ดินสไลด์ถนนขาดหลายเส้นทาง
ฝนถล่ม‘ภูเก็ต’
เสาไฟฟ้าล้ม/รถติดยาวเหยียด
‘สตูล’น้ำท่วมขยายพื้นที่6อำเภอ
ชาวบ้านเดือดร้อน2พันครัวเรือน
‘พังงา’ต้นไม้โค่นทับบ้านหรูพัง
อุตุฯเผยภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมาก เกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งสำรวจพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบน้ำท่วม ส่วนสตูลจมบาดาล เส้นทางถูกตัดขาด “ภูเก็ต” เกิดดินสไลด์หลายเส้นทาง ทับบ้านเรือน-รถยนต์ เสียหายขณะที่พังงา ฝนกระหน่ำ-ลมแรง ทำต้นไม้ใหญ่โค่นทับบ้านพักตากอากาศหรู4 หลัง พังยับ
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง “พายุเนสาท” ฉบับที่ 12 ระบุว่าพายุโซนร้อนเนสาท บริเวณตอนใต้ของเกาะไหหลำ ประเทศจีนมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 190 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองดองฮอย ประเทศเวียดนาม มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีแนวโน้มจะมีอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นในระยะต่อไป และเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 21 ตุลาคม 2565 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีฝนเล็กน้อยบางแห่งเกิดขึ้นได้
อุตุฯชี้ภาคใต้ฝนหนักถึงหนักมาก
อนึ่ง ช่วงวันที่ 20-22ตุลาคม 2565 ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมทะเลอันดามันตอนกลาง ขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร
ระวังท่วมฉับพลัน-น้ำป่าหลาก
ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สำหรับชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตกให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2565
เกษตรฯเร่งสำรวจพื้นที่บุรีรัมย์
นายณรงค์ศักดิ์ อินยาพงษ์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกร และเกษตรอำเภอ ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่การเกษตร จ.บุรีรัมย์ พร้อมกับรับฟังปัญหา ผลกระทบที่เกิดขึ้นร่วมกับผู้นำชุมชนแลเกษตรกร ก่อนออกสำรวจพื้นที่เพื่อรายงานให้จังหวัดพิจารณาความช่วยเหลือ
กระทบพื้นที่เกษตรรวม3แสนไร่
อย่างไรก็ดี ทางจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประกาศพื้นที่รับความช่วยเหลือภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านอุทกภัย แล้วทั้ง 23 อำเภอ มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 34,000 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 3 แสนไร่ โดยเกษตรกรที่จะได้รับการช่วยเหลือต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร และปรับปรุงทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรก่อนจะเกิดภัยพิบัติ จึงจะรับเงินเยียวยาได้ โดยมีพื้นที่เสียหายจริงอยู่ในพื้นที่ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือฯ
เยียวยาไม่เกินครัวเรือนละ30ไร่
จากนั้นก็จะแจ้งให้เกษตรกรยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ประมงอำเภอ หรือปศุสัตว์อำเภอ ตามประเภทของเกษตรกร ก่อนจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบความเสียหาย และจ่ายเงินช่วยเหลือไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ โดยมีอัตรา ดังนี้ ข้าว 1,340 บาทต่อไร่ พืชไร่ละพืชผัก 1,980 บาทต่อไร่ ไม้ผลไม้ยืนต้นและอื่นๆ 4,048 บาท นอกจากนี้ยังมีการจัดหาเมล็ดพันธุ์พืช และต้นพันธุ์ไว้สนับสนุนเกษตรกรด้วย
อนุมัติเงินช่วยรอบแรกกว่า4ล้าน
ทั้งนี้ คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประชุมพิจารณาการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านอุทกภัยใน จ.บุรีรัมย์ แล้ว พร้อมกับอนุมัติวงเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบแรกกว่า 4 ล้านบาท ให้กับ 2 อำเภอคือ อ.เมือง และ อ.บ้านด่าน รวมเกษตรกรกว่า 413 ราย มีพื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 2,000 ไร่ ส่วนอำเภอที่เหลือ และอำเภอที่ยังไม่ได้ประกาศภัยฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา โดยทางเกษตรอำเภอ จะเร่งออกสำรวจความเสียหายแต่ละอำเภอที่ประสบอุทกภัยและมีปริมาณน้ำที่ลดลงแล้ว
ชาวนาขอนแก่นวอนช่วยเหลือ
ส่วนที่ จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมที่ ต.ศิลา อ.เมือง ซึ่งรับผลกระทบจากแม่น้ำพอง ที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร เสียหายกว่า 8,000 ไร่ โดยนายทวีศักดิ์ ศรีละโคตร อายุ 47 ปี หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบ เปิดเผยว่า ปีนี้ครอบครัวทำนาทั้งหมด 20 ไร่ น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้ที่นาเสียหายทั้งหมด โดยลงทุนไปไร่ละ 2,500 บาท ต้องขอให้รัฐบาลเร่งช่วยเหลือ และเงินชดเชยยังไม่รู้ว่าจะได้รับเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากน้ำลดจะเริ่มทำนาใหม่เพราะที่นาเป็นของบรรพบุรุษสืบทอดมา
เผยเงินชดเชยอาจไม่คุ้มที่ลงทุน
นายทวีศักดิ์ เปิดเผยด้วยว่า เงินเยียวยาเมื่อนำมาเทียบกับการลงทุนคงไม่คุ้ม เพราะทราบมาว่าจะได้ไร่ละ 1,300 บาท แต่ลงทุนไปไร่ละ 2,500 บาท เฉพาะค่าปุ๋ยแต่ก่อนเคยซื้อ 400-500 บาท เดี๋ยวนี้กระสอบละ 1,000 บาท ต้นทุนขึ้นเท่าตัว ส่วนค่าพันธุ์ข้าว ค่าเกี่ยว ค่าไถก็แพงขึ้น ทำให้น้ำท่วมครั้งนี้ได้แต่ฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถ้าจะเอาพื้นที่ตรงนี้เป็นแก้มลิงรับน้ำเพื่อไม่ให้ไหลเข้าในเมืองควรจะเยียวยาเกษตรกรไร่ละ 7,000 บาท ถึงจะคุ้มค่ากับการเสียเวลาและเสียโอกาสต่างๆ ของเกษตรกร
สตูลจมท่วมเส้นทางถูกตัดขาด
ที่ จ.สตูล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากอิทธิพลพายุเนสารท ทำให้เกิดฝนตกหนักกระจายไปในหลายพื้นที่ จนเกิดน้ำป่าไหลบ่าท่วมเป็นวงกว้างเป็นวันที่ 3 มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ อ.เมือง อ.มะนัง อ.ควนกาหลง อ.ทุ่งหว้า อ.ละงู และ อ.ท่าแพ โดยน้ำหลากท่วมโรงเรียนบ้านดาหลำ หมู่ 5 ต.เขาขาว อ.ละงู แต่โชคดีที่เป็นช่วงปิดภาคเรียน และมีการเก็บของขึ้นที่สูงไว้แล้ว ส่วนบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และถนนเส้นทางต่างๆ ใน ต.เขาขาว ต.น้ำผุด อ.ละงู ถูกตัดขาด ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้
เจ้าคณะอำเภอมะนังช่วยชาวบ้าน
ขณะที่ พระครูโสภณปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนังจ.สตูล ได้นำชุดถุงยังชีพ 120 ถุงไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมพื้นที่หมู่ 8ต.นิคมพัฒนา อ.มะนัง โดยมีนายนพดล จีนลิบ ปลัดอาวุโสอ.มะนังและจิตอาสาอบต.นิคมพัฒนา ลุยน้ำออกแจกจ่ายถึงบ้านเรือนของผู้ประสบภัย ส่วนความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ ได้มีการบูรณาการรวมกัน ทั้ง อบต. ตำรวจ ทหาร และ ปภ.เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน โดยชาวบ้านส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำปีนี้มากกว่าปีก่อน แม้จะเตรียมรับมือแล้ว แต่ก็ยังมีผลกระทบ หากน้ำยังท่วมแบบนี้ต่อไป ก็จะส่งผลต่อการทำมาหากินด้วย
ผวจ.สตูลเผยกระทบแล้ว6อำเภอ
ด้านนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผวจ.สตูล รายงานว่ากระแสน้ำที่ไหลท่วมพื้นที่ในขณะนี้ได้รับผลกระทบแล้ว 6 อำเภอ 19 ตำบล 86 หมู่บ้าน รวมกว่า 2,000 ครัวเรือน ซึ่งสถานการณ์น้ำ ทางอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนให้รับมือกลุ่มฝนที่จะตกหนักถึงหนักมากจนถึงวันที่ 22 ตุลาคมนี้ หลายภาคส่วนจึงเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนและเร่งออกสำรวจความเสียหายต่อไป
ภูเก็ตฝนหยุด-น้ำท่วมถนนลด
สำหรับ จ.ภูเก็ต หลายจุดเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติหลังจากฝนเริ่มหยุดตก แต่มีน้ำท่วมขังอยู่ โดยเฉพาะย่านเมืองเก่า ย่านเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด ซึ่งในส่วนของแยกธนาคารชาร์เตอร์ ถนนเยาวราช ถนนดีบุก และถนนกระบี่ น้ำเอ่อล้นคลองบางใหญ่ ท่วมผิวการจราจร โดยเป็นผลจากฝนที่ตกหนักก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายน้ำจนออกสู่ทะเลได้เร็วขึ้น แต่ผู้ประกอบการ และประชาชนในพื้นที่ยังไม่ได้เก็บกระสอบทรายที่กั้นน้ำไว้ เนื่องจากยังไม่มั่นใจว่าจะมีฝนตกมาอีกหรือไม่
เกิดเหตุดินสไลด์ในหลายแห่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา จ.ภูเก็ต เกิดเหตุดินสไลด์ในหลายจุดโดยเฉพาะบริเวณพื้นที่เขารัง อ.เมือง ซึ่งดินจากภูเขาเลื่อนสไลด์ลงมาทับบ้านเรือนประชาชน ทางกู้ภัยต้องเร่งเข้าให้การช่วยเหลือนำผู้ประสบภัยที่ติดค้างอยู่ในบ้านพัก8 คน โดยจำนวนนี้มีผู้สูงอายุรวมอยู่ด้วย ออกมายังทุลักทุเล ก่อนจะมีการเข้าสำรวจพื้นที่อีกครั้งในช่วงเช้า แต่ยังไม่อนุญาตให้เจ้าของบ้านกลับเข้าไป เนื่องจากเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากดินสไลด์ที่อาจเกิดขึ้นอีก และนอกจากบ้านพัก ยังพบทรัพย์สินต่างๆ เช่น รถยนต์ และจักรยานยนต์ที่จอดไว้ ได้รับความเสียหายด้วย
ป่าตอง-กะทู้ดินสไลด์ทางขึ้นเขา
เช่นเดียวกับบริเวณทางขึ้นเขาพื้นที่ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ที่เกิดดินสไลด์ลงมาเพิ่มเติมอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นเส้นทาง ห้ามรถผ่าน โดยผู้ที่จะเดินทางมายังป่าตองต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางพื้นที่กมลาแทนทำให้รถติดสะสมเป็นทางยาว นอกจากนี้ฝนและลมแรงยังพัดเสาไฟฟ้าเส้นทางสนามบินเก่าภูเก็ต ต.สาคู อ.ถลาง ล้มระเนระนาด10 ต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งเคลียร์เส้นทางเพื่อเปิดการจราจร
สำหรับภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่ จ.ภูเก็ตยังมีฝนตกโปรดปรายเป็นระยะ ทางจังหวัดได้แจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ตามที่ลาดเชิงเขาและทางน้ำไหลผ่าน ให้เฝ้าระวังอันตรายจากดินสไลด์
พังงาต้นไม้ใหญ่ทับบ้านตากอากาศ
ขณะเดียวกัน นายสิริธร บัวแก้ว รองนายกเทศมนตรี ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เปิดเผยว่า เกิดเหตุต้นไม้ใหญ่หักโค่นทับบ้านพักตากอากาศหรูได้รับความเสียหาย จึงแจ้งตำรวจ สภ.เขาหลัก และเทศบาล นำอุปกรณ์เลื่อยยนต์ เข้าตรวจสอบและแก้ปัญหา โดยพบว่ามีบ้านพักตากอากาศชั้นเดียว ปลูกติดกัน 4 หลัง ในพื้นที่หมู่ 4 ซอยครูรัช ต.คึกคัก อ.ตะกั่วป่า ปลูกอยู่ติดกับสวนยางพารา ถูกต้นเหรียงขนาดใหญ่ อายุประมาณ 30 ปี ล้มทับบนหลังคาบ้าน ทำให้โครงสร้างเกิดรอยร้าว ข้าวของภายในบ้านกระจัดกระจาย แต่โชคดีที่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ช่วงเกิดเหตุ เนื่องจากเจ้าของบ้านกับครอบครัว ออกไปทำธุระต่างจังหวัด
จนท.เร่งตัดต้นไม้ท่ามกลางฝน
นายสิริธรกล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือโดยตัดต้นไม้ออกจากหลังคาบ้านพักดังกล่าวเป็นการด่วนท่ามกลางฝนที่ยังตกไม่หยุด
ขณะที่ นางรัชญ์ชวัล เนตรบุตร เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุตนไปทำธุระที่ตัวเมืองพังงา ระหว่างนั้นเพื่อนบ้านได้โทรศัพท์มาบอกว่าต้นไม้ล้มทับบ้าน จึงรีบกลับมาดูซึ่งปกติที่บ้านจะอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คนแม่ลูก ส่วนสามีไปทำงานต่างจังหวัดจะกลับมาช่วงวันหยุด เหตุที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าจะเสียหายมากขนาดนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี