ไทยช่วยเมียนมาสู้โควิด
ส่งไฟเซอร์ฉีดเด็กแสนโดส
สธ.ร่วม กต. สถานเอกอัครราชทูตไทยส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไฟเซอร์ฝาสีส้ม 100,000 โดส พร้อมอุปกรณ์ฉีดวัคซีน มูลค่ามากกว่า 50 ล้านบาทให้ประเทศเมียนมาเพื่อฉีดให้เด็กอายุ 5–11 ขวบ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยได้ส่งมอบวัคซีนโควิด-19ไฟเซอร์ ฝาสีส้ม สำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี จำนวน 100,000 โดส พร้อมอุปกรณ์ฉีดวัคซีน มูลค่ากว่า50ล้านบาท ให้กับประเทศเมียนมา เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากความร่วมมืออย่างต่อเนื่องด้านการสาธารณสุขระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศสมาชิกประเทศอาเซียนเพื่อการรับมือกับการระบาดโควิด 19
โดยล่าสุดเมื่อครั้งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเมียนมา เดินทางมาร่วมในพิธีเปิดสำนักงานเลขาธิการศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases: ACPHEED) เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2565 ณ กรุงเทพมหานครได้มีการหารือถึงความต้องการวัคซีนโควิด 19 เพื่อปกป้องสุขภาพเด็กวัยเรียนจากโควิด 19 ซึ่งเด็กในวัยนี้มีโอกาสติดโควิดได้ง่าย แต่วัคซีนสามารถลดความเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตได้ โดยไทยมีวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้ม สำหรับฉีดเด็กอายุ 5 - 11 ปีเพียงพอและแบ่งปันให้ได้
สำหรับการส่งมอบวัคซีนครั้งนี้ ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และ เป็นการทำงานร่วมกันของหลายฝ่ายอาทิ กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและบริษัทซิลลิค ฟาร์มา จำกัดโดยเป็นการบริจาควัคซีนผ่านสภากาชาดเมียนมาดังเช่นครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้ ประเทศไทยเคยบริจาควัคซีนโควิด 19 ให้กับประเทศเมียนมาแล้ว 2 ครั้ง เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า รวม 1 ล้านโดส
จีนล็อกดาวน์พื้นที่บางส่วนของซีอานซึ่งเป็นเมืองหลวงของมณฑลส่านซีในภาคกลาง และสั่งประชาชนบางส่วนจากทั้งหมดราว13ล้านคนให้อยู่แต่ในบ้านเป็นเวลาอย่างน้อย1สัปดาห์ และศูนย์กลางขนาดใหญ่อื่นๆกำลังออกมาตรการจำกัดต่างๆเพื่อสนับสนุนนโยบายโควิด-19 เป็นศูนย์ (Covid Zero) ของรัฐบาลจีน
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าบัญชีวีแชตอย่างเป็นทางการของรัฐบาลซีอานได้โพสต์รายงานของสื่อท้องถิ่นเมื่อวันพฤหัสบดี(20 ต.ค.)ว่า ซีอานมีพื้นที่ความเสี่ยงสูง 57 แห่ง และพื้นที่ความเสี่ยงปานกลาง 74 แห่ง
ทั้งนี้ กฎเกณฑ์ล่าสุดของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) กำหนดว่า ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงสูงจำเป็นต้องอยู่กับบ้านจนกว่าจะไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่เป็นเวลา 7 วัน และพื้นที่นั้นจะถูกลดระดับเป็นพื้นที่เสี่ยงปานกลาง
สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงปานกลางจะถูกจำกัดความเคลื่อนไหวอยู่ภายในละแวกบ้านจนกว่าจะไม่พบผู้ติดเชื้อใหม่เป็นเวลา 7 วัน โดยซีอานรายงานการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 37 รายเมื่อวันพฤหัสบดี เพิ่มขึ้นจาก 34 รายเมื่อวันพุธ
ส่วนพื้นที่อื่น ๆ ของจีนนั้น บริษัทฟ็อกซ์คอน เทคโนโลยี กรุ๊ปได้กำหนดมาตรการควบคุมโควิดที่โรงงานประกอบโทรศัพท์ไอโฟนในเมืองเจิ้งโจว ขณะที่ประชาชนจำนวนมากขึ้นในเซี่ยงไฮ้ก็กำลังเผชิญกับข้อจำกัดต่าง ๆ ในการควบคุมโควิดด้วย
ด้านสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก ระบุว่าสถาบันฯ จำเป็นต้องทำลายทิ้งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาขึ้นเอง หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โควิชิลด์ จำนวน 100 ล้านโดส เนื่องจากวัคซีนเหล่านี้หมดอายุในเดือนกันยายนที่ผ่านมา
นายอดาร์ พูนาวัลลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สถาบันฯ มีวัคซีนโควิชิลด์อยู่ในสตอกราว 100 ล้านโดส และวัคซีนเหล่านี้ซึ่งมีอายุ 9 เดือน หมดอายุในเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยสถาบันฯ ได้หยุดผลิตวัคซีนโควิชิลด์ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน เนื่องจากประชาชนมีความต้องการฉีดวัคซีนโควิดลดลง ทั้งยังระบุว่าสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดียจะหันไปผลิตวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกา เพื่อนำมาใช้ในประเทศแทน ทั้งนี้ มีประชาชนอินเดียกว่าร้อยละ 90 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิชิลด์
ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า มีชาวอินเดียกว่า 2,000 ล้านคนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด ในจำนวนนี้มีประชาชนกว่าร้อยละ 70 ที่ได้รับการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 โดส ทางการอินเดียได้เริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บุคลากรด่านหน้า และประชาชนอายุตั้งแต่ 60 ปี ที่มีโรคประจำตัว ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มผู้ใหญ่ ขณะนี้อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 44.6 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 528,900 คน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี