งานเทศกาลไหมเป็นงานที่จังหวัดขอนแก่น จัดขึ้นทุกปี เริ่มตั้งแต่ปี 2522 จนถึงปัจจุบัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไหม มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมออกร้านแสดงผลิตภัณฑ์และจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง (ผ้าไหม) และของที่ระลึกอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณีผูกเสี่ยว โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้คนในท้องถิ่นและคนในชาติมีความรักใคร่กลมเกลียวสมัครสมานสามัคคีและช่วยเหลือเกื้อกูลกันคำว่า “เสี่ยว” เป็นภาษาถิ่นอีสาน แปลว่า มิตรแท้ เพื่อนแท้ เพื่อนตาย มีความผูกพัน ซื่อสัตย์ และจริงใจต่อกัน โดยปีนี้ได้มีการจัดงานแบบมิติใหม่ งานเทศกาลไหม ประเพณีผูกเสี่ยวของ จ.ขอนแก่น ชูความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมประเพณี ขายความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น “ขอนแก่นซอฟต์ พาวเวอร์” โดยให้ทั้ง 26 อำเภอสร้างเฮือนอีสานย้อนยุคโชว์นักท่องเที่ยว พร้อมกับจำหน่ายผ้าไหมและสินค้าชุมชนขึ้นชื่อ
นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเปิดเผยถึงการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์ พาวเวอร์ ว่า ปีนี้ได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานใหม่ โดยหันมาเน้นชูศิลปวัฒนธรรมความเป็นท้องถิ่นอีสานมาเป็นธีมหลัก มีการสร้างเฮือนอีสานโบราณที่ถ่ายทอดศิลปวัฒนธรรมของคนอีสาน ให้นักท่องเที่ยวได้มาชม มาสัมผัส และถ่ายทอดรูปแบบศิลปวัฒนธรรมของคนอีสานผ่านอาหาร สินค้าขึ้นชื่อของดีประจำแต่ละอำเภอ ผ่านการเซลฟีผ่านสื่อโซเชียลต่างๆ ทั้งนี้ ทางจังหวัดได้มอบหมายให้แต่ละอำเภอทั้ง 26 อำเภอ ได้ระดมช่างไม้สร้างเฮือนแบบโบราณอีสานที่มีมาหลายชั่วอายุคนจัดแสดงภายในพื้นที่จัดงาน รื้อฟื้น สืบสานศิลปวัฒนธรรมของคนอีสานที่มีมาแต่โบราณ แสดงถึงอัตลักษณ์และความงดงามของลายผ้าไหมมัดหมี่ ผ้าทอ ประเพณีการผูกเสี่ยวแห่งแรกของภาคอีสานที่สืบทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะการสร้างเฮือนหรือบ้านที่อยู่อาศัยของแต่ละอำเภอทั้ง 26 อำเภอในจังหวัดขอนแก่น นำเฮือนไม้เก่าที่มีอยู่ในพื้นที่มาดัดแปลงสร้างเป็นเฮือนบ้านไม้แบบโบราณจัดแสดงในพื้นที่จัดงานเทศกาลไหมฯ ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น รวมเป็นหมู่บ้านชุมชนโบราณ เป็นการปลูกสร้างบ้านที่มีลักษณะการใช้สอยใกล้เคียงกัน รวมกันอยู่เหมือนคุ้ม ที่มีเฮือนรวมกันอยู่หลายๆ หลัง เป็นหมู่บ้านอยู่ในละแวกเดียวกัน เรียกว่า “เฮือนโบราณวิถีไทบ้านขอนแก่น”
นายไกรสรกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีประเพณีที่ถือเป็นไฮไลท์และจัดต่อเนื่องควบคู่กับงานเทศกาลไหมคือ ประเพณี “ผูกเสี่ยว” ซึ่งคำว่า “เสี่ยว” หมายถึง มิตรแท้เพื่อนแท้ ที่มีความผูกพันและจริงใจต่อกัน โดยการผูกเสี่ยวคือการนำบุคคล 2 คน ที่มีความผูกพันเป็นมิตรกันมาก่อนด้วยหลักเกณฑ์ในการเลือกคู่จะเลือกเพศเดียวกัน นอกจากนี้ เสี่ยวที่มีลักษณะท่าทางรูปร่าง อายุ อารมณ์หรือบุคลิกภาพที่ใกล้เคียงกัน โดยมีหมอสู่ขวัญเป็นผู้ทำพิธี จากนั้นจะให้ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายผูกข้อมือเป็นคู่เสี่ยวพร้อมกับให้โอวาทและอวยพรให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนรักเพื่อนตาย ช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งสองครอบครัวและสังคมรอบข้าง เผยแพร่ชื่อเสียงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดขอนแก่นให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ และเพื่อหารายได้ให้กับเหล่ากาชาดจังหวัดขอนแก่น สำหรับนำไปช่วยเหลือราษฎรที่เดือดร้อนและประสบสาธารณภัยต่างๆ ในแต่ละปี
ภายในงานยังมีกิจกรรมการแสดงแสง สี เสียงประเพณีท้องถิ่น รวมถึงการจำหน่ายสินค้า OTOP สินค้าหัตถกรรมท้องถิ่น การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัด การเลือกซื้อผ้าไหมนานาชาติ ที่จัดแสดงและจำหน่ายผ้าไหม ผลิตภัณฑ์ไหมของประเทศกลุ่มอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง 6 ประเทศ คือ จีน เวียดนาม กัมพูชา ลาวพม่า และไทย การแสดงผ้าไหมมัดหมี่ การแสดงผ้าไหมนานาชาติ ที่แสดงให้เห็นอัตลักษณ์ของประเทศนั้นๆ และเพื่อเป็นการพัฒนาการยกระดับผ้าไหมจังหวัดขอนแก่นปีนี้ให้เป็นงานที่จะก้าวสู่นานาชาติสู่ประชาคมเศรษฐกิจโลก ภายใต้ชื่อ งานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์ พาวเวอร์ ประจำปี 2565
สำหรับการจัดงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์ พาวเวอร์ ในปีนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน -10 ธันวาคม 2565 และวันที่ 28 พฤศจิกายน 2565 ได้มีการรำบวงสรวงศาลหลักเมืองขอนแก่น โดยผู้เข้าร่วมฟ้อนรำมาจาก ทั้ง 26 อำเภอของเมืองขอนแก่น มีนางรำจำนวนกว่า 30,000 คน มาร่วมรำบวงสรวงศาลหลักเมืองขอนแก่นครบรอบ 225 ปี การจัดตั้งจังหวัดขอนแก่น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี