วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
ลุงหื่นวัย 57 หวังขืนใจแต่ไม่สำเร็จ ทุบหัวฆ่าสาวเพื่อนบ้าน ซ้ำไปงานศพอย่างเลือดเย็น

ลุงหื่นวัย 57 หวังขืนใจแต่ไม่สำเร็จ ทุบหัวฆ่าสาวเพื่อนบ้าน ซ้ำไปงานศพอย่างเลือดเย็น

วันพฤหัสบดี ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2566, 18.48 น.
Tag : ทุบหัวฆ่า ฆ่าคนตาย ทุบหัวฆ่าสาว ฆ่าสาวเพื่อนบ้าน
  •  

วันที่ 12 มกราคม 2566 เวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม  พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.อักขราทรณ์ ดอนสถิตย์  รอง ผกก.สภ.นาทม รรท.ผกก.สภ.วังยาง พร้อมทีมตำรวจสืบสวน บช.ภ.4 ร่วมกับชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นครพนม และสืบสวนงานป้องกันปราบปราม สภ.วังยาง คุมตัว นายนิมิตร (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ชาวจ.นครพนม ผู้ต้องหาก่อเหตุคดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ผู้ตายคือ น.ส.นฤมล  (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาวจ.นครพนม หลังถูกฆาตกรรมนอนคว่ำเสียชีวิตห่างจากบ้านเลขที่ดังกล่าวประมาณ 50 เมตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.20 น. วันที่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

โดยสภาพศพถูกทุบด้วยของแข็ง บริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์เลือดไหลทั่วพื้น เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเช้าวันที่ 10 มกราคม 2566 ทางญาติจึงไปพบศพ และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังยาง มาตรวจสอบเก็บหลักฐาน นำไปสู่การขยายผล โดยจากข้อมูลการสืบสวนพบเบาะแสจากโทรศัพท์มือถือ เชื่อมโยงเป็นหลักฐานสำคัญเข้าตรวจสอบ จับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมาย


หลังการจับกุมผู้ต้องหา คือ นายนิมิตร ได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เนื่องจากจนมุมด้วยหลักฐาน เป็นโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาที่ติดต่อกับผู้ตาย เป็นคนสุดท้ายก่อนก่อเหตุ พร้อมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุจริง เนื่องจากแอบชอบผู้ตายมานาน อีกทั้งสามีผู้ตายไปทำงานต่างจังหวัด จึงฉวยโอกาสจากการสนิทสนมเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน ล่อลวงชักชวนให้ออกมาจากบ้าน ก่อนที่จะพยายามกระทำอนาจาร โดยใช้เงินล่อลวงอ้างจะดูแล แต่ทางตำรวจไม่ปักใจเชื่อ

 เนื่องจากผู้ตายไม่มีปัญหาการเงิน และมีหน้าตาดี ไม่เชื่อว่าจะเป็นแรงจูงใจในการนำสู่ปมคบหากับผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ต้องหาอาจจะใช้วิธีอื่นในการล่อลวงให้ออกมาจากบ้าน และพยายามก่อเหตุทำอนาจาร ก่อนที่ผู้ตายข่มขู่จะเอาผิด จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบทำร้ายร่างกาย ใช้ท่อนไม้ทุบตีจนเสียชีวิต

นอกจากนี้จากการสอบถามผู้ต้องหาและญาติผู้ตาย ทราบว่าหลังเกิดเหตุผู้ต้องหายังมาไหว้ศพ และช่วยเตรียมสถานที่จัดงานแบบเลือดเย็นหวังกลบเกลื่อนความผิด แต่สุดท้ายหนีไม่รอดจากหลักฐานการใช้โทรศัพท์มือถือ อย่างไรก็ตามตำรวจยืนยันมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดทางกฎหมาย และจับกุมไม่ผิดตัว

สำหรับการทำแผนประกอบการรับสารภาพครั้งนี้  ได้คุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ และท่อนไม้ไผ่ความยาวประมาณ 60 เซนติเมตร ไปชี้จุดเกิดเหตุทั้ง 3 จุด  คือ 1.จุดที่ปั่นรถจักรยานมาจากบ้านพักประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อมาพบผู้ตายในที่เกิดเหตุ ก่อนจะมีการจอดจักรยานไว้ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร และเดินไปหาผู้ตาย และมีการพูดคุยกันโดยผู้ต้องหาพยายามกระทำอนาจาร ด้วยการเข้ากอดนางสาวนฤมล แต่ผู้ตายไม่ยินยอมและถูกข่มขู่ว่าจะเอาผิด จึงทำร้ายร่างกายด้วยการตีเข่าที่หน้าท้องหนึ่งครั้ง ก่อนคว้าไม้ไผ่ที่อยู่บริเวณนั้นตีท้ายทอยจนผู้ตายทรุดลงกับพื้น และนำท่อนไม้ทุบตีศีรษะจนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะนำท่อนไม้ไปทิ้งในทุ่งนาใกล้กับจุดจอดรถจักรยาน  และปั่นจักรยานนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปโยนทิ้งลงสระน้ำ โดยสระดังกล่าวห่างจากบ้านพักของผู้ต้องหาประมาณ 50 เมตร แล้วกลับมานอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยแกะรอยจากโทรศัพท์มือถือ ที่ผู้ต้องหาโทรไปลวงผู้ตายออกมาพบ ภายหลังตำรวจเค้นสอบจึงจำนนด้วยหลักฐานรับสารภาพในเวลาต่อมา และนำไปตรวจงมหาของกลางคือโทรศัพท์มือถือของผู้ตายมาตรวจสอบ ก่อนรวบรวมหลักฐานมัดตัวผู้ต้องหา นำสู่การดำเนินคดีจับกุม แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 

ส่วนการทำแผนประกอบคำรับสารภาพไม่มีเหตุวุ่นวาย โดยมีตำรวจคุ้มกันดูแลรักษาความเรียบร้อยกว่า 50 นาย ซึ่งมีชาวบ้าน ญาติพี่น้องผู้ตาย กว่า 100 คนมายืนมุงดู และพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความหดหู่ใจ ไม่คาดคิดว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นคนร้าย เพราะไม่เคยมีพฤติกรรมก้าวร้าวมาก่อน 

 ด้าน พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับคดีดังกล่าว หลังเกิดเหตุได้ระดมทีมสืบสวนนครพนม ทั้งตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ตรวจสอบข้อมูลสรุปพยาน รวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ จนขยายผลพบเบาะแสสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนในการติดต่อกันทางโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะนำหลักฐานผู้ตายไปทิ้งลงสระน้ำ  และมีการตรวจสอบเก็บหลักฐานมาตรวจสอบ เชื่อมโยงจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ 

ส่วนปมการก่อเหตุมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนหน้าตาดี เป็นคนหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ต้องหา ทำให้รู้จักมักคุ้นกัน และเชื่อว่าผู้ต้องหาใช้ความสนิทสนมล่อลวงมาก่อเหตุ เพื่อทำอนาจาร แต่ผู้ตายไม่ยอมและขู่เอาผิด จึงลงมือก่อเหตุขึ้น โดยผู้ต้องหารับสารภาพทั้งหมดว่าก่อเหตุจริง และมีการตรวจสอบพบพยานหลักฐานเพียงพอ มั่นใจสามารถดำเนินคดีเอาผิดคนร้ายได้อย่างแน่นอน

ส่วน นายพูลสวัสดิ์ แดงท่าขาม อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเป็นเพื่อนบ้านรู้จักผู้ตายมาแต่เกิด ยอมรับว่าปกติเป็นคนดี ไม่มีนิสัยก้าวร้าว  ไม่ดื่มเหล้าหรือเสพยา เป็นคนทำมาหากิน แต่ไม่ทราบสาเหตุว่ามีอะไรจูงใจให้ก่อเหตุ โดยไม่มีข้อมูลมาก่อนว่าทั้งสองคน มีความสัมพันธ์กันเชิงชู้สาว เพราะผู้ต้องหามีภรรยาอยู่ด้วย แต่ยอมรับว่าคุ้นเคยกันในฐานะเพื่อนบ้านเดียวกัน หลังเกิดเหตุยังไม่คาดคิดว่า นายนิมิตร ผู้ต้องหาจะก่อเหตุ จนกระทั่งตำรวจนำหลักฐานมายืนยันชัดเจนว่าเป็นคนลงมือ จึงยอมรับในการกระทำของเพื่อนบ้าน และขอให้รับผิดกับการกระทำที่ก่อไว้

จากการสอบถาม ภรรยาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนยอมรับรู้สึกตกใจและเสียใจมาก ภายหลังทราบข่าวว่าสามีถูกจับกุม เพราะไม่คาดคิดว่าสามีจะเป็นคนก่อเหตุ  เนื่องจากไม่เคยมีพฤติกรรมชู้สาวมาก่อน และไม่มีปัญหาครอบครัว ถึงแม้ตนจะเป็นภรรยาคนที่ 2 เพราะภรรยาคนแรกเสียชีวิตเมื่อ 5 -6 ปีที่ผ่านมา จากนั้นตนจึงมารู้จักอยู่กินเป็นสามีภรรยากันมาประมาณ 3 ปี ถึงแม้ไม่มีบุตรด้วยกัน แต่ไม่เคยมีปัญหาครอบครัวและชู้สาว ปกติสามีเป็นคนขยันทำไร่ทำนา รับจ้างทั่วไป มาถึงวันนี้ยังไม่เชื่อว่ามีจะก่อเหตุร้ายขึ้น จนพูดไม่ออกได้แต่ร่ำไห้ สุดท้ายในเมื่อตำรวจมีหลักฐานชัดเจนต้องให้สามีได้รับกรรมเอง 

ด้าน  ป้าผู้ตายกล่าวว่า ผู้ตายมีนิสัยร่าเริงเข้ากับคนง่าย ทีแรกไม่อยากจะเชื่อว่านายนิมิตรคือฆาตกร กระทั่งตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ จนนายนิมิตรรับสารภาพคือผู้ก่อเหตุ หลังเกิดเหตุแค่1วัน นายนิมิตรยังไปช่วยกางเต็นท์ ซื้อกาแฟและนำข้าวสาร 1 กระสอบไปช่วยงานศพเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอให้ผู้ก่อเหตุถูกลงโทษตามกรรมที่ก่อไว้

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • จับช่างตัดผมหนีคดีฆ่าคนตายนับ10ปี จับช่างตัดผมหนีคดีฆ่าคนตายนับ10ปี
  • จ้างลูกน้องมาทำงาน ‘เนรคุณ-จ้วงนายจ้างดับสลด’ ประกาศไปทั่ว-ฆ่าคนตายมา จ้างลูกน้องมาทำงาน ‘เนรคุณ-จ้วงนายจ้างดับสลด’ ประกาศไปทั่ว-ฆ่าคนตายมา
  •  

Breaking News

อย่าตกใจ! วันนี้ทดสอบใหญ่ ระบบเตือนภัย Cell Broadcast ใน 5 จังหวัด

จับตา‘แดง-น้ำเงิน’! เปิดเกมต่อรองการเมือง ระวัง‘ข่าวจริง’ที่มาก่อนเวลา

เปิดเกมรุมกินโต๊ะ! ปูดเบื้องลึก‘สส.กฤษฎิ์’ทิ้ง‘ปชน.’ แฉ‘ส้มตะวันออก’ระส่ำ

แนวหน้าวิเคราะห์ : ‘หมูเถื่อน’...ปัญหาที่ยังต้องแก้ต่อเนื่อง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved