รศ.ดร.สุวิทย์ แซ่เตีย อธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) กล่าวถึง การประชุมวิชาการนานาชาติด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 8 หรือ SEE 2022 (The 8th International Conference onSustainable Energy and Environment)ที่ บัณฑิตวิทยาลัยด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) ภายใต้ศูนย์ความเป็นเลิศด้านเทคโนโลยีพลังงานและสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายความร่วมมือมหาวิทยาลัยไทย (มจพ. มช. มอ. และ SIIT มธ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น จัดขึ้นเมื่อระหว่างวันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2565 ว่า การประชุมครั้งนี้ดำเนินกิจกรรมภายใต้หัวข้อ “The Road to Net Zero : Energy TransitionChallenges and Solutions” โดยมี ดร.วีระวัฒน์ จันทนาคม ที่ปรึกษาอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้านต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพลังงาน กล่าวเปิดและปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “Thailand’s new nationalenergy plan and the net-zero ambitions” จากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษโดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านต่างๆ และการนำเสนอผลงานทางวิชาการกว่า 120 เรื่องจากประเทศต่างๆ มีผู้สนใจเข้าร่วมงานจากสถาบันอุดมศึกษา หน่วยงานด้านการวิจัย ทั้งภาครัฐ และเอกชน รวม 15 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมการประชุมและเสนอบทความทางวิชาการในรูปแบบ online และ on-site กว่า 300 คน
การประชุมครั้งนี้ มุ่งเน้นแลกเปลี่ยนแนวทางการไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนโดยการเปลี่ยนผ่านระบบพลังงาน ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกทั้งรัฐและเอกชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากผลกระทบจากการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ กำลังทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และการประชุมสามารถสร้างบรรยากาศของประชุมวิชาการที่มีการนำเสนอ รับฟังถกเถียง และแลกเปลี่ยนมุมมองในเชิงวิชาการอย่างสร้างสรรค์ โดย มจธ. จะนำผลสรุปในด้านต่างๆ จากการประชุมครั้งนี้ไปขยายผลทั้งในเชิงวิจัยและการนำไปใช้
“กิจกรรมการประชุมวิชาการครั้งนี้ถือจุดเริ่มต้นพบปะกันอีกครั้งของเวทีวิชาการนานาชาติ อันเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับวงการวิจัยไทย หลังจากซบเซาไปในช่วงวิกฤตโควิด-19” บทบาทของมหาวิทยาลัยคือ ในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีและนโยบาย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ได้เร็วขึ้น ในภาคเศรษฐกิจต่างๆ ดังนั้นข้อมูลและความรู้ที่มีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนในเวทีนี้เป็นสิ่งที่ทาง มจธ. มหาวิทยาลัยเกียวโต และมหาวิทยาลัยพันธมิตร (มจพ. มช. มอ. และ SIIT มธ.) ควรต้องนำไปวิเคราะห์และดำเนินการต่อ ในเบื้องต้น มจธ.จะส่งต่อข้อมูลกับประชาคมวิจัย และผู้สนใจในภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาชนเพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป” อธิการบดี มจธ. กล่าว
Prof. Hideaki Ohgaki ผู้บริหารจากสถาบันขั้นสูงด้านพลังงาน (Institute of Advanced Energy) มหาวิทยาลัยเกียวโต กล่าวว่า การได้ร่วมจัดประชุมวิชาการนานาชาติ SEE กับ JGSEE มาตั้งแต่ครั้งที่ 1 จนถึงครั้งที่ 8 ในปีนี้ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้สถาบันทั้งสองมีความร่วมมือทางวิชาการกันมาอย่างแนบแน่นและต่อเนื่อง การจัดประชุม SEE ทุกครั้ง จะมีเนื้อหาที่ก้าวหน้ากว่าครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งบางส่วนที่เป็นผลพวงจากโครงการวิจัยร่วมโดยอาจารย์และนักศึกษาทั้งที่JGSEE และญี่ปุ่น ความประทับใจที่นักวิจัยทั้งสองฝ่ายได้รับขณะทำงานวิจัย ณ สถานที่ของอีกฝ่ายหนึ่ง ทำให้มหาวิทยาลัยเกียวโตยินดีที่จะมีกิจกรรมต่างๆร่วมกับ JGSEE ทั้งในปัจจุบันและอนาคต
Ms. Ranee Jan นักศึกษาปริญญาโท JGSEE ที่เข้าร่วมในการนำเสนอผลงานวิชาการและได้รับรางวัล Best Paper Award กล่าวว่าการประชุมครั้งนี้ ทำให้ได้รับข้อมูลและมุมมองใหม่ๆและที่มีความเป็นปัจจุบันรวมถึงการคาดการณ์สำหรับอนาคต ทั้งในระยะใกล้และไกล ในด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการหลากหลายสาขาทั่วโลก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางานวิจัยของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี