์ความเจ็บป่วยทางจิตเวชในสังคมมีความรุนแรงมากขึ้น

ในเบื้องต้นที่ประชุมจึงมีข้อเสนอแนะให้มีการแก้ไขร่างกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ข้อ 4.2 โดยนำชื่อ “โรคจิต (psychosis) หรือโรคอารมณ์ผิดปกติ (mood disorders)” ออกจากร่าง กฎ ก.พ. ดังกล่าว และนำข้อความใน กฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2553 ข้อ (5) “โรคติดต่อร้ายแรงหรือโรคเรื้อรังที่ปรากฏอาการเด่นชัดหรือรุนแรงและเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ตามที่ ก.พ. กำหนด” มาใช้ ซึ่งมีความครอบคลุมโรคโดยรวมแล้ว และสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงได้

นอกจากนี้ ยังมีข้อเสนอให้สำนักงาน ก.พ. ศึกษาและพัฒนาระบบการประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของข้าราชการโดยไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคลด้วยเหตุแห่งความพิการหรือสุขภาพ ทั้งนี้ การกำหนดให้โรคจิตหรือโรคอารมณ์ผิดปกติที่มีอาการเด่นชัดรุนแรงหรือเรื้อรังเป็นลักษณะต้องห้ามของผู้ที่จะเข้ารับราชการพลเรือน ต้องคำนึงถึงสิทธิของคนพิการ

ซึ่งรวมถึงสิทธิของผู้ป่วยทางจิตเวช โรคจิต และโรคอารมณ์ผิดปกติ โดยเฉพาะประเด็นสิทธิในการทำงาน สิทธิในโอกาสที่จะหาเลี้ยงชีพโดยงานซึ่งตนเลือกหรือรับอย่างเสรี รวมถึงการที่จะไม่ถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งสุขภาพด้วย ทั้งนี้ กสม. จะรวบรวมข้อมูล ความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้เสนอต่อนายกรัฐมนตรี และเลขาธิการ ก.พ. ต่อไป

นายวสันต์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตัวแทนจากสำนักงาน ก.พ. ได้รับฟังข้อห่วงใยจากผู้เกี่ยวข้อง ทั้งในเวทีที่ กสม. และที่คณะอนุกรรมาธิการกิจการคนพิการ วุฒิสภา จัดขึ้น หลังจากนี้จะได้นำข้อห่วงใยต่างๆ นำเรียนต่อ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาต่อไป โดยจากการพูดคุยนั้นเข้าใจความปรารถนาดีของทาง ก.พ. ในการปรับปรุงรายละเอียดว่าด้วยโรคต้องห้าม รวมถึงต้องการทำให้เกิดความชัดเจนขึ้น แต่ในที่ประชุมมองว่าจะเป็นผลเสียเพราะทำให้เกิดการตีตราและนำไปสู่การเลือกปฏิบัติ

“เรื่องนี้คนที่จะวินิจฉัยจริงๆ ก็มีอยู่ไม่มาก ขณะเดียวกันกระบวนการในการวินิจฉัยก็ใช้เวลาที่นาน แต่ว่าถ้าออกกฎนี้มาก็เข้าใจว่าจะทำให้เกิดการตีความไปในทำนองที่ว่าคนเหล่านี้ทำงานไม่ได้เลย และนอกจากราชการแล้ว เอกชนหรือหน่วยงานต่างๆ ก็อาจจะเอาอย่าง แล้วก็ทำให้การรับคนเหล่านี้เข้าทำงานมีปัญหาเกิดขึ้น กระทบสิทธิ์คนเหล่านี้อย่างรุนแรง ที่อินโดนีเซียก็เคยมีกฎลักษณะนี้ออกมา ซึ่งคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการของสหประชาชาติก็ได้ท้วงติงและเสนอให้ยกเลิก ซึ่งก็อยู่ระหว่างการดำเนินการยกเลิก ของไทยก็ไม่ควรจะใส่เข้าไป” นายวสันต์ กล่าว

น.ส.สุภัทรา นาคะผิว กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า ในวันที่ 28 ต.ค. 2565 จะมีเวทีประชุมในเรื่องเดียวกันนี้ ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) โดยที่ผ่านมาทาง ก.พ. ก็รับฟังอย่างมีท่าทีที่ดี และบอกว่าจะรวบรวมข้อมูลเสนอต่อรองนายกฯ วิษณุ เพื่อพิจารณาต่อไป

- 006

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘กสม.’ขอนายกฯไม่เลื่อนบังคับใช้กฎหมายป้องกัน‘ทรมาน-อุ้มหาย’ ‘กสม.’ขอนายกฯไม่เลื่อนบังคับใช้กฎหมายป้องกัน‘ทรมาน-อุ้มหาย’
  • เจอกันอยุธยา!‘สุชาติ’จัดเต็มคาราเบล 1 หมื่นอัตรา ในวันนัดพบแรงงาน 17-18 ม.ค. เจอกันอยุธยา!‘สุชาติ’จัดเต็มคาราเบล 1 หมื่นอัตรา ในวันนัดพบแรงงาน 17-18 ม.ค.
  • ‘กสม.’ยกเคส‘บางเขน’ วอนผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหา‘ที่ดินตาบอด’ ‘กสม.’ยกเคส‘บางเขน’ วอนผู้ที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ปัญหา‘ที่ดินตาบอด’
  • ‘รมว.เฮ้ง’ปลื้มโครงการจ้างงานคนพิการสุดปัง นายจ้างแห่ให้สิทธิทะลุเป้า 82% ‘รมว.เฮ้ง’ปลื้มโครงการจ้างงานคนพิการสุดปัง นายจ้างแห่ให้สิทธิทะลุเป้า 82%
  • กสม.เปิดสถิติร้องเรียนละเมิดสิทธิมนุษยชนปี 65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ กสม.เปิดสถิติร้องเรียนละเมิดสิทธิมนุษยชนปี 65 สูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ‘ผู้พิการ’เฮ!‘รมว.เฮ้ง’ผลักดันการจ้างงาน แนะค้นหาลูกจ้างที่เว็บไซต์‘ไทยมีงานทำ’ ‘ผู้พิการ’เฮ!‘รมว.เฮ้ง’ผลักดันการจ้างงาน แนะค้นหาลูกจ้างที่เว็บไซต์‘ไทยมีงานทำ’
  •  

Breaking News

'ชูวิทย์'เปิดคลิปคุยพยานชาวสิงคโปร์ นัดบินด่วนมาไทยมัดตร.ไถเงิน 31 ม.ค.นี้

'ประวิตร'สั่งปราบโกงออนไลน์ให้สิ้นซาก เอาผิด จนท.รัฐ เฉียบขาด

'มิ่งขวัญ'ไม่ติดใจชวดนั่งแคนดิเดตนายกฯ'พปชร.' พร้อมร่วมทีมเศรษฐกิจ' 2 กุมาร'

'นอภ.ทับสะแก'พร้อมชุดตะวันหาดใหญ่ ค้นบ้านเป้าหมาย ยึดยาบ้า​ 98,000 เม็ด

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายประพันธ์ สุขทะใจ ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved