‘ชูวิทย์’แฉคดีผับจินหลิง

พบตัดต่อ-ทำลายหลักฐาน

ยันไม่มีตำรวจให้ข้อมูล

จเรตร.ย้ำสรุปทัน 15 วัน

“จเรตำรวจ”เชิญ“ชูวิทย์”ให้ข้อมูลเกี่ยวกับคลิปวีดีโอคดีผับจินหลิง คิวต่อไป“ผบช.น.”และผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงอีกครั้ง ยันเร่งดำเนินการให้เสร็จตามกรอบเวลา15วัน ย้ำจะตรวจสอบรอบด้าน เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ด้าน‘ชูวิทย์’ให้ข้อมูล‘จเรตำรวจ’รอบ2คดีจินหลิง ชี้ไร้ประโยชน์แค่การแสดงละคร ระบุมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดต่อทำลายพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด ยันไม่มีนายตำรวจคอยให้ข้อมูล โฆษก ตร.เผยผบ.ตร.สั่งสอบปมรถทัวร์ตู้ห่าว500 คันแล้ว ย้ำจะทำคดีให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจับกุม ผับจินหลิง ย่านยานนาวาเปิดเผย วันนี้คณะกรรมการได้เชิญนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคลิปวิดีโอ ที่ปรากฏต่อสาธารณะ ทั้งหมดในขณะนี้หรือข้อสงสัยส่วนอื่นๆที่นายชูวิทย์ยังติดใจสงสัย ตั้งข้อสังเกต มีเพิ่มเติมอีกหรือไม่ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นในส่วนนายชูวิทย์แล้ว จะเชิญผู้บัญชาการตำรวจนครบาลและตำรวจผู้เกี่ยวข้อง มาชี้แจงและให้ข้อมูลกับคณะกรรมการอีกครั้ง จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนด15วันและยืนยันคณะกรรมการจะตรวจสอบข้อมูลให้รอบด้าน ครบถ้วน และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้ มี พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ(จตช.)ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ท.โพธ สวยสุวรรณ จเรตำรวจ (สบ8),พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จเรตำรวจ (สบ8), พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ชนวีร์ ชมาฤกษ์ รองจเรตำรวจ (สบ7) พล.ต.ต.โอภาส คงเมือง ผบก.กต 6 จต., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พล.ต.ต.เจนกมล คำนวล ผบก.จต.8 จต. และคณะกรรมการรวม 15 นาย ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 2/2566 ลงวันที่ 3 ม.ค.66 ที่พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ลงนามแต่งตั้ง ให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวในทุกประเด็นเพื่อให้เกิดความกระจ่างแก่สังคม โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ ภายใน 15 วัน

ขณะที่ความคืบหน้าการสอบสวนขณะนี้ 1.คดีนี้สอบพยานไปแล้ว 400 ปาก 2.ยื่นคำร้องขอศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับรวม 37 คน มีทั้งข้อหา ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2และ4 ,สมคบกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ และข้อหาฟอกเงิน จับกุมแล้ว 19 คน เหลืออีก 18 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม ตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในคดีนี้ทั้งหมด 114 คน ในจำนวนนี้รวมคดีเสพด้วย และ คาดว่าจะสรุปสำนวนเสนออัยการสูงสุด พิจารณาฟ้องคดีต่อศาลได้ ภายในวันที่ 20 ม.ค.นี้

ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังการสืบสวนทางลับทราบเบาะแสมีรองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน(รอง ผกก.สส.)สังกัด บช.น.ก็อปปี้ข้อมูลในส่วนที่รับผิดชอบคดีไปเผยแพร่ภายนอกทำให้เสียรูปคดี เนื่องจากตรวจสอบเปรียบเทียบข้อมูลแล้วตรงกับแผ่นชาร์ตข้อมูลที่นายชูวิทย์นำไปแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนนั้น เรื่องนี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมการยังไม่แล้วเสร็จ

เวลา 14.00น.ที่สำนักงานจเรตำรวจ ถนนรามอินทรา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้เปิดโปงขบวนการทุนจีนสีเทา เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจเรตำรวจเป็นครั้งที่ 2 ดยมีพล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ พร้อมพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. และพนักงานสอบสวนกองปราบปรามร่วมเข้าบันทึกข้อมูลกรณีนายชูวิทย์แถลงข่าวเปิดโปงกลุ่มทุนจีนสีเทาและคดีสถานบันเทิงจินหลิงที่มีนายตู้ห่าว เป็นเจ้าของ

โดยนายชูวิทย์ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าพบจเรตำรวจแห่งชาติว่า ตั้งข้อสังเกตว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มีจเรตำรวจเป็นตำรวจด้วยกันคงไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้นเห็นว่าควรให้ตัวเองเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพราะมีความเป็นกลางมากกว่าซึ่งการมาให้ข้อมูลในวันนี้ส่วนตัวมองว่าไม่ได้ประโยชน์ และเป็นการแสดงละครเท่านั้น ยืนยันว่ามีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตัดต่อทำลายพยานหลักฐานกล้องวงจรปิด การทำงานสืบสวนสอบสวนคดีล่าช้าของ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลรวมไปถึงการแจ้งความดำเนินคดีฐานฟอกเงินกับนายตู้ห่าว ขอตั้งคำถามให้ผู้บังคับบัญชาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงว่า นายตำรวจยศ พ.ต.ท.และบุคคลที่ชื่อรองหมา เป็นลูกน้องของใคร และมีนายตำรวจคนใด ดูแลอยู่ตั้งแต่เป็นตำรวจชั้นผู้น้อย และไม่มีนายตำรวจคอยให้ข้อมูล แม้ว่าผบช.น.จะมีการสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนายตำรวจคนหนึ่ง

นายชูวิทย์ระบุว่าในช่วงเย็นวันนี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผมจะไปสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดการไปเปิดตัวร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า หลานของพล.อ.ประยุทธ์ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้อย่างไร เนื่องจากพบว่าหลานของ พล.อ.ประยุทธ์ มีรายชื่อเป็นกรรมการบริษัท ที่เกี่ยวกับการใช้เช่ายานยนต์ และยังตั้งคำถามเพื่อให้นายกฯตอบว่า เครือญาติของนายกรัฐมนตรีมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายธุรกิจของนายตู้ห่าวหรือไม่ ถ้าไม่รู้เรื่อง ก็ขอให้ตอบปฏิเสธมา

ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกตำรวจแห่งชาติ (ตร.)กล่าวถึงกรณีที่มีเพจดังออกมาแฉว่ารถทัวร์กว่า 500 คันของตู้ห่าว ไม่ใช่ของตู้ห่าวโดยตรงแต่เป็นของบุคคลอื่นนั้นว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยต้องดูรายละเอียดว่า การประกอบธุรกิจนำเที่ยว ได้มีการทำสัญญากับผู้ใดไว้บ้าง และจะต้องตรวจระยะเวลาการดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะทำให้เกิดความกระจ่างต่อสังคมอย่างแน่นอน

ส่วนกรณีพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งตั้งกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงและเอาผิด ตำรวจระดับรอง.ผกก.ที่นำคลิปวงจรปิดที่เกิดเหตุในผับจินหลิงและข้อมูลในสำนวนของคดีส่งให้กับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์นั้น โฆษกตร.กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของผบช.น.ที่พึงกระทำได้ หากส่งผลกระทบต่อคดีและองค์กร.