นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มลดลงและเริ่มคลี่คลาย เนื่องจากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มเติม จึงวางแผนบริหารจัดการน้ำและกักเก็บน้ำ รวมถึงการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมขัง และร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เข้าไปฟื้นฟูหลังน้ำลด อาทิ สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ลงพื้นที่เร่งสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วม ต.เกิ้ง และ ต.ท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม นอกจากนี้ ยังได้เร่งสูบน้ำที่หมู่บ้านแจ้งจม ต.เจ้าท่าอ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำท่วมขัง ขณะที่โครงการชลประทานอุบลราชธานี เข้าช่วยเหลือ ฟื้นฟู ทำความสะอาด ล้างอาคาร ถนน เก็บขยะ บริเวณโดยรอบสำนักงานสหกรณ์ จ.อุบลราชธานี อ.วารินชำราบ ก่อนหน้านี้ด้วย
ด้านสำนักเครื่องจักรกล ได้สนับสนุนรถบรรทุกน้ำขนาด 6,000 ลิตร 2 คัน เข้าไปฉีดน้ำ ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ รพ.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี สำนักงานชลประทานที่ 12 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาสามชุก ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่บริเวณ ต.หนองสาหร่าย อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานชลประทานที่ 14 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณหมู่บ้านลาวัลเล่ ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน สูบน้ำจากหมู่บ้านลาวัลเล่ ลงสู่คลองสามพันนาม พร้อมนำรถแบ๊กโฮบูมยาว ขุดลอกเปิดช่องทางระบายน้ำ บริเวณคลองสามพันนามในเขตอบต.ทับใต้ และเดินเครื่องสูบน้ำบริเวณแพไม้ ต.หัวหิน อ.หัวหินเสริมศักยภาพการระบายน้ำ ให้กลับสู่สภาวะปกติ ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง