หนุ่มใหญ่ศูนย์ป้องกันและปราบปราม ควบคุมไฟป่า เมืองกาญจน์ ที่ก่อเหตุหึงโหดยิงภรรยาบาดเจ็บ ตัดสินใจใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันก่อเหตุอัตวินิบาตกรรมตัวเองหนีความผิดคาห้องพัก ลูกสาวคนเจ็บพร้อมอโหสิกรรมให้

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ต.ค.65 ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สอบสวน)สภ.ลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนพบศพนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้องพักพนักงานราชการประจำศูนย์ป้องกันและปราบปราม ควบคุมไฟป่า หมู่ 1 ต.ช่องสะเดา อ.เมือง จ.กาญจนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ แพทย์เวร รพ.พหลพลพยุหเสนา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ไปถึงพบนายธงชัย สาแรก หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี นายทิวา โพธิ์เงินงาม ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี รวมทั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ 

สำหรับห้องที่พบศพประตูถูกล็อกจากภายในและที่สำคัญห้องที่พบศพนั้นเป็นห้องเดียวกันกับที่นายนำทวน อายุ 47 ปี พนักงานราชการใช้อาวุธปืนขนาด .22 แบบลูกโม่ยิง น.ส.นพาภรณ์ อายุ 45 ปี ภรรยาและเป็นพนักงานราชการด้วยกันได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสเนื่องจากเกิดความหึงหวง โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา

หลังจากเจ้าหน้าที่เปิดประตูได้ต้องจุดธูปเพื่อให้ควันดับกลิ่นที่เหม็นคลุ้มไปทั่วห้อง ซึ่งปรากฎว่าผู้ที่เสียชีวิตคือนายนำทวน เจ้าของห้องและเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาตัวเองได้รับบาดเจ็บ โดยสภาพศพของนายนำทวน นอนหงายอยู่บนที่นอน พบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .22 แบบไทยประดิษฐ์ตกอยู่ที่หว่างขา จำนวน 1 กระบอก กายแต่งกายนุ่งกางเกงขายาวสีดำ สวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดงซึ่งเป็นเสื้อของเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันและปราบปราม ควบคุมไฟป่า 

จากการพิสูจน์ศพพบว่านายนำทวน ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวยิงเข้าที่ขมับขวา จำนวน 1 นัด และจากการตรวจสอบอาวุธปืนพบกระสุนบรรจุอยู่ในรังเพลิง จำนวน 5 นัด เจ้าหน้าที่คาดว่านายนำทวนเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน หลังจากทำการพิสูจน์ศพเบื้องต้นแล้วเสร็จ ร.ต.อ.ธีรยุทธ อังวะ รอง สว.(สอบสวน)สภ.ลาดหญ้า จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำร่างไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ

ทั้งนี้ พ.ต.อ.เตชินท์ บรรจง ผกก.สภ.ลาดหญ้า เปิดเผยว่า จากการที่ได้เข้าไปดูศพพบว่าเป็นศพของนายนำทวน ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาแล้วหลบหนีไปจริง เบื้องต้นขอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานอาวุธปืนและพิมพ์ลายนิ้วมือเอาไว้เป็นหลักฐานก่อน สำหรับอาวุธปืนที่นายนำทวน ใช้ยิงตัวเองตกอยู่ระหว่างขา และเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงภรรยา แต่ก็ต้องส่งไปพิสูจน์ให้แน่ชัดเสียก่อน

สำหรับคดีที่นายนำทวน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาได้รับบาดเจ็บนั้นขณะนี้ก็สามารถปิดคดีได้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ส่วนคดีทางแพ่งก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งทางญาติพี่น้องเป็นผู้ดำเนินการฟ้องร้อง

ขอเรียนว่าตั้งแต่นายนำทวน ผู้เสียชีวิตก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยาตัวเองได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหญ้าโดยชุดสืบสวน ได้พยายามเร่งรัดในการติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีด้วยหารซุ่มอยู่ในป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระที่นายนำทวนหนีเข้าไปหลบซ่อนตัว รวมทั้งประสานทางญาติขอให้ติดต่อนำพาเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามติดตามกดดันเพื่อให้ได้ตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว แต่ปรากฏว่านายนำทวน ได้ตัดสินใจใช้อาวุธปืนกระบกเดียวกันกับที่ยิงภรรยามายิงตัวเองเสียชีวิตเพื่อหนีความผิด

โดยเมื่อวันที่ 25 ต.ค.เวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ติดตามจับกุมตัวนายนำทวนว่า ขณะซุ่มอยู่ภายในบริเวณศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเสียงปืนดังมาจากไหน เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าเสียงปืนดังมาจากภายในป่าที่นายนำทวน ซ่อนตัวอยู่จึงได้กระจายกำลังกันออกค้นหาแต่ต้องตามหาด้วยความระมัดระวังเพราะภายในมีช้างป่าอยู่เป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ใช้เวลานานพอสมควรแต่ก็ไม่พบ

โดยหลังจากนายนำทวน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงภรรยา ประตูห้องก็ถูกล็อกเอาไว้มาโดยตลอด จึงไม่คิดว่านายนำทวนจะก่อเหตุอัตวินิบาตกรรม ตัวเองงภายในห้องนอน ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะเข้าใจว่านายนำทวน หลบซ่อนตัวอยู่ภายในป่า จนกระทั่งเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี ที่พักอาศัยอยู่ห้องติดกันว่าได้กลิ่นศพและมีแมลงวันบินตอมอยู่หน้าประตู เจ้าหน้าที่ศูนย์จึงใช้บันไดปีนขึ้นเปิดเปิดฝ้าดูก็พบว่านายนำทวนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง และไม่มีใครทราบเลยว่านายนำทวน ออกจากป่าแล้วมาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในห้องพักตั้งแต่เมื่อใด

ด้านนายทิวา โพธิ์เงินงาม ผู้ช่วยหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการไฟป่ากาญจนบุรี เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ที่พักอาศัยอยู่ห้องติดกันได้กลิ่นเหม็นโชยออกมาจากห้องพักของนายนำทวน ครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นกลิ่นซากศพแมว เพราะทุกคนทราบว่าเจ้าของห้องไม่อยู่ ตนและเจ้าหน้าที่จึงช่วยกันเดินไปดูรอบๆบ้านแต่ก็ไม่พบซากแมว แต่มาภายหลังสังเกตเห็นแมลงวันเป็นจำนวนมากเกาะอยู่ที่ประตูห้องเลยเกิดความสงสัย จึงชวนเพื่อนร่วมงานนำบรรไดมาพาดแล้วปีนขึ้นไปเปิดฝ้าออกแล้วชะโงกหัวเข้าไปดูก็พบว่านายนำทวนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง เจ้าหน้าที่จึงรีบโทรแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว

ส่วน น.ส.อัญชลี อายุ 22 ปี ลูกสาวของ น.ส.นพาภรณ์ อายุ 45 ปีที่ถูกผู้เสียชีวิตยิงได้รับบาดเจ็บและกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา เปิดเผยว่า ปอดข้างซ้ายของแม่ถูกยิงจนทะลุ กระสุนอีก 1 นัดอยู่ตรงกลางยังงไม่ถึงปอดด้านขวา ขณะนี้แพทย์กำลังระบายเลือดออกจากปอดให้เหลือน้อยที่สุดเพื่อเตรียมการผ่าตัด แต่แม่ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว จึงไม่ต้องห่วง

หลังจากที่สามีของแม่ยิงตัวเองเสียชีวิตก็ไม่มีใครบอกให้แม่รู้เพราะแม่มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจและถ่ายเป็นเลือด ที่ผ่านมาครอบครัวรู้สึกระแวงเพราะกลัวว่าสามีของแม่จะหวนกลับมาทำร้ายอีก และที่ผ่านมาผู้เสียชีวิตกับแม่ได้ทะเลาะและทำร้ายร่างกายแม่มาแล้วหลายครั้ง หลังจากที่สีมีของแม่เสียชีวิตพวกเราก็ขออโหสิกรรมให้ - 003