วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
น้ำทะเลหนุนฉับพลัน  ท่วม'สมุทรปราการ'  ชาวบ้านโอดหนักกว่าปีก่อน

น้ำทะเลหนุนฉับพลัน ท่วม'สมุทรปราการ' ชาวบ้านโอดหนักกว่าปีก่อน

วันอาทิตย์ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : น้ำท่วม น้ำทะเลหนุน
  •  

น้ำทะเลหนุนฉับพลัน

ท่วม'สมุทรปราการ'

ชาวบ้านโอดหนักกว่าปีก่อน

นายกฯสั่งกำชับเฝ้าระวังเข้ม

คนไทยแห่รับลมหนาวคึกคัก

น้ำทะเลหนุนเข้าท่วมสมุทรปราการจนถนนหลายสายกลายเป็นคลอง ชาวบ้านโอดปีนี้น้ำเยอะกว่าปีที่แล้ว“นายกฯ” กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหนุนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน 2565 คาดกลับสู่ภาวะปกติกลางเดือน พฤศจิกายนนี้ส่วนบรรยากาศการเข้าสู่ฤดูหนาวเป็นวันแรก นักท่องเที่ยวพากันแห่ขึ้นเที่ยวชมทิวทัศน์สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นกันคึกคัก ขณะที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ห่วงใยสุขภาพประชาชน ในช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่อาจทำให้คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดหรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ จึงได้นำเสนอสมุนไพรแก้หนาวมาฝาก

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 ตุลาคม 2565 ได้เกิดน้ำทะเลหนุนไหลท่วมถนนสุขสวัสดิ์ด้านขาออกมิดทั้ง 4 เลนตั้งแต่ฝั่งตรงข้ามซอยสุขสวัสดิ์ 72 ต.บางจาก อ.พระประแดง เกือบตลอดทั้งสายบางจุดน้ำสูง 40-50 ซม.ทำให้การจราจรเคลื่อนตัวได้อย่างยากลำบาก ส่วนถนนสาย 303 ถนนสุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล ซึ่งเป็นถนน 2 เลน ตั้งแต่สามแยกพระสมุทรเจดีย์ไปจนถึงปากซอยวัดแหลมฟ้าผ่า มีปริมาณน้ำท่วมมิดทั้งถนนระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร โดยบางจุดมีน้ำท่วมสูง 80-90 ซม.ทำให้ผู้ใช้รถต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวังบางคันต้องกลับรถหนีน้ำท่วมเพื่อหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่นเพื่อป้องกันน้ำเข้าไปในรถจนได้รับความเสียหายส่วนรถจักรยายต์บางคันต้องขี่ผ่าสายน้ำอย่างทุละทุเล บางคันดับกลางถนนต้องลงเข็นเพื่อให้พ้นน้ำ บางคันต้องจอดทิ้งไว้ข้างทางแล้วโบกรถเพื่อนร่วมงานหรือขออาศัยรถประชาชนที่สูงกว่าเดินทางไปทำงาน


ชาวบ้านเผยน้ำทะเลหนุนสูงกว่าปีก่อน

สำหรับน้ำทะเลหนุนในวันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามชาวบ้านอยู่บริเวณริมถนนสาย 303 สุขสวัสดิ์-ป้อมพระจุล กล่าวว่า ในวันนี้น้ำทะเลหนุนท่วมสูงมากและสูงกว่าปีที่แล้ว เมื่อวานนี้น้ำทะเลหนุนท่วมมาเหมือนกันและไม่มากแต่กลับวันนี้ท่วมสูงมากจนมิดหัวเข่าเมื่อถึงหน้าน้ำน้ำจะท่วมแบบนี้บ่อยครั้งเมื่อปีที่แล้วยังไม่เยอะขนาดนี้แต่ปีนี้เยอะมาก แต่ยังเตรียมตัวรับมือได้ทันรีบเก็บข้าวของเครื่องใช่ก่อนหน้าน้ำมา 2 วัน ไม่งั้นน้ำท่วมจนข้าวของในบ้านเสียหายหมดแน่

จากการสอบถาม นาย ปัญญา มีชัย หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเ ทต.แหลมฟ้าผ่า กล่าวว่าในวันนี้มีน้ำทะเลหนุนท่วมสูงมากกว่าปีที่แล้วเนื่องจากทางภาคเหนือและทางภาคอีสานได้ปล่อยน้ำเพื่อระบายลงสูงทะเลทำให้มีปริมาณน้ำเยอะและคาดว่าจะท่วมแบบนี้ไปอีก 1-2 วัน ซึ่งทางเทศบาลได้เตรียมเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ในการช่วยเหลือประชาชนี่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้แล้ว จึงฝากถึงประชาชนให้ขนข้าวของขึ้นที่สูงไว้ล่วงหน้า หากจะต้องการให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือสามารถแจ้งมายังทางเทศบาลได้และให้ระวังสัตว์เลื้อยคลานมีพิษชนิดต่างๆที่มากับน้ำเมื่อพบเห็บให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือทันทีหากไม่มีความชำนาญอย่าได้ดำเนินการเองเพื่อป้องกันการเกิดอันตรายได้ และให้ประชาชนที่จะใช้เส้นทางให้วางแผนการเดินทางและเผื่อเวลาการเดินทางไว้ด้วยเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด โดยในพื้นที่ยังมีถนนสายรองที่สามารถเดินทางไปยังถนนสายหลักได้คือ ถนนซอยวัดแหลมฟ้าผ่า ถนนซอยที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ถนนซอยร่วมพัฒนา ถนนบ้านนาขวางเป็นต้น

นายกฯกำชับติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด

ทางด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำหนุนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน 2565 แม้ทางกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้คาดการณ์สถานการณ์ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำชี-มูล จะกลับสู่ภาวะปกติกลางเดือนพฤศจิกายน 2565

สำหรับสถานการณ์ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้ปริมาณน้ำเหนือจากแม่น้ำปิงและน่าน รวมถึงปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง ซึ่ง กอนช. ได้คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาจะเข้าสู่สภาวะปกติประมาณช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2565 หรืออาจเร็วกว่ากำหนดคือช่วงปลายสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน 2565 กรณีสามารถควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาได้ 1,500 ลบ.ม. ต่อวินาที รวมถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำชี - มูล ก็คาดว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติในช่วงกลางเดือนพฤศิจกายน 2565 เช่นเดียวกัน

เตรียมดำเนินการภายหลังน้ำลด

ทั้งนี้ รัฐบาล โดยคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภายใต้ กอนช. ยังได้เตรียมพร้อมการดำเนินการภายหลังน้ำลด โดยมีการประเมินและชี้เป้าพื้นที่ที่ระดับน้ำลดลง และแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ พร้อมอำนวยการและประสานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อร่วมกันควบคุมป้องกัน แก้ไข ระงับหรือบรรเทาผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติด้วย

นายอนุชา กล่าวถึงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลซึ่งปีนี้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ จำนวน 3 ลูก (พายุมู่หลาน หมาอ๊อน และโนรู) รวมถึงได้รับอิทธิพลจากร่องความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลางและตะวันออก ส่งผลให้ปริมาณฝนสะสมทั้งประเทศในช่วง 1 ม.ค. – 22 ต.ค. 65 มีปริมาณถึง 1,775 มิลลิเมตร (มม.) ซึ่งมากกว่าค่าปกติ 21% น้อยกว่าเมื่อปี 2554 อยู่เพียง 3 มม. หรือคิดเป็น 0.2%

สั่ง กอนช.ดำเนินการกระทบปชช.น้อยสุด

ขณะที่ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ณ สถานี C2 จ.นครสวรรค์ มีปริมาณน้ำสูงสุด 3,105 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวินาที น้อยกว่าเมื่อปี 2554 จำนวน 1,584 ลบ.ม. ต่อวินาที นั้น รัฐบาลได้สั่งการและมอบหมายให้ กอนช. บริหารจัดการตามเกณฑ์ความปลอดภัยของเขื่อนเจ้าพระยาและหลักเกณฑ์การบริหารน้ำเพื่อความปลอดภัยของเขื่อนและให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยควบคุมระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในเกณฑ์ +17.50 ถึง +17.70 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ม.รทก.) เพื่อลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพิ่มการรับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันออก และลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักก่อนลงสมทบแม่น้ำเจ้าพระยา รวมทั้งลดการรับน้ำเข้าคลองฝั่งตะวันตกเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่ในทุ่ง หรือบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ก่อนออกอ่าวไทย ควบคุมปริมาณน้ำ สถานี C.29A (บางไทร) ประมาณ 3,000 ลบ.ม. ต่อวินาที เพื่อบริหารความเสี่ยง ปริมาณน้ำไม่เกิน 3,500 ลบ.ม. ต่อวินาที

เน้นย้ำสร้างความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

“อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ระบายน้ำออกทางฝั่งตะวันออกและตะวันตกได้น้อยในช่วงที่ผ่านมา พบว่าเกิดจากปัญหาต้นคลองใหญ่ในขณะที่ปลายคลองมีขนาดเล็ก จึงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำลงด้านท้ายของลุ่มน้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ทำให้เกินศักยภาพของคันกั้นน้ำที่มีอยู่ในปัจจุบัน ส่งผลให้บางจุดเกิดน้ำล้นคลองและคันคลองขาด ไม่สามารถใช้ควบคุมน้ำได้ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเข้าซ่อมแซมแล้ว รวมทั้งพบปัญหาในบางจุดที่ประชาชนในพื้นที่ไม่ยินยอมให้มีการเสริมคันกั้นน้ำ จึงส่งผลให้น้ำหลากแผ่กว้างในหลายพื้นที่มากขึ้นด้วย ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงเน้นย้ำให้มีการสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้เกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น” นายอนุชา กล่าว

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก กอนช. ระบุว่า ปัจจุบันทั้งปริมาณน้ำเหนือและน้ำฝนลดลงแล้ว ส่งผลให้มีการลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา โดยสามารถควบคุมการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตรา 2,400 ลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งเร็วกว่าแผนที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ได้มีการประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาการดำเนินการในทุกแนวทาง พร้อมประเมินสถานการณ์น้ำในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

คาดพายุ’นัลแก’ลงสู่ทะเลจีนใต้

นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการส่วนพยากรณ์อากาศกลาง กองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุล่าสุดเช้าวันนี้ (29/10/65) : พายุโซนร้อนรุนแรง “นัลแก (NALGAE)” มีศูนย์กลางบริเวณประเทศฟิลิปปินส์ กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในวันวันพรุ่งนี้ (30/10/65) และจะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือ ไปทางประเทศจีนตอนใต้ พายุนี้คาดว่าจะไม่มีผลกระทบกับประเทศไทย (ข้อมูลนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามข้อมูลนำเข้าใหม่ ใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ)

แห่ชมวิวรับฤดูหนาววันแรก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานีอุตุนิยมวิทยาศรีสะเกษ รายงานสภาพอากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่จากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศลาวตอนบนและเวียดนามตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันที่ 29 ตุลาคม ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีอากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง

จากสภาพอากาศดังกล่าว ทำให้บนเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชาอากาศเย็น ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 65 ที่จุดชมวิวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 19 องศาเซลเซียส เช้าวันนี้ เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ นักท่องเที่ยวร่วม 2 พันคน ขึ้นชมทิวทัศน์ตะวันขึ้นสามแผ่นดิน สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นคึกคัก

นักท่องเที่ยวที่นั่งรถเข็นผู้พิการคนหนึ่ง กล่าวว่า ตนเป็นคนศรีสะเกษแต่ค้าขายอยู่ที่กรุงเทพ ไม่เคยขึ้นมาเที่ยว เพิ่งมาครั้งแรก ทางลาดสำหรับรถเข็นคนพิการขึ้นไปไม่ถึงจุดสูงสุดของสถานที่ท่องเที่ยว จึงอยากจะขอให้มีทางลาดสำหรับรถเข็นคนพิการไปจนถึงจุดสูงสุดของแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้ผู้พิการที่ใช้รถเข็นหรือวิลแชร์ได้ขึ้นเที่ยวชมทิวทัศน์ทุกจุด

เชิญชวนขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร

นายวีระชัย กำลังงาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ช่วงนี้ เป็นเวลาที่สิ้นสุดฤดูฝนย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมทิวทัศน์ตะวันขึ้นสามแผ่นดิน ชมภาพแกะสลักนูนต่ำภาพศิลปโบราณอายุกว่า 1,500 ปี เสาธงชาติประวัติศาสตร์ ชมสถูปคู่ และชมปราสาทโดนตวล โบราณสถานที่ทรงคุณค่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นมาพักแรมมาพักค้างคืนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร มีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้บริการ และขอฝากไว้กับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวและมาพักค้างคืนขอให้ปฏิบัตตามระเบียบของกรมอุทยานโดยเคร่งครัดด้วย

อภัยภูเบศรแนะนำสมุนไพรลดไข้

ทั้งนี้ หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่าประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว ตั้งแต่ 29 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไปนั้น ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมีห่วงใยสุขภาพประชาชน ในภาวะที่สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงปลายฝนต้นหนาว อาจทำให้คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดหรือปัญหาระบบทางเดินหายใจ จึงได้นำเสนอสมุนไพรแก้หนาวมาฝาก

ภญ.อาสาฬา เชาวน์เจริญ เภสัชกรชำนาญการ ให้ข้อมูลว่า สมุนไพรที่สร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย ได้แก่ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบกะเพรา กระชาย เป็นสมุนไพรที่มีรสร้อน ช่วยไล่ธาตุน้ำที่กำเริบ ไล่หวัด เพิ่มความอบอุ่นร่างกาย สามารถกินเป็นรูปแบบของอาหารในชีวิตประจำวัน เริ่มจาก สูตรสมุนไพรที่มีขิงเป็นส่วนประกอบสำคัญ มีรสเผ็ดอุ่น ฤทธิ์แก้หวัดเย็น ขับเหงื่อ บำรุงกระเพาะ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ลดระดับไขมันในเลือด ขิงสด ช่วยทำให้ร่างกายปรับสภาพในภาวะที่ร่างกายมีอาการเย็นได้ เช่นเดียวกับขิงแห้ง ที่ช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน หากมีอาการของหวัดภูมิแพ้อากาศ แนะนำให้ดื่มน้ำขิงวันละแก้ว

อีกตัวคือ สูตรสมุนไพรที่มีกะเพราเป็นส่วนประกอบสำคัญ ใบมีกลิ่นหอมฉุน เผ็ดร้อน มีฤทธิ์ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยมีผลยับยั้งเอนไซม์ของไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้ ทั้งยังช่วยแก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง แก้อาการคลื่นไส้ ช่วยย่อยอาหาร บำรุงธาตุ ขับลม แนะนำให้กินแบบชา วันละ 4-6 ใบ แช่น้ำร้อน 5-10 นาที ดื่มเพิ่มความอุ่นของร่างกาย

และสมุนไพรอีกชนิด คือ สูตรสมุนไพรที่มีตะไคร้เป็นส่วนประกอบสำคัญ มีกลิ่นหอม ใช้ทั้งต้น เป็นยาแก้โรคในท้อง ใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ แก้ปวดหัว ปวดท้อง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ แก้อักเสบ และต้านไวรัสไข้หวัดได้ สามารถกินในรูปแบบน้ำตะไคร้ หรือชาตะไคร้ ช่วยเพิ่มความอบอุ่น และยังช่วยแก้อาการน้ำมูกไหลจากหวัดได้ด้วย สมุนไพรที่นำมาใช้คือ ตำรับยาปราบชมพูทวีป เป็นตำรับยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ประกอบด้วยตัวยา 23 ชนิด ส่วนใหญ่มีรสร้อน ช่วยกระจายลม ลดการกำเริบของธาตุน้ำ กระตุ้นการทำงานของไฟธาตุ เหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นหวัดในระยะแรก อาการคัดจมูก น้ำมูกไหล แต่ไม่มีไข้ และอาการที่เกิดจากการแพ้ภูมิแพ้อากาศ ยกเว้นภูมิแพ้ที่แสดงออกทางผิวหนัง หากมีไข้อาจต้องมีการจ่ายยาสมุนไพรแก้ไข้ร่วมด้วย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ถนนพระราม 2 ฝนตกรถติดหนัก น้ำท่วมไหล่ทาง เตือนขับรถระวัง!! ถนนพระราม 2 ฝนตกรถติดหนัก น้ำท่วมไหล่ทาง เตือนขับรถระวัง!!
  • พายุฝนถล่มแม่ฮ่องสอนกลางดึก น้ำป่าไหลหลาก ต้นไม้ล้มเสียหายหลายจุด พายุฝนถล่มแม่ฮ่องสอนกลางดึก น้ำป่าไหลหลาก ต้นไม้ล้มเสียหายหลายจุด
  • อธิบดี ปภ.ลุยเชียงรายสั่งเร่งขุดลอกน้ำสาย น้ำรวก ก่อนฤดูฝนถล่ม อธิบดี ปภ.ลุยเชียงรายสั่งเร่งขุดลอกน้ำสาย น้ำรวก ก่อนฤดูฝนถล่ม
  • ครึ่งปียังไม่เสร็จ! ชาวแม่สายกังวลน้ำท่วมซ้ำ เร่งจนท.ขุดลอกเร็วกว่านี้ ครึ่งปียังไม่เสร็จ! ชาวแม่สายกังวลน้ำท่วมซ้ำ เร่งจนท.ขุดลอกเร็วกว่านี้
  • ระทึก! แม่น้ำสายมาอีกแล้วล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ชาวบ้านเร่งขนของออกนอกพื้นที่ ระทึก! แม่น้ำสายมาอีกแล้วล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ชาวบ้านเร่งขนของออกนอกพื้นที่
  • เร่งขุดลอก-ทำพนัง ‘หลังฝนเริ่มตก-น้ำเอ่อท่วม’ พบมีคนหัวแข็ง-ไม่ให้ทำพนังกั้นน้ำ เร่งขุดลอก-ทำพนัง ‘หลังฝนเริ่มตก-น้ำเอ่อท่วม’ พบมีคนหัวแข็ง-ไม่ให้ทำพนังกั้นน้ำ
  •  

Breaking News

เยียวยาจิตใจจากไฟสงคราม! ‘David’s Circle’พื้นที่ฟื้นฟูของชาวอิสราเอลในไทย

ปักหมุด 13 พ.ค.นี้ ‘เพื่อไทย’เปิดตัวโครงการใหม่‘Pheu Thai YPP’

ผบ.ตร.สั่งฟันเด็ดขาด! เหตุทำร้าย'ตำรวจ'ภายในหน่วยเลือกตั้ง จ.สงขลา

เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved