ทร.ลุยค้นหาลูกเรือสุโขทัยวันที่7

พบเพิ่มอีก3ศพ

เร่งค้นหาผู้สูญหายอีก11นาย

นำร่างขึ้นฝั่งส่งพิสูจน์อัตลักษณ์

เครื่องแบบยืนยันกำลังพลกองทัพ

ตั้งศูนย์ฯวางแผนขจัดคราบน้ำมัน

ตำรวจส่งนิติเวชช่วยตรวจพิสูจน์

รมช.กลาโหมรับฟังสรุปปฏิบัติการค้นหาลูกเรือหลวงสุโขทัย ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 เน้นค้นหาชายฝั่งแบบเข้มข้น โดยวันนี้เกิดอุปสรรคจากคลื่นลมแรง-เรือหลักเครื่องจักรชำรุดต้องกลับเข้าฝั่งซ่อมบำรุง ส่วนความคืบหน้าพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 นายนำขึ้นฝั่งส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ ผลตรวจศพรายที่ 7 ที่พบก่อนหน้านี้ยืนยันแล้วเป็นกำลังพลที่สูญหาย นอกจากนี้ ยังตั้งศูนย์ขจัดคราบน้ำมันจากเรือสุโขทัยอับปางที่จะดำเนินการต่อไปด้วย

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมรับฟังบรรยายสรุปผลการปฏิบัติและการดำเนินการค้นหากำลังพลที่ยังคงสูญหาย จากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เพื่อติดตามสถานการณ์ ที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม โดยเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมฝากข้อห่วงใยมายังครอบครัวกำลังพลทั้ง 15นาย ที่ยังสูญหาย ขอให้กำลังใจทุกครอบครัว และยืนยันจะดูแลให้ดี พร้อมขอบคุณกำลังพล เจ้าหน้าที่ รวมถึงหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติหน้าที่ ขอให้ทุ่มเทระมัดระวังในการปฏิบัติงาน โดยขอให้คำนึงถึงความปลอดภัย พร้อมทั้งเน้นย้ำการช่วยเหลือเยียวยากำลังพลและครอบครัว ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในส่วนการจัดพิธีพระราชทานเพลิงศพให้ผู้เสียชีวิตจะประกอบพิธีอย่างสมเกียรติ เพราะทุกนายนับเป็นผู้เสียสละ ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่

เดินหน้าค้นหาลูกเรือที่สูญหาย

ด้านพล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยถึงแผนปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่สูญหาย ซึ่งช่วงค่ำวันที่ 24 ธันวาคมได้เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2นาย มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลกองทัพเรือ ทำให้ล่าสุดคงเหลือยอดผู้สูญหาย 15นาย ซึ่งวันนี้กำลังทางเรือและอากาศยานยังคงค้นหาและช่วยเหลือ ในพื้นที่ที่รับมอบหมายต่อเนื่อง ทั้งบนผิวน้ำและใต้น้ำ แบ่งพื้นที่รับผิดชอบเป็น 20 พื้นที่ ขณะที่พื้นที่ตามแนวชายฝั่งก็ยังจัดชุดลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณที่คาดว่าจะมีการพบผู้สูญหาย

ตั้งศูนย์ฯขจัดคราบน้ำมัน

สำหรับการตรวจพบคราบน้ำมันลอยขึ้น บริเวณจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมนั้น กองทัพเรือตั้ง ศูนย์อำนวยการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องมาจากน้ำมัน กองทัพเรือ (ศอ.ปน.ทร.) ขึ้นมาติดตามคราบน้ำมันในทะเล กรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปาง เพื่อเตรียมขจัดคราบน้ำมันต่อไป

วันที่7เน้นปูพรมชายฝั่งเข้มข้น

ความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเล พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.) แถลงปฎิบัติการช่วยเหลือกำลังพลที่ยังสูญหาย เข้าสู่วันที่ 7 ว่า การปฏิบัติภารกิจยังคงมี เรือหลวงตากสิน ค้นหาพื้นที่ 2,4 เรือหลวงนเรศวร ค้นหาพื้นที่ 5,6 เรือหลวงนราธิวาส ค้นหาพื้นที่ 2 เรือหลวงกระบุรี ค้นหาพื้นที่ 3,4 ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ อ.ประทิว จ.ชุมพร และพื้นที่ใกล้ฝั่งมี เรือ ต.114 ค้นหาทั้งพื้นที่ 9A,12 ครอบคลุมพื้นที่ จ.ชุมพร ส่วนเรือ ต.270 ค้นหาพื้นที่ 16,17 พื้นที่จ.ชุมพร และจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมสำรวจค้นหาจากอากาศยานจากทุกหน่วยงาน ตลอดจนสำรวจแนวชายฝั่งและคนเดินเท้า ปูพรมค้นหาอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง เป็นไปตามการคำนวณของกระแสคลื่นลมตามโปรแกรมของกรมอุทกศาสตร์กองทัพเรือ และจากการพบอุปกรณ์ของเรือและร่างผู้เสียชีวิต

คลื่นแรง-เรือช่วยเหลือเครื่องขัดข้อง

ส่วนหมู่เรือช่วยเหลือ หมู่เรือที่ 2 คือ การสำรวจใต้น้ำ วันนี้ สภาพคลื่นลมแรงมาก เรือหลวงบางระจันเชือกขาดได้ขอยางกันกระแทกมาเสริม เช่นเดียวกับเรือหลวงราวี ไม่สามารถลงไปทำงานได้ และอุปสรรคเพิ่มเติมนอกจากคลื่นลมแรงคือ เรือที่มาทั้งหมดค่อนข้างตรากตรำ แต่ก็สู้ตลอด วันนี้เรือหลวงนราธิวาสก็มีปัญหาเรื่องเครื่องจักรจะกลับเข้ามาซ่อมบำรุงก่อนออกไปปฏิบัติภารกิจต่อ อย่างไรก็ตาม คงใช้เรือหลวง 4 ลำหลักเช่นเดิม แต่ทั้งนี้ได้เตรียมเรือหลวงปัตตานีไว้ด้วยเช่นกัน หากปรับแผนก็พร้อมออกสนับสนุนภารกิจเพราะอยู่ในขั้นเตรียมการ

ยืนยันตัวบุคคลรายที่7“พลทหารวรพงษ์”

พล.ร.ท.พิชัยกล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้ ได้ค้นหาพบผู้สูญหายจากเรือหลวงสุโขทัยเพิ่มช่วงกลางคืนวันที่ 24 ธันวาคมอีก 2 ราย โดยทั้งสองรายเป็นกำลังพลของกองทัพเรือ ยืนยันได้จากเครื่องแบบที่สวมใส่ เป็นเครื่องแบบของทหารเรือ หลังจากนี้ทั้ง 2 ราย จะนำส่งมายังมูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลต่อไป ขณะเดียวกัน ผลการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของร่างผู้เสียชีวิตที่พบเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม โดยเรือหลวงบางระจันพบขณะไปสำรวจใต้น้ำบริเวณเรือหลวงสุโขทัยจม และห่างจากเรือหลวงสุโขทัยประมาณ 300-400เมตร เป็นร่างของ พลทหารวรพงษ์ บุญละคร กำลังพลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง(สอ.รฝ.) โดยตามขั้นตอนหลังจากนี้ จะนำร่างกลับไปที่สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อทำพิธีสดุดีเชิดชูเกียรติ

รอตรวจอัตลักษณ์อีก8ราย

“ทำให้ขณะนี้เหลือร่างที่รอพิสูจน์ที่นิติเวชอีก 6 ราย และอีก 2 รายนำขึ้นมาส่งพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลช่วงบ่ายวันอาทิตย์ หากนำขึ้นมาแล้ว วันนี้จะมีร่างผู้เสียชีวิตที่รอพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล 8 ราย โดย มี 7 รายที่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลของกองทัพเรือ และอีก 1 รายไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นกำลังพลของ กองทัพเรือ หมายความว่า หากอ้างอิงจากหลักฐานบ่งชี้ที่เป็นกำลังพลของกองทัพเรือ ทำให้การค้นหากำลังพลผู้สูญหาย เหลืออีก 15นาย

ส่งทีมนิติเวชรพ.ตร.ช่วยตรวจพิสูจน์

สำหรับการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งทีมเจ้าหน้าที่ทีมนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจลงพื้นที่อ.บางสะพานวันจันทร์นี้ (26 ธันวาคม) เพื่อตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์ร่างที่ตรวจพบเพิ่มเติมเพื่อความรวดเร็วแบบวันสต๊อปเซอร์วิส ซึ่งจะเป็นทีมนิติเวชชุดแรกที่เคยลงพื้นที่มาก่อนหน้านี้