วันที่ 12 มกราคม 2566 เวลาประมาณ 06.30 น. ร.ต.อ.สมบัติ เพาะจะโป๊ะ พงส.สภ.ปัว จ.น่าน ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่านว่ามีเหตุ สามีภรรยาทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธมีดแทงกัน ที่บริเวณโรงรถภายในบ้านส้านเหล่า หมู่ 3 ต.สถาน อ.ปัว จ.น่าน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เจริญ สุริยงค์ ผกก.สภ.ปัว , พ.ต.ท.สัณห์ ล้านมา รอง ผกก.สส.สภ.ปัว , พ.ต.ท.สมชาย ปาละ สว.สส.สภ.ปัว พร้อม จนท.ตร.ชุดสืบสวน รุดไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้งพบ แต่กองเลือดที่บริเวณโรงรถภายในบ้าน หมู่ 3 ต. สถาน อ.ปัว จ.น่าน ญาติได้นำส่งเข้ารักษาตัว ที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชปัว คู่กรณี ก็รักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชปัว เช่นเดียวกัน
จากการตรวจสอบพบ น.ส.นภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี นั่งอยู่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน สภาพถูกทำร้ายที่บริเวณใบหน้ามีบาดแผลถูกเย็บประมาณ 8 เข็มคิ้วซ้ายและแก้มซ้าย อีก 3-4 เข็ม ส่วน นายอภิวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี สามีได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากถูกอาวุธปลายแหลมแทงเข้าที่บริเวณชายโครงด้านขวา ทะลุลิ้นปี่ อยู่ในการรักษาของแพทย์ สอบถาม น.ส.นภาพรฯ ยอมรับว่า ตนได้ทะเลาะ กับ นายอภิวุฒิ ซึ่งเป็นสามีของตน โดนตนเองถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า จึงหยิบมีดปลายแหลมที่ภายในห้องครัวแทงไปที่บริเวณหน้าอกด้านขวา ของนายอภิวุฒิ ฯ หลังก่อเหตุได้ทิ้งอาวุธมีดไว้ บริเวณโรงรถที่บ้าน และญาติได้นำตน และนายอภิวุฒิฯ ส่งรักษาตัวที่ โรงพยาบาลสมเด็จยุพราชปัว จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมี น.ส.นภาพรฯ เดินทางไป เพื่อชี้จุดทิ้งมีด เมื่อไปถึง พบอาวุธมีดปลายแหลม ยาว ประมาณ 28 เซนติเมตร ของกลาง ตกอยู่บริเวณโรงรถ สอบถาม น.ส.นภาพรฯ ยืนยันว่าเป็นอาวุธมีดที่ใช้ทำร้ายสามีตน จริงจึงยึดไว้เป็นของกลาง
ต่อมาได้รับแจ้งจาก โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว ว่า นายอภิวุฒิ ฯ ได้เสียชีวิตลงแล้ว จึงได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพไว้แล้ว เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ในข้อหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ต่อไป
ด้าน น.ส.นภาพร ผู้ก่อเหตุได้เล่าให้ฟังว่า ตนอายุ 26 ปี ได้แต่งงานอยู่กินกับ นายอภิวุฒิ จนมีลูกชายด้วยกันวัย 4 ขวบ ผู้ตายชอบเล่นการพนันออนไลน์ โดยเฉพาะบฟุตอล หากเล่นเสียมักจะอารมณ์เสียและมักมาลงที่ตนกับลูกตบตีเป็นประจำ เมื่อคืนก็แทงพนันบอลออนไลน์ แล้วเสียพนัน เช้ามาระหว่างที่ตนกำลัง เตรียมสินค้าเพื่อไปขายและ จะทำกับข้าวเช้าอยู่ สามีก็ได้เข้ามาหาเรื่องทะเลาะ และทำร้ายร่างกายตนด้วยหมัด จากตนมีแผลแตกบริเวณที่ปาก และหน้าผาก แล้วสามียังคว้ามีดพร้า แล้วเดินเข้าหาตน ตนจึงเดินอ้อมรถไปหยิบมีด จากนั้นมีปากเสียงท้าทายกัน สามีเดินเข้าหาตนจึงเหวี่ยงมีดไปหนึ่งครั้งไม่คิดว่าจะเข้าบริเวณลิ้นปี่ จนสามีล้มลงตนตกใจไม่คิดว่าจะโดน จากนั้นจึงรีบตะโกนให้คนช่วยและพากันมาโรงพยาบาล จนเวลาต่อมาจึงเสียชีวิต
ด้าน นายสะอาด พี่ชายของผู้ตาย ให้ข้อมูลว่า ตอนเช้าขณะตนนอนอยู่บนที่นอน หลานสาวได้โทรมาบอกตนว่า น้องชายกับน้องสะใภ้ทะเลาะกัน น้องสะใภ้ได้ใช้มีดแทง และไปโรงพยาบาล ตนจึงรีบตามไป เมื่อตามไปถึงพบว่าน้องชายตนอยู่ในห้อง ICU แต่พบน้องสะใภ้ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด มีแผลบริเวณหน้าผากและโหนกแก้มเลือดอายเต็มหน้าและเสื้อ
จากการสอบถามได้ความว่าทะเลาะกันถูกสามีต่อยจนแตก และจะใช้สากทุบจึงเหวี่ยงมีดไปโดนหน้าอก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนกับทางญาติจึงรับศพน้องชายกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่บ้าน ส่วนทางด้านคดีความนั้น ตนกับทางญาติๆ ไม่ได้ติดใจอะไร ยังนำที่นอนรวมทั้งข้าวปลาอาหารไปเยี่ยมน้องสะใภ้ที่โรงพัก และเข้าใจน้องสะใภ้ดีหากเป็นไปได้ไม่อยากดำเนินคดี แต่ยังไงฆ่าคนตายก็ต้องมีความผิด และเข้าใจว่าน้องสะใภ้คงเหลืออดแล้วจริงๆ
ด้านที่บ้านที่เกิดเหตุ ทางญาติได้จัดเตรียมสถานที่ที่จะสวดอภิธรรมศพ ตามความเชื่อ พร้อมทั้งช่วยกันดูแลลูกชายของผู้เสียชีวิตวัย 4 ขวบ ระหว่างรอผู้ก่อเหตุประกันตัว โดยแหล่งข่าวได้ให้ข้อมูลว่ามีคนมาประกันตัว 2 คน เนื่องจากทราบถึงพฤติกรรมของผู้ตายดี รวมทั้งเห็นใจที่ต้องดูแลลูกน้อย
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งสามีภรรยาได้ทะเลาะวิวาทกัน ฝ่ายสามีได้ทำร้ายภรรยาจนเป็นแผลแตก ฝ่ายภรรยาจึงใช้มีดแทงสามีและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่จึงไปสืบสวนสอบสวน ฝ่ายภรรยาได้รับสารภาพว่าก่อเหตุจึง เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจับกุม และดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี