เปิดแผนสกัด‘ช้างป่า’บุกทำร้ายชาวบ้านฉะเชิงเทรา เร่งเคลื่อนย้าย 5 ตัวดุร้าย
16 ธันวาคม 2565 ภายหลังเกิดเหตุช้างป่าในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 1 ราย เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดนายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่พบกับชาวบ้าน อ.ท่าตะเกียบ เพื่อรับฟังปัญหา และข้อเสนอแนะจากชาวบ้าน หลังเกิดเหตุแล้วปรากฏว่าชาวบ้านหวาดกลัว ไม่กล้าออกมากรีดยาง และประกอบอาชีพ เพราะช้างป่าสามารถบุกเข้ามาในย่านชุมชน ทั้งกลางวันและกลางคืน มีข้อเรียกร้องหลักๆ คือ 1.ให้ย้ายช้างตัวที่ดุร้ายออกนอกพื้นที่ 2.จัดเวรยามเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง 3.เยียวยาผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีการดูแลครอบครัวให้สามารถประกอบอาชีพ และให้การศึกษาแก่บุตรผู้เสียชีวิต และ 4.ระยะยาว ขอให้ทางราชการทำคูกั้นช้าง เพื่อป้องกันช้างไม่ให้บุกรุกเข้ามาในพื้นที่ชุมชน
ผวจ.ฉะเชิงเทรา ได้กำชับทุกหน่วยงาน โดยให้นายอำเภอท่าตะเกียบ รวบรวมข้อเรียกร้องจากชาวบ้าน และมีข้อเสนอบางอย่างที่ต้องประสานงานกับหน่วยงานส่วนกลาง ทางจังหวัดฉะเชิงเทราจะพยายามผลักดันและช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังความสามารถ
สำหรับจำนวนช้างในพื้นที่รอยต่อ 6 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ตราด และฉะเชิงเทรา สันนิษฐานว่ามีอยู่จำนวน 400 กว่าตัว ช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่ช้างอารมณ์พลุ่งพล่าน และมีบางตัวที่ดุร้าย การจัดการกับช้างป่าที่ดุร้ายเพื่อย้ายออกจากพื้นที่ จากข้อมูลที่ได้รับจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน สามารถย้ายได้ทีละตัว ด้วยการยิงยาเพื่อให้ช้างซึม จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายช้าง ซึ่งมีปัจจัยประกอบด้วยในการเข้าถึงพื้นที่หากมีความยากลำบาก จะทำให้การเคลื่อนย้ายช้าง พร้อมกับรถที่จะเคลื่อนย้ายช้างลำบากมาก ซึ่งขณะนี้กำลังวางแผนดำเนินการ เพื่อให้ชาวบ้านรู้สึกปลอดภัยขึ้น
ทั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำสวนยางพารา การยางแห่งประเทศไทยฉะเชิงเทรา จะได้สนับสนุนชุดติดตั้ง และฮอร์โมนเอธิลีน เพื่อเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะทำให้ชาวสวนยางลดจำนวนเวลาในการกรีดยางลง ให้เกษตรกรรายละไม่เกิน 10 ไร่ ตามหลักเกณฑ์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ช่วงที่เกษตรกรหวาดกลัวไม่กล้าเข้าไปกรีดยางในสวน และขณะนี้ จ.ฉะเชิงเทรา ได้แต่งตั้งคณะทำงานอนุรักษ์ช้าง และจัดการช้าง เพื่อบูรณาการร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการบริหารจัดการแก้ปัญหาช้างอย่างเป็นรูปธรรม
จากนั้น ผวจ.ฉะเชิงเทรา เป็นผู้แทนมอบเงินจำนวน 5,000 บาท ของมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้บุตรสาวผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พุทธโสธร และเดินทางเยี่ยมและให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย และมอบเงินให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต โดยได้รับจากมูลนิธิพัชรสุธาคชานุรักษ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ รายละ 20,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกองทุนผู้ประสบภัยช้างป่า /อ.ท่าตะเกียบ /อบต.ท่าตะเกียบ /การยางแห่งประเทศไทย มูลนิธิอนุรักษ์ (ช่วยเหลือสัตว์ป่า) ทางจังหวัดฉะเชิงเทรา จะได้ตรวจสอบระเบียบการช่วยเหลือ จากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเร่งรัดการเยียวยาผู้เสียหาย และผู้เสียชีวิต ให้ได้รับเงินเยียวยามากที่สุด และเร็วที่สุด ตามระเบียบ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ต่อไป
ด้านนายเผด็จ ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงความคืบหน้าของการทำคูกันช้าง ว่า กรมฯได้พยายามปรับปรุงแนวป้องกันช้างป่าที่ออกหากินนอกพื้นที่อนุรักษ์ ด้วยการทำรั้วไฟฟ้า สร้างคูดินกันช้าง แต่ช้างมีการปรับตัวและสามารถทำลายคูกันดินได้ จากการศึกษาของคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาช้างป่าของสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับนักวิชาการ มีข้อเสนอว่าควรใช้คูกันช้างตามแนวที่มีอยู่เดิม แต่ควรเสริมด้วยการเทคอนกรีตผสม เพื่อป้องกันไม่ให้ช้างป่ารุกเข้ามาได้ พร้อมด้วยการวางท่อระบายน้ำ จะมีค่าใช้จ่ายกิโลเมตรละ 6.5 ล้านบาท
นายเผด็จ ระบุว่า ขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้จัดทำคำของบประมาณ ประจำปี 2567 เพื่อจัดทำแนวป้องกันช้าง ความยาว 50 กิโลเมตร ในเฟสแรก งบประมาณจำนวน 325,000,000 บาท ผ่านพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ 20 กม. อ.สนามชัยเขต ต.ท่ากระดาน 10 กม. และ อ.แก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี 20 กม. และยังได้เสนอแนะจังหวัด 5 รอยต่อ ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว และฉะเชิงเทรา เพื่อการแก้ปัญหาร่วมกัน สนับสนุนงบประมาณจากกลุ่มจังหวัด เพื่อสร้างแนวป้องกันช้างเพิ่มจะเป็นการแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ได้ในระยะยาว
สำหรับจำนวนช้างป่าในพื้นที่รอยต่อ 5 จังหวัด มีประมาณเกือบ 500 ตัว พื้นที่แนวคูกันช้างเดิม ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ เคยสำรวจไว้แล้วมีประมาณเกือบ 500 กิโลเมตร ซึ่งต้องใช้งบประมาณอีกจำนวนมาก สำหรับปัญหาช้างป่าทำร้ายประชาชนในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ ขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายช้างตัวที่ดุร้ายในฝูง ซึ่งมีอยู่จำนวน 5 ตัว ออกมา และหาพื้นที่รองรับ เพื่อให้ชาวบ้านอุ่นใจปลอดภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี