เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2567 พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ นายชาคริต ตัณพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ท.คณิศร พันบุดดา รอง ผกก.ป.สภ.ทองผาภูมิ พ.ต.ต.พชร ไล้ทองคำ สว.กก.1 บก.ปส.4 พ.ต.ต.ไพศาล ทบธรรม ผบ.ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมกำลังทุกภาคส่วน

ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการขนยาเสพติดมาจากชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ด้วยการใช้รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี โดยใช้เส้นทางถนนสาย 323 สังขละบุรี-จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

จนกระทั่งพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้งจากสายข่าว หมายเลขทะเบียนกาญจนบุรี ลากกระบะพ่วงด้านหลัง ขับมาจากทางด้าน อ.สังขละบุรี เมื่อมาถึงด่านเจ้าหน้าที่จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น

จากการตรวจค้นพบกล่องลังไม้ขนาดใหญ่วางอยู่กับพื้นด้านหลังเบาะผู้โดยสาร เมื่อเปิดออกมาดูพบลังบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอยู่ภายในรวม 6 ลัง โดยมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวม 30 แท่ง นับรวมกันได้ 300,000 เม็ด โดยมีแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์อุทัยธานี อยู่ 2 แผ่น เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวนายปิยะคณิศร หรือยะ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ชาว ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เอาไว้ จากนั้นจึงนำตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ เพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการ และจากการตรวจปัสสาวะ พบผู้ต้องหามีฉี่สีม่วง

แต่จากการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ บอกเพียงว่ากล่องลังไม้ไผ่ เพื่อนชื่อไก่ ที่อยู่ อ.สังขละบุรี ฝากให้ไปส่งที่ตัว อ.เมืองกาญจนบุรี โดยไม่รู้มาก่อนว่าภายในมียาบ้าซ่อนอยู่ จากการให้ปากคำของผู้ต้องหาเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผล ก่อนที่จำนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา

จำหน่ายโดยการมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป เป็นผู้ขับขี่รถในขณะมีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือแมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าหรือเมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” โดยจะใช้มาตรการณ์ยึดทรัพย์ต่อไป