‘ชาวเวียงสา’วอนรัฐเปิดจุดผ่อนปรน‘บ้านน้ำปี้’ เพิ่มโอกาสการค้าไทย-ลาว
1 ธันวาคม 2565 นายทิฆัมพร ยะลา รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยฝ่ายสภาความมั่นคงแห่งชาติ และคณะ ลงพื้นที่ จ.น่าน ระหว่างวันที่ 29-30 พ.ย.65 เพื่อตรวจสอบและแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีชาวบ้านร้องเรียนอ้างว่าผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ไม่ดำเนินการออกประกาศของจังหวัดให้เปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไทย-ลาว บ้านน้ำปี้ หมู่ 5 ต.น้ำมวบ อ.เวียงสา จ.น่าน ตามมติคณะอนุกรรมการพิจารณาการเปิดจุดผ่อนปรน และหนังสือของกระทรวงมหาดไทย ที่ให้ จ.น่าน ดำเนินการเมื่อปี 2556 ส่งผลให้ผู้ร้องเรียนและชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
ทั้งนี้ มีนายกฤชเพชร เพชระบูรณิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมด้วยนายนพพร เรืองสุวรรณ นายอำเภอเวียงสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและรายงานผลการดำเนินงานที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำมวบ
ฝ่ายผู้ร้องเรียน ประกอบด้วย นายธเนศ ตาชม ทนายความ พร้อมด้วยนายสุนทร มหาวงศนันท์ อดีตนายอำเภอเวียงสา ตัวแทนผู้ประกอบการและชาวบ้าน ชี้แจงถึงความต้องการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านน้ำปี้ และขอเป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ซึ่งเป็นหมู่บ้านแนวชายแดนติดกับบ้านแค่น เมืองทุ่งมีไช แขวงไซยะบุลี สปป.ลาว โดยขอให้มีการเปิดจุดผ่อนปรน ทุกวันเสาร์ เวลา 08.00-16.00 น. เพื่อให้ชาวบ้านและชาวลาวได้ซื้อขายสินค้าท้องถิ่น สินค้าอุปโภคบริโภค เกิดเป็นเศรษฐกิจการค้า รวมทั้งยังพัฒนาให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยวของ อ.เวียงสาไป สปป.ลาว แต่ผ่านมาแล้ว 10 ปี จ.น่าน ยังไม่ออกประกาศเพื่อเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านน้ำปี้
ด้านนายอาภรณ์ นิลศิริ ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง รายงานข้อเท็จจริงและผลการดำเนินการที่ผ่านมาตลอด 10 ปี โดยมีการประชุมหารือเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนบ้านน้ำปี้ โดยองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำมวบ ขอใช้พื้นที่ป่า 379 ไร่ และขอผ่อนผันปรับปรุงผิวเส้นทางระยะ 17 กิโลเมตร (กม.) แต่ด้วยเส้นทางและจุดผ่อนปรนบ้านน้ำปี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน และอุทยานแห่งชาติแม่จริม สภาพพื้นที่เป็นลุ่มน้ำคุณภาพชั้น 1A ยังคงมีสภาพป่าสมบูรณ์ และเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทำให้มีข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายหน่วยงาน จำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบทั้งเรื่องแนวเขตและด้านความมั่นคง
ทั้งนี้ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 13 (แพร่) แจ้งให้ อบต.น้ำมวบ ต้องปฏิบัติตามมติ ครม. โดยห้ามตัดถนนใหม่ ไม่ให้มีการขยายเส้นทางสัญจรขึ้นใหม่ แต่ให้ปรับปรุงผิวถนนแทนซึ่งต้องประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ และต้องจัดทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และให้ดำเนินการขอผ่อนผันการขอใช้พื้นที่ป่า ไปยังกรมอุทยานแห่งชาติฯตามลำดับขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งทาง อบต.น้ำมวบ ยังไม่สามารถดำเนินการตามมติที่ประชุมของจังหวัดน่านได้ จึงยังไม่สามารถออกประกาศเปิดจุดผ่อนปรนการค้าบ้านน้ำปี้
หลังจากการรับฟังข้อเท็จจริงแล้ว รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะทั้งหมด และสื่อมวลชนได้เข้าพื้นที่จริง เพื่อตรวจสอบข้อมูล ระยะทาง 17 กิโลเมตร จากจุดแนวชายแดนแนวสันเขาเส้นยางแบ่ง ฝั่งไทย-ลาว จนถึงหมู่บ้านน้ำปี้ หมู่ที่ 5 ที่ขอเปิดจุดผ่อนปรนการค้า ซึ่งตลอดเส้นทางพบว่า พื้นที่กันนอกเขตป่าอนุรักษ์ติดหมู่บ้าน มีชาวบ้านทำพื้นที่การเกษตร ปลูกข้าวโพด มันสำปะหลังและ ยางพารา แต่พื้นที่ป่าชั้นในจนถึงแนวชายแดน มีสภาพป่าไม้สมบูรณ์ มีไม้ขนาดใหญ่ และลำห้วยมากถึง 40 แห่ง หากมีการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าที่บ้านน้ำปี้ ระยะทางจากแนวชายแดนเข้ามาถึงตัวด่าน มีความจำเป็นต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงด้านความมั่นคง โดยเฉพาะเรื่องการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า การลักลอบแรงงานเถื่อน สิ่งของผิดกฎหมาย ยาเสพติดและอาชญากรรม ที่อาจจะเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.เวียงสา และ จ.น่าน
นายธเนศ ตาชม กล่าวว่า ในการพิจาณาเปิดจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านน้ำปี้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องทั้งชาวไทยและลาว ให้มีช่องทางสะดวกในการติดต่อการค้า-ขาย การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ที่ผ่านมารุ่นปู่ย่า ตายาย รุ่นพ่อ รุ่นแม่ก็ได้ไปมาหาสู่กันมีอะไรก็แบ่งปันแลกเปลี่ยนกัน เหมือนญาติพี่น้อง ในพื้นที่บ้านน้ำปี้ กับเมืองทุ่งมีไชย สปป.ลาว เส้นทางดังกล่าวพี่น้อง ต.น้ำมวบ ต.นาส้านนาหนองใหม่ ที่ใช้ขนพืชผลทางการเกษตรและเป็นจุดค้าขายกันระหว่างสองประเทศ ที่ผ่านมาสายเหนือ สายไต้มีจุดท่องเที่ยวแต่ทำไมจุดผ่อนปรนบ้านน้ำปี้ ทำไมเปิดไม่ได้ตนจึงขอวิงวอนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยปลดล็อกและเปิดจุดผ่อนปรนให้ด้วยเพื่อที่ชาวบ้านจะได้มีที่ค้าขายกัน
ด้านนายทิฆัมพร กล่าวว่า จากการรับฟังข้อเท็จจริงและการตรวจสอบสภาพพื้นที่ จะได้รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อประมวลผลให้รอบด้านเพื่อสรุปผลและนำเสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้มีคำวินิจฉัยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี