วันอาทิตย์ ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
กระตุ้น4เข็มทุก4เดือน  สธ.ย้ำมาตรการสกัดโควิด-19ลามพุ่ง  ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มภูมิคุ้มกัน

กระตุ้น4เข็มทุก4เดือน สธ.ย้ำมาตรการสกัดโควิด-19ลามพุ่ง ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มภูมิคุ้มกัน

วันเสาร์ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2565, 06.00 น.
Tag : สธ. โควิด-19 ฉีดวัคซีนกระตุ้น ภูมิคุ้มกัน
  •  

กระตุ้น4เข็มทุก4เดือน

สธ.ย้ำมาตรการสกัดโควิด-19ลามพุ่ง

ฉีดวัคซีนกระตุ้นเพิ่มภูมิคุ้มกัน

หมอจุฬาฯห่วงป่วยกักตัว5วัน

ผลATK1ขีดยังแพร่เชื้อต่อได้

สธ.เผยสถานการณ์โควิดไทยระบาดเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับทั่วโลกซึ่งลักษณะใกล้เคียงไข้หวัดใหญ่มากขึ้น เดินหน้ามาตรการฉีดวัคซีนโดยเฉพาะเข็มกระตุ้น “4 เข็ม 4 เดือน”เพิ่มภูมิคุ้มกัน ยันวัคซีนรุ่นเก่ายังใช้ได้ อย่ารอชนิดใหม่ คาดปี 66 ยังมีระบาดลักษณะระลอกเล็กต่อเนื่อง หมอจุฬาฯเตือนคนติดเชื้อกักตัว 5 วัน ตรวจ ATK ขึ้น 1 ขีดยังแพร่เชื้อต่อได้ แนะใส่หน้ากากอนามัย กินข้าวคนเดียวต่ออีก 5 วัน

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยว่า ภาพรวมทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้น่ากังวล ทุกประเทศกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งนี้ ลักษณะการติดเชื้อโควิดจะขึ้นๆ ลงๆ เป็นไปตามรูปแบบการระบาดใหญ่ อย่างที่เราเจอเมื่อร้อยปีที่แล้วคือ ไข้หวัดสเปน เพียงแต่ช่วงนั้นการสื่อสารยังไม่เร็วเหมือนปัจจุบัน แต่ภาพรวมคล้ายกัน ซึ่งการระบาดแต่ละประเทศจะมีสายพันธุ์ต่างกันไป ไม่เหมือนช่วงแรกที่ระบาดสายพันธุ์เดียวกันหมด


โควิดโลกเพิ่ม-เข้าใกล้หวัดใหญ่

“ฉะนั้น โควิดเข้าใกล้ไข้หวัดใหญ่เข้าไปทุกที เนื่องจากคนฉีดวัคซีนป้องกัน เชื้อกลายพันธุ์หลากหลายแต่ละพื้นที่มีสายพันธุ์ย่อยต่างกัน และความรุนแรงการก่อโรคไม่มาก อย่างประเทศที่พบติดเชื้อเพิ่มช่วงนี้คือ ญี่ปุ่น เฉลี่ยวันละ 6-7 แสนราย เกาหลี 3-4 แสนราย ฝรั่งเศส 4 แสนราย สหรัฐอเมริกา 3 แสนราย และบราซิล 2 แสนราย” ปลัด สธ.ระบุ และว่า อย่างไรก็ตาม การรายงานข้อมูลปัจจุบันที่คนมีความรู้มากขึ้น มีวัคซีนมียารักษาต่างจากช่วงระบาดในอู่ฮั่น ที่เชื้อรุนแรง ไม่มีวัคซีน คนกลัวมาก การรายงานข้อมูลที่เปลี่ยนไป ไม่มีใครนั่งไล่ว่าติดเชื้อกี่คน แต่เราจะดูจากแนวโน้ม อย่างไทยใช้ตัวเลขเสียชีวิต ผู้ใส่ท่อหายใจ ซึ่งตอนนี้ภาพรวมแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ผิดจากคาดการณ์

ไทยปอดอักเสบ-ใส่ท่อ-ตายเพิ่ม

นพ.โอภาสกล่าวอีกว่า ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน -3 ธันวาคม ไทยพบผู้ป่วยปอดอักเสบ ใส่ท่อหายใจและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่มาก ข้อมูลผู้เสียชีวิต 105 ราย ทั้งหมด 100% เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ประวัติรับวัคซีน เป็นผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน 51% รับเข็มเดียว 5% รับครบสองเข็มแต่ไม่ได้รับเข็มกระตุ้น 30% ได้รับเข็มกระตุ้นเกิน 3 เดือน 14%

ส่วนข้อมูลสัปดาห์นี้อยู่ระหว่างสรุป แต่เบื้องต้นข้อมูลพบตัวเลขเริ่มชะลอตัวจาก 2 สัปดาห์ก่อน ส่วนการเสียชีวิต 100% เป็นกลุ่มเสี่ยง 608 และคนไม่ฉีดวัคซีนรวมถึงไม่ได้รับเข็มกระตุ้น ฉะนั้น กลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อแล้วจะเสียชีวิตสูงสุด ขณะที่สถานการณ์ครองเตียงในโรงพยาบาล(รพ.) กลุ่มปอดอักเสบยังเป็นสีเขียวอยู่มี 533 ราย ครองเตียง 7.30% ทำให้รพ.สามารถกลับไปรักษาผู้ป่วยตามปกติ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิดขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุข

บี้รพ.ทั่วปท.เพิ่มยอดฉีดวัคซีน

ขณะเดียวกัน ระบบเฝ้าระวังในชุมชนและประชากรกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มแรงงานต่างด้าว บุคลากรในรพ. ชุมชนแออัด ตลาดสด การพบผู้ป่วยไม่ได้เพิ่มขึ้น และบางสัปดาห์ดูลดลงด้วยซ้ำ ทั้งนี้ ข้อมูลการศึกษาภูมิคุ้มกันของคนไทย ส่วนใหญ่ มีภูมิฯแล้วเพราะรับวัคซีน ช่วงก่อนหน้านี้ที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่มาก คนเลยไม่ค่อยฉีดวัคซีน เฉลี่ยวันละพันรายเท่านั้น แต่ตอนนี้เพิ่มเป็นวันละหมื่นราย หรือ 3-4 เท่า ซึ่งตนได้ให้นโยบายกับหน่วยบริการสาธารณสุขในสังกัดสธ.ทั่วประเทศว่า หากคนมาขอฉีดต้องได้ฉีด แม้ว่าจะต้องเปิดขวดใหม่เพื่อฉีดคนละขวดก็ต้องทำ และขอความร่วมมือไปยังคณะกรรมการโรคติดกรุงเทพมหานคร เพื่อขอความร่วมมือ ให้ศูนย์บริการสาธารณสุขกทม. เร่งฉีดวัคซีนให้เพิ่มขึ้น

วัคซีนเดิมใช้ได้อย่ารอรุ่นใหม่

“การฉีดเข็มกระตุ้น ไม่ว่าจะเคยฉีดแบบไหนมาก็ไม่ต่างกันมาก ส่วนวัคซีนรุ่นใหม่ที่เป็นสองชนิดหรือสองสายพันธุ์ (Bivalent vaccine) ความเห็นของนักวิชาการต่างก็บอกว่า ถ้ามาใช้เป็นเข็มกระตุ้นก็ดีกว่าชนิดเดิมที่ใช้อยู่เล็กน้อยอย่างไม่มีนัยยะสำคัญ ที่สำคัญคือ ระยะเวลาฉีดเข็มกระตุ้น ดังนั้น ไม่ต้องรอรุ่นใหม่ใช้วัคซีนเดิมได้ เนื่องจากการนำมาฉีดกระตุ้นไม่ได้ให้ผลต่างกว่าการฉีดวัคซีนรุ่นเดิมมากนัก และเชื้อยังกลายพันธุ์ย่อยๆต่อเนื่อง วัคซีนที่ผลิตออกมาจึงไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของเชื้อไวรัส” นพ.โอภาส กล่าว และยืนยันว่าถึงแม้สถานการณ์โควิดในไทยแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่เริ่มชะลอตัว ระบบสาธารณสุขยังรองรับได้

ย้ำมาตรการ“4เข็ม4เดือน”

ปลัด สธ.กล่าวว่า มาตรการช่วงนี้จึงยังต้องเร่งเชิญชวนกลุ่ม 608 รวมถึงผู้ที่ได้รับวัคซีนหรือติดเชื้อมาแล้วเกิน 3-4 เดือน ให้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามหลัก “4 เข็ม 4 เดือน”คือ รับให้ครบ 4 เข็ม หากเข็มล่าสุดเกิน 4 เดือน ให้มารับวัคซีนเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ซึ่งได้กำชับสถานพยาบาลสังกัด สธ.ให้บริการประชาชนทุกคนที่มาขอรับบริการ อย่ากังวลเรื่องการสูญเสียวัคซีนเกินไป รวมถึงให้จัดจุดบริการเพิ่มขึ้นและหน่วยฉีดเชิงรุก

คาดปี66ยังระบาดเป็นSmall Wave

นพ.โอภาสระบุด้วยว่ามาตรการป้องกันตนเองยังมีความสำคัญ โดยเฉพาะการสวมหน้ากากเมื่อมีอาการในระบบทางเดินหายใจ หรืออยู่ในที่มีคนจำนวนมาก ทั้งนี้ สธ.ยังเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในกลุ่มต่างๆทั้งสถานพยาบาล ตลาด แรงงานต่างด้าว ชุมชนแออัด หากมีสัญญาณเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจะแจ้งเตือนให้ประชาชนทราบ

ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในปี 2566 คาดว่า ไม่น่าแตกต่างจากเดิม ยังพบการระบาดในลักษณะ Small Wave เชื้อโรคอาจกลายพันธุ์ย่อยๆ เล็กน้อย ขณะที่คนมีภูมิคุ้มกันมากขึ้น แต่ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงยังต้องให้วัคซีนเพิ่มภูมิคุ้มกัน ทำให้ประชาชนยังใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ

ป่วยกักตัว5วันเหลือ1ขีดยังแพร่เชื้อได้

ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์ข้อความแนะนำกรณีติดโควิดว่า ติดโควิดกักตัว 5 วันเหลือ 1 ขีด หลายคนหลังจากนั้นยังพบไวรัสจำนวนมาก ไม่ใช่ซากเชื้อ ระวังแพร่ต่อให้คนอื่นโดยเฉพาะคนเปราะบาง ดังนั้น ต้องใส่หน้ากากอนามัยให้มิดชิด ทานข้าวคนเดียวต่ออีก 5 วัน ที่สำคัญผู้ที่เป็นแพทย์พยาบาล กักตัว 5 วัน ให้ทำงานต่อ ขณะที่ ATK อย. สหรัฐฯ ประกาศมาตลอดว่าไม่ไว โอกาสที่จะ 2 ขีดตั้งแต่ต้นน้อย ดังนั้น ถ้ารอ 2 ขีด จะพลาดโอกาสได้รับยาต้านไวรัส ที่ต้องกินเร็วแต่ต้นจึงจะได้ผล ถ้าทำ PCR เสียเงินเอง หรือเริ่มฟ้าทะลายโจรไปก่อน ถ้าฟ้าทะลายโจรเอาไม่อยู่ พบแพทย์ทันที หาสาเหตุและรักษา

เชื้อกลายพันธุ์ไม่มีผลต่อยารักษา

มีความเห็นจาก ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการกลายพันธุ์ของไวรัสโควิดมาต่อเนื่องว่า การกลายพันธุ์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมในส่วนหนามแหลม มีผลต่อวัคซีนที่ใช้ป้องกันมีประสิทธิภาพลดลง และยาในกลุ่มแอนติบอดี รวมทั้งโมโนโคลนอลแอนติบอดี มีประสิทธิภาพลดลง ส่วนยาที่ใช้รักษาผู้ติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นเรมเดซิเวียร์ และโมลนูพิราเวียร์ มีผลต่อการแบ่งตัวของไวรัสโดยขัดขวาง RNA dependence RNA polymerase ยาแพ็กซ์โลวิดขัดขวาง enzyme protease ไม่ได้อยู่ในส่วนที่กลายพันธุ์ของไวรัส ดังนั้น การกลายพันธุ์ของไวรัสปัจจุบันจึงยังไม่มีผลต่อประสิทธิภาพการให้ยาต้านไวรัสในการรักษาดังกล่าว ยาต้านไวรัสที่กล่าวถึงจึงยังมีประสิทธิภาพรักษาเหมือนเดิม ถึงแม้ว่าไวรัสจะกลายพันธุ์

ติดโควิดรักษารพ.ตามสิทธิฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานประกันสังคมแชร์ข้อมูลว่า กรณีผู้ประกันตนติดเชื้อโควิด -19 มีไข้ ไอ หอบเหนื่อย หรือมีอาการปอดอักเสบ ผลตรวจ ATK เป็นบวกเข้ารักษา รพ.ตามสิทธิไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยหลักเกณฑ์เงื่อนไขรับสิทธิ์คือ ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 จะได้รับสิทธิเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนวันรับบริการทางการแพทย์ ผู้มีสิทธิตามมาตรา 38 และมาตรา 41 จะได้รับสิทธิคุ้มครองต่ออีก 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน

กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลตามสิทธิ ดังนี้ 1.การเข้ารับการรักษาพยาบาลไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยนอก หรือ ผู้ป่วยใน หากเป็นไปตามคำสั่งของแพทย์ ผู้ประกันตนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เว้นแต่ ผู้ประกันตน “ร้องขอ” นอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง ผู้ประกันตนต้องเสียส่วนต่างเอง ซึ่งรายละเอียดการ “ร้องขอ” แนะนำให้ผู้ประกันตน สอบถามกับทางสถานพยาบาลตามสิทธิรักษาพยาบาลโดยตรง

กรณีโรงพยาบาลที่ผู้ประกันตนเลือกถือเป็นโรงพยาบาลหลัก ซึ่งโรงพยาบาลหลักนั้น อาจมีสถานพยาบาลเครือข่าย เช่น โรงพยาบาลระดับรองหรือคลินิก เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนโดยผู้ประกันตนสามารถเข้าไปรักษาพยาบาลได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ถ้าการรักษาโรคบางโรคที่สถานพยาบาลตามสิทธิ ไม่สามารถรักษาได้ จะส่งตัวไปรักษาที่สถานพยาบาลที่มีศักยภาพให้บริการทางการแพทย์ แก่ผู้ประกันตนโดยสถานพยาบาลตามสิทธิจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น กรณีผู้ประกันตนไปใช้บริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิแล้วพบปัญหาในการรักษาพยาบาล ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่แผนกสิทธิประกันสังคมของโรงพยาบาลโดยตรง หรือสอบถามข้อมูลประกันสังคมได้ที่ www.sso.go.th หรือโทรฯ สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สมศักดิ์’สั่งเฝ้าระวังโรค‘แอนแทรกซ์’เข้มข้น ยับยั้งการแพร่ระบาด ‘สมศักดิ์’สั่งเฝ้าระวังโรค‘แอนแทรกซ์’เข้มข้น ยับยั้งการแพร่ระบาด
  • \'สสส.-สธ.\'ชวนคนไทย\'นับคาร์บ\'ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน ตัวช่วยกระตุ้นลดเสี่ยงโรค NCDs 'สสส.-สธ.'ชวนคนไทย'นับคาร์บ'ง่ายๆ แค่ 3 ขั้นตอน ตัวช่วยกระตุ้นลดเสี่ยงโรค NCDs
  • ‘สธ.’เดินหน้ายุติ‘วัณโรค’ ตั้งเป้าปี78 ลดอัตราการตายร้อยละ 95 ลดผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 90 ‘สธ.’เดินหน้ายุติ‘วัณโรค’ ตั้งเป้าปี78 ลดอัตราการตายร้อยละ 95 ลดผู้ป่วยรายใหม่ร้อยละ 90
  • ‘สธ.-ทส.’หนุนปลูก‘สมุนไพร’พื้นที่อนุรักษ์ ‘อภัยภูเบศร’ชูโมเดลชุมชนเกษตรอินทรีย์ ‘สธ.-ทส.’หนุนปลูก‘สมุนไพร’พื้นที่อนุรักษ์ ‘อภัยภูเบศร’ชูโมเดลชุมชนเกษตรอินทรีย์
  • ‘สมศักดิ์’ประกาศ‘สธ.’ตั้งเป้าปี69 ใช้‘ยาสมุนไพร’ในระบบหลักประกันสุขภาพ 3 พันล้าน ‘สมศักดิ์’ประกาศ‘สธ.’ตั้งเป้าปี69 ใช้‘ยาสมุนไพร’ในระบบหลักประกันสุขภาพ 3 พันล้าน
  • ‘สมศักดิ์’เผย สธ.มอบของขวัญปีใหม่ 7 แพ็คเกจ ได้รับถ้วนหน้าตั้งแต่ในครรภ์ จนถึงสูงวัย ‘สมศักดิ์’เผย สธ.มอบของขวัญปีใหม่ 7 แพ็คเกจ ได้รับถ้วนหน้าตั้งแต่ในครรภ์ จนถึงสูงวัย
  •  

Breaking News

'กุนซืออิ๊งค์'มาแล้ว! เผยท่าทีไทยต่อสหรัฐฯปมกำแพงภาษี

'เบสท์ ชนิดาภา'แชร์อุทาหรณ์ ถูกมิจฉาชีพหลอกสูญเงิน 1.2 ล้านบาท

'แทมมี่'จัดใหญ่! ศึก100พลัสไทยเทนนิสลีก

'พิพัฒน์'เยือนเกาะเชจู พบแรงงานไทย-หารือความร่วมมือด้านแรงงาน เตรียมประชุมรัฐมนตรี APEC 2025

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved