โผล่เพิ่มอีกราย! "ปลัดสัตหีบ"ดอดมอบตัวตำรวจต่อหน้าผู้ว่าฯ หลังถูกออกหมายจับเอี่ยวคดีเปิดตู้บริจาครับสินบนธุรกิจพูลวิลล่า แฉหลักฐานชัดมัดตัว วงจรปิดจับภาพแกะซองหยิบเงินสดใส่กระเป๋า ด้านสภากาชาดส่งตัวแทนแจ้งเอาผิดซ้ำ
เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 7 พฤศจิกายน 2565 ที่ศาลากลางจังหวัดชลบุรี นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.ร่วมกันแถลงผลความคืบหน้าคดีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสัตหีบ ทุจริตเรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ล่าสุด นายพัทธวัจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ปลัดอำเภอสัตหีบ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ จ.51/2565 ลงวันที่ 4 พ.ย.2565 ข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียกรับทรัพย์สินหรือประโยชน์เพื่อตนเองโดยมิชอบ , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันเรียกรับประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองโดยมิชอบ" ติดต่อเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่
สำหรับคดีดังกล่าว สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ตำรวจ บก.ปปป.ได้สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เข้าจับกุม นายกัณฑ์พงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ปลัดอาวุโสอำเภอสัตหีบ และพวก หลังมีพฤติกรรมเรียกรับเงินค่าออกหนังสือรับรองสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จากผู้ประกอบการธุรกิจบ้านพักพูลวิลล่าในพื้นที่ โดยจะใช้วิธีการให้ผู้ประกอบการนําเงินใส่ซองจดหมาย แล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาค ระบุตัวหนังสือหน้าตู้กิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบ ที่จัดเตรียมไว้ให้อ้างว่าเป็นค่าดําเนินการ ซึ่งจะคิดอัตรา บ้านพักหลังละ 15,000 บาท หากไม่ยอมจ่ายเงินดังกล่าว ก็จะไม่ได้รับการออกใบรับรองให้ หรือยื้อเวลาในการออกใบรับรองจนกว่าจะนําเงินมาจ่าย ทั้งที่โดยปกติการขอใบรับรองบ้านพักพูลวิลล่านั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ซึ่งหลังการจับกุมครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยังคงขยายผลต่อเนื่อง เพื่อกวาดล้างอาชญากรรมขบวนการดังกล่าวให้สิ้นซาก กระทั่งทราบว่านอกเหนือจากผู้ต้องหากลุ่มแรกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้าแล้วนั้น ยังมี นายพัทธวัจน์ ผู้ต้องหารายนี้ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นปลัดอำเภอสัตหีบอีกคน เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ ก่อนที่ต่อมานายพัทธวัจน์ จะติดต่อประสานขอเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อหน้าหน้าผู้ว่าราชจังหวัดชลบุรี
ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวว่า สำหรับกรณีดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจับกุมตัว นายกัณฑ์พงษ์ ปลัดอาวุโส รักษาราชการนายอำเภอสัตหีบ และพวกส่วนหนึ่ง ก่อนจะได้รับการประกันตัวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งหลังเกิดเรื่องขึ้นทางจังหวัดก็ได้มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับมีคำสั่งย้ายให้ไปช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดชลบุรี นอกจากนี้ หลังจากหารือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่านอกเหนือจากนั้นแล้วยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองรายอื่นเกี่ยวข้องอีก ซึ่งในวันนี้ก็ได้มีการประสานติดต่อเข้ามอบตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย
ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ต้องหาให้ผู้ประกอบการนําเงินใส่ซองจดหมายแล้วนําไปหย่อนที่ตู้รับบริจาคระบุตัวหนังสือหน้าตู้กิ่งกาชาดอำเภอสัตหีบนั้น เบื้องต้นได้รับประสานจากทางสภากาชาดไทย ส่งตัวแทนรับมอบอำนาจเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สัตหีบ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากทางสภากาชาดได้ยกเลิกการใช้ตู้บริจาคดังกล่าวไปตั้งแต่ปี 2560 และหลังจากนี้จะทำการแจ้งไปยังกิ่งกาชาดอำเภอแต่ละแห่งในพื้นที่ให้ทราบว่ามีการยกเลิกไปแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก
"ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉยหรือละเลย โดยจะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขยายผลเอาผิดผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป โดยไม่มีการละเว้น" ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าว
ด้าน พล.ต.ต.ยืนยันว่า คดีดังกล่าวไม่มีการกลั่นแกล้ง ว่ากันไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จจริง และพร้อมให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ส่วนหลังจากนี้เบื้องต้นจะนำตัวผู้ต้องหาไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองชลบุรี ก่อนนำตัวกลับไปสอบปากคำยัง บก.ปปป.เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ขณะที่ในส่วนของเรื่องการประกันตัวนั้นยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายพัทธวัจน์ ยังคงให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไมปักใจเชื่อ เนื่องจากแนวทางสืบสวนพบพยานหลักฐานสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพของเจ้าตัวขณะแกะซองเงินนำเข้ากระเป๋าส่วนตัว และยังทราบอีกว่าหลังผู้ต้องหากลุ่มแรกได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมาแล้ว ยังได้มาร่วมหารือกับ นายพัทธวัจน์ ถึงแนวทางการสู้คดีอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- จับปลัดอำเภอสัตหีบ รีดเงินพูลวิลล่าแลกใบอนุญาต ใช้วิธีสุดแยบยล
- มั่นใจหลักฐาน! ฟัน'ปลัดอำเภอสัตหีบ'รีดเงินพูลวิลล่า เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี