‘ศักดิ์ เสื้อแดง’มอบตัว

คดีหมิ่นประมาท‘แรมโบ้อีสาน’

ยันมียอดบริจาคแค่1.1ล้านบาท

เปิดพฤติการณ์ “ศักดิ์ เสื้อแดง” คดีชก“แรมโบ้” ศาลอนุญาตผัดฟ้อง 6 วัน มือชกเดินทางเข้ามอบตัวที่สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่คดี “แรมโบ้อีสาน” แจ้งความหมิ่นประมาทยันพร้อมสู้ทุกคดี ตร.ให้ประกันตัว ตีราคา3 หมื่นบาท โต้ข่าว เงินบริจาค ยอดจริงแค่ 1.1 ล้าน ไม่รับคำท้าอดีตนักมวย ด้าน “ศรีสุวรรณ” ลั่นกรณีของตน ช่วยถลกหนังหน้ากาก “นักประชาธิปไตย” เสแสร้ง

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565 ที่ศาลแขวงดุสิต ถ.นครไชยศรี พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ยื่นคำร้องผัดฟ้องนายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ “ลุงศักดิ์” อายุ 62 ปี แนวร่วมคนเสื้อแดง ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายผู้อื่นต่อศาลครั้งแรก โดยระบุพฤติการณ์สรุปว่าเมื่อเวลา 15.20 น.วันที่ 19 ต.ค.65 ผู้ต้องหาถูกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

โดยพฤติการณ์แห่งคดีเมื่อวันที่ 19 ต.ค.64 ได้มีกลุ่มสหภาพแรงงานผู้ผลิตชุดชั้นในยี่ห้อไทรอั้ม เดินทางมาเรียกร้องขอความช่วยเหลือบริเวณสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ โดยมีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหาย ได้เชิญตัวแทนของกลุ่ม-สหภาพเข้าประชุม ระหว่างนั้นนายวีรวิชญ์ ผู้ต้องหาได้ตระโกนเรียกผู้เสียหายแล้วได้ชกต่อยผู้เสียหายหลายครั้งจนได้รับบาดเจ็บแล้วหลบหนีไป

ต่อมา วันที่ 19 ต.ค.65 เวลาประมาณ13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบผู้ต้องหาที่อาคารมาลีนนท์ แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่และแสดงหมายจับของศาลแขวงดุสิตที่ 185/2564 ลงวันที่ 22 พ.ย.64 ผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจริง และไม่เคยถูกจับกุมมาก่อน จึงแจ้งข้อหาให้ทราบ

จากนั้นได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี การกระทำของผู้ต้องหาความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตผัดฟ้องได้เป็นเวลา 6 วันตั้งแต่วันที่ 21-26 ต.ค.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในวันนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เพียงยื่นคำร้องผัดฟ้องเท่านั้น ไม่ได้ยื่นฝากขังจึงไม่มีกระบวนการควบคุมตัวและไม่ต้องยื่นประกันตัวแต่อย่างใด

วันเดียวกัน นายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล หรือ ลุงศักดิ์ พร้อมด้วย นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ ทนายอั๋น ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังมีหมายจับในคดีหมิ่นประมาท นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้แจ้งความไว้ เมื่อช่วงประชุมการ ครม.สัญจร ที่ จ.กระบี่ เดือนพ.ย.2564

ซึ่งมีประชาชนกว่า20คน เดินทางมารอให้กำลังใจนายวีรวิชญ์โดยมี พ.ต.ท.สมพร ทิพย์อาภากุล รอง ผกก.สส.สภ.อ่าวนาง และ พ.ต.ท.วรวุธ ฟ่องสุทธิพิทักษ์ สว.สอบสวน เจ้าของคดี รอรับมอบตัว

โดยนายวีรวิชญ์กล่าวก่อนเข้ามอบตัวว่าวันนี้ตั้งใจเดินทางมาสู้คดี ผมเป็นคนทำอะไรเปิดเผย ไม่ใช่คนขลาด พูดจริงทำจริง ส่วนเรื่องคดี ไม่หนักใจ สู้ไปตามกระบวนการ ส่วนที่มีอดีตนักมวยดังออกมาท้าต่อยกับตนนั้น ตนไม่สู้เพราะเราทุกคนเป็นคนไทย คนเห็นต่างก็เป็นคนไทย ส่วนคุณศรีสุวรรณ จรรยา เป็นนักร้องดังเกินไป ตนตบ ทำร้าย ยอมรับว่าผิด ตัวเองก็ไม่ชอบความรุนแรง แต่ที่ทำไปเหมือนผู้ใหญ่เตือนสติเด็กว่าทำอะไรให้มีคุณธรรมจริยธรรมบ้าง

นายวีรวิชญ์ ได้กล่าวฝากถึงนายศรีสุวรรณว่า มาจัดมวยแมตช์พิเศษ เพื่อหาเงินรายได้ เอาเงินไปช่วยเหลือคนทุกข์คนยาก คนจน น้ำท่วมดีกว่า เราไม่จำเป็นต้องฆ่ากัน ผมไม่เคยกลัวใคร แต่ไม่ให้ค่าใครที่ไม่มีคุณธรรม จริยธรรม ส่วนอดีตนักมวยที่มาท้า ต้องยกมือไหว้ ผมไม่กล้าสู้

ส่วนกรณีเงินบริจาคนั้น นายวีรวิชญ์ กล่าวว่า ได้รับเงินบริจาค จำนวน 1.1 ล้านบาท ไม่ใช่ 5-6 ล้านบาท เหมือนอย่างที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ มียอดบริจาคตั้งแต่ 1 บาท 10 บาท 112 บาท สูงสุดไม่เกิน 2,500 บาท จากทั้งหมด 400 หน้าของสมุดเงินฝาก ตรวจสอบผมได้ ขอขอบคุณทุกน้ำใจที่ช่วยกันบริจาค จะเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างทนาย เงินประกัน และค่าเดินทาง ญาติพี่น้องประชาชนไม่ช่วยผมแล้วผมจะเอาเงินที่ไหนมาสู้ ส่วนตัวเลขที่ออกมาก่อนนี้เป็นรหัสมารให้พี่น้องฆ่ากันเอง

ด้านทนายอั๋น กล่าวว่า นี่คือสงครามของผู้มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ มาประหัตประหารคนที่ไม่มีทางสู้ ซึ่งการแสดงออกของลุงศักดิ์เป็นหนึ่งในแนวทางของการต่อสู้ ซึ่งทำได้ ผมก็ไม่นิยมความรุนแรง แม้จะเป็นทนายความก็รับไม่ได้กับสิ่งที่คุณศรีสุวรรณทำ และพร้อมที่จะช่วยลุงศักดิ์สู้คดีทุกเวที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำลุงศักดิ์อยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ได้ปล่อยตัวไป พร้อมตีราคาประกันตัว 30,000 บาท ซึ่งทางทนายได้ใช้เงินสดในการประกันตัว

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ผู้ที่ถูกนายวีรวิชญ์บุกทำร้ายร่างกาย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า“กรณีศรีสุวรรณ ช่วยถลกหนัง หน้ากากของนักประชาธิปไตยเสแสร้งออกมาจนหมดสิ้น การประณามความรุนแรงมีไว้ใช้แต่คนของตนที่ถูกทำร้ายเท่านั้น!”