วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
สภาทนายยื่นมือช่วยเหลือชาวประมง ยื่นฟ้อง บ.เอกชนทำน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล

สภาทนายยื่นมือช่วยเหลือชาวประมง ยื่นฟ้อง บ.เอกชนทำน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล

วันพฤหัสบดี ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2566, 13.49 น.
Tag : สภาทนาย ทนายปลอม ดร.วิเชียร ชุบไธสง
  •  

สภาทนายความฯยื่นมือช่วยเหลือผู้ประกอบอาชีพประมงยื่นฟ้อง  บ.เอกชนทำน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง กระทบระบบนิเวศและรายได้ เตรียมส่งทีมทนาย ลงพื้นที่ตรวจสอบ นายกสภาทนายฯ จ่อใช้ 5 มาตรการดูแล

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 ม.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ถ.พหลโยธิน กลุ่มตัวแทนผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องการประมง จ.ระยอง ประมาณ 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือทางกฎหมายกับสภาทนายความ กรณีเกิดเหตุน้ำมันดิบใต้ทะเล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเลของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง รั่วไหลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่องกับห่วงโซ่อุปทานการประมงในอ่าวจ.ระยอง ได้รับผลกระทบเกี่ยวกับระบบนิเวศและรายได้จากการประกอบอาชีพ โดยมี ดร.วิเชียร ซุปไธสง นายกสภาทนายความฯ นายสมพร ดำพริก อุปนายกฝ่ายช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย  นายสัญญาภัชระ สามารถ อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ  และว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน ประธานอนุกรรมการ สิ่งแวดล้อมฝ่ายคดีและปฏิบัติการ สภาทนายความ เป็นผู้รับเรื่อง


ว่าที่ร้อยตรีสมชาย  ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เรือบรรทุกน้ำมันบริษัทแห่งหนึ่งทำน้ำมันดิบ รั่วไหลลงอ่าวทะเล จ.ระยองเป็นวงกว้างระหว่างขนถ่ายน้ำน้ำมันกลางทะเล มากกว่า 4 แสนลิตร เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2565 ทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านและอาชีพต่อเนื่อง ได้รับผลกระทบมีน้ำมันดิบกระจายเป็นวงกว้าง ถูกพัดเข้าชายฝั่ง

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ระบุว่า น้ำมันดิบแพร่ในทะเลกว้างกว่า 9 เท่า ของเกาะเสม็ด ทำให้ชาวบ้าน ชาวประมงได้ผลกระทบ ต่อทรัพยากรสัตว์น้ำบริเวณชายฝั่งที่ชาวประมงพื้นบ้านใช้เป็นที่ทำมาหากิน ผลของน้ำมันดิบรั่วไหลและการใช้ สารเคมีกำจัดคราบน้ำมันในพื้นที่ ทะเลตื้นทำให้สัตว์น้ำหลายประเภทหายไปจากบริเวณทะเลอ่าวระยอง ซึ่งปัจจุบันเรือประมง หลายประเภทต้องจอดนิ่ง เนื่องจากไม่มีสัตว์น้ำให้จับส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก อีก ทั้งยังส่งผลกระทบเชิงลบต่อเนื่องไปถึงห่วงโซ่อาหาร นอกจากนี้การประมงพื้นบ้านและเรือขนาดกลางที่หากิน ได้จากจุดที่น้ำมันดิบรั่วไหล ยังสร้างความหวาดระแวงต่อประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่จะตัดสินใจซื้ออาหารทะเล ทั้งที่เป็นวัตถุดิบและปรุงสำเร็จในจ.ระยอง

โดยกลุ่มชาวประมงจ.ระยองและเครือข่าย  ที่ได้รับผลกระทบจากการรั่วไหลของน้ำมันดิบในครั้งนี้  ต้องการที่จะยื่นฟ้องคดีต่อศาลยุติธรรมเพื่อเจรจาหาข้อยุติร่วมกันระหว่างบริษัทก่อมลพิษ กับประชาชนที่ได้รับ ผลกระทบเพื่อให้ได้รับค่าเยียวยาที่เป็นธรรม เป็นการเรียกค่าชดเชยตามความเป็นจริงจากการสูญรายได้ที่ควรจะได้ โดยจากการได้รับความเสียหายในครั้งนี้กับทางบริษัทผู้ก่อเหตุยังมีการเยียวยาชดเชยให้ในจำนวนน้อย และระบุจะชดเชยจำกัดแค่เรือประมงที่ละเบียนไว้เท่านั้น จึงไม่เป็นเป็นธรรมกับผู้ทำประมงพื้นบ้าน ผู้ได้รับผลกระทบอื่น เกรงว่าจะมีการดึงเรื่องการชดเชยเยียวยาจนหมดอายุความในการเรียกร้องค่าเสียหาย

อย่างไรก็ตามมีประเด็นที่น่าสนใจซึ่งเป็นข้อเสนอของชาวบ้านในพื้นที่ว่า เมื่อการขนส่งขนถ่ายน้ำมันดิบทางทะเลเกิดการรั่วไหลบ่อยครั้ง เหตุใดทางนิคมอุตสาหกรรม หรือ กรมเจ้าท่า ไม่หารือวิธีเปลี่ยนวิธีการขนส่งน้ำมันเป็นทางบกแทน

ด้านดร.วิเชียร นายกสภาทนายความฯ กล่าวว่า กรณีนี้ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มประมงพื้นบ้าน จำนวนเรือกว่า 150 ลำ ,กลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ที่ขาดทุนจากการค้าขายสัตว์น้ำที่ซื้อต่อจากเรือประมงและขายไม่ได้ จำนวน กว่า 50 คน และกลุ่มลูกจ้างเรือประมง จํานวนกว่า 50 คน  จากนี้สภาทนายความฯ จะตั้งทีมทนายความลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบ รวมไปถึงผลกระทบด้านสุขภาพอีกด้วยว่า การรั่วน้ำมันดิบส่งผลระยะสั้น ระยะยาวต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่อย่างไรหรือไม่

โดยเบื้องต้นสภาทนายความฯได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมายไว้ ดังนี้

1. ใช้สิทธิในการเรียกร้องให้บริษัทที่เกี่ยวข้อง ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นได้ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 96 และ 97 

2. ดำเนินการให้ประชาชนผู้เสียหายตั้งตัวแทนสมาชิกกลุ่มเป็นโจทก์ยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เนื่องจากจะไม่เป็นการซ้ำซ้อนในการยื่นฟ้องคดีและเป็นการ ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการดำเนินคดีที่ศาล

3. ดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทในทางคดี (การไกล่เกลี่ยในคดีสิ่งแวดล้อม) ตามพ.ร.บ.ไกล่เกลี่ย พ.ศ. 2562

4. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ความรับผิดเพื่อละเมิด (มาตรา 420) ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขา เสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดีท่านว่าผู้นั้นทำละเมิด จำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น ค่าสินไหมทดแทนเพื่อละเมิด (มาตรา 438) ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้น ให้ศาลวินิจฉัย ตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด

อนึ่ง! ค่าสินไหมทดแทนนั้น ได้แก่การคืนทรัพย์สินผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิด หรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้น รวมทั้งค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอย่างใดๆ อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย

5. แนวทางในการให้ความช่วยเหลืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 มาตรา 96 ระบุว่า แหล่งกำเนิดมลพิษใดก่อให้เกิดหรือเป็นแหล่งกำเนิดของการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของมลพิษอัน เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพอนามัย หรือเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นหรือของรัฐเสียหาย ด้วยประการใดๆ เจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษนั้น มีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือ ค่าเสียหายเพื่อการนั้น ไม่ว่าการรั่วไหลหรือแพร่กระจายของมลพิษนั้น จะเกิดจากการกระทําโดยจงใจหรือประมาท เงินเล่อของเจ้าของหรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษหรือไม่ก็ตาม เว้นแต่ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่ามลพิษเช่นนั้นเกิดจาก (1) เหตุสุดวิสัยหรือการสงคราม (2) การกระทำตามคำสั่งของรัฐบาลหรือเจ้าพนักงานของรัฐ (3) การกระทำหรือเว้นการกระทำของผู้ที่ได้รับอันตรายหรือความเสียหายเองหรือบุคคลอื่น ซึ่งมีหน้าที่ รับผิดชอบโดยตรงหรือทางอ้อม ในการรั่วไหลหรือการแพร่กระจายของมลพิษนั้น ค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่หรือผู้ครอบครองแหล่งกำเนิดมลพิษมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตาม วรรคหนึ่ง หมายความรวมถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ทางราชการต้องรับภาระจ่ายจริงในการขจัดมลพิษที่เกิดขึ้นนั้นด้วย โดยคดีมีอายุความ 10 ปี

ตามมาตรา 97 ผู้ใดกระทำหรือละเว้นการกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยกฎหมายอันเป็นการทำลายหรือทำให้ สูญหายหรือเสียหายแก่ทรัพยากรธรรมชาติซึ่งเป็นของรัฐ หรือเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย สูญหาย หรือเสียหายไป

-001

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'สภาทนาย\'จับมือ\'มจร.\'ทำ\'เอ็มโอยู\'ส่งเสริมวิชาการทางพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่ 'สภาทนาย'จับมือ'มจร.'ทำ'เอ็มโอยู'ส่งเสริมวิชาการทางพุทธศาสนากับศาสตร์สมัยใหม่
  • ทนายเดชาโผล่เยี่ยม\'ตั้ม-เมีย\'ลุ้นประกันตัวบ่ายนี้ เผยติดคุก 3 เดือน ตอนนี้ผอมลง ทนายเดชาโผล่เยี่ยม'ตั้ม-เมีย'ลุ้นประกันตัวบ่ายนี้ เผยติดคุก 3 เดือน ตอนนี้ผอมลง
  • ด่วนที่สุด!! สภาทนายลงโทษคดีมรรยาท สั่งห้าม\'ทนายตั้ม\'เป็นทนาย 3 ปี ด่วนที่สุด!! สภาทนายลงโทษคดีมรรยาท สั่งห้าม'ทนายตั้ม'เป็นทนาย 3 ปี
  • ด่วน!! \'ทนายตั้ม-เมีย-พวก\'อ่วม อัยการสั่งฟ้องคดีฟอกเงิน-ฉ้อโกง\'เจ๊อ้อย\' สั่งชดใช้กว่า 100 ล. ด่วน!! 'ทนายตั้ม-เมีย-พวก'อ่วม อัยการสั่งฟ้องคดีฟอกเงิน-ฉ้อโกง'เจ๊อ้อย' สั่งชดใช้กว่า 100 ล.
  • ศาลยกฟ้องคดี\'ทนายตั้ม\'ฟ้องหมิ่น\'ออยศรี\'วิจารณ์แอบอ้างเป็น DSI ถ่ายคลิปครูปรีชา ศาลยกฟ้องคดี'ทนายตั้ม'ฟ้องหมิ่น'ออยศรี'วิจารณ์แอบอ้างเป็น DSI ถ่ายคลิปครูปรีชา
  • เปิดคำสั่งลงโทษ\'ทนาย\'ปี67 โดนกันกว่า 100 คดี ตั้งแต่\'ว่ากล่าวตักเตือน\'ยันลบชื่อออก เปิดคำสั่งลงโทษ'ทนาย'ปี67 โดนกันกว่า 100 คดี ตั้งแต่'ว่ากล่าวตักเตือน'ยันลบชื่อออก
  •  

Breaking News

'ทีเค'แจงยิบ! หลังโดนทัวร์ลงทำ'บีเบล'ท้องแล้วไม่รับผิดชอบ

‘เด็กซิ่ง..เสี่ยงตาย’ต่ำกว่า15ปีกับอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ วิกฤติความปลอดภัยถนนเมืองไทย

เดือดพลั่กกลางสภาฯ! ‘กฤษฎิ์’เปิดใจแยกทาง‘ปชน.’ เจอ‘ด้อมส้ม’บุกสาปแช่ง-ปะทะคารมหนัก

'วราวุธ'เผย'พม.'หนุนจ้างงานคนพิการเพิ่ม เอื้อสิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษี 2-3 เท่า

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved