ช่วงก่อนหน้านี้ ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ บก.ปคม.ร่วมกับกรมปศุสัตว์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวาดล้างจับกุมหมูเถื่อน ถือเป็นการดำเนินการที่สำคัญในการป้องกันปัญหาสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้บริโภค
รวมทั้งการรักษาเสถียรภาพของอุตสาหกรรมการผลิตสุกรในประเทศ
สำหรับผลการจับกุม มีการตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย 16 แห่งในพื้นที่ภาคกลาง และภาคเหนือ ทั้งที่ จ.นครปฐม จ.ปทุมธานี และพระนครศรีอยุธยา
ยกตัวอย่างเช่นที่ ตลาดไท จ.ปทุมธานี พบห้องเย็นที่มีความจุถึง 40 ตัน ใช้เก็บซากสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาจาก จ.นครปฐม และสมุทรปราการ ก่อนกระจายส่งขายทั่วประเทศ โดยเจ้าหน้าที่พบซากสุกร ทั้งสิ้น 9,350 กิโลกรัม แต่ไม่สามารถแสดงแหล่งที่มา ไม่ผ่านการตรวจสอบซึ่งเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสกุร (ASF) ได้ถึงกว่า 5,000 กิโลกรัม หรือ 5 ตัน
นอกจากนี้ยังพบว่าซากสุกรจำนวนนี้เน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น จึงยึดไว้เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 มาตรา 22 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กรณีดังกล่าวยังมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสุกรในประเทศ เนื่องจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ไม่เพียงแต่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ยังส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ ที่ต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่ไม่เป็นธรรม
การนำเข้าหมูเถื่อนที่ไม่ได้รับการตรวจสอบนั้น อาจจะทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าอันไม่ถูกสุขลักษณะ และเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ที่อาจปนเปื้อนมากับหมู
ที่ผ่านมา มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของภาครัฐ ในการติดตามจับกุม มีการตรวจสอบเอกสารนำเข้าและพบการปลอมแปลงเอกสารจำนวนมาก
การดำเนินการดังกล่าวเป็นการยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องผู้บริโภคและอุตสาหกรรมสุกรภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ภาครัฐยังคงต้องเสริมสร้างความเข้มงวดในการตรวจสอบเอกสารนำเข้า ควรมีการตรวจสอบเอกสารนำเข้าอย่างละเอียดและเข้มงวด เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มการสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้บริโภค ควรรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนักถึงความเสี่ยงจากการบริโภคเนื้อสุกรที่ไม่ทราบแหล่งที่มา และส่งเสริมการเลือกซื้อสินค้าที่มีการรับรองคุณภาพ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร
รวมถึงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ควรมีมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดผลกระทบจากการนำเข้าหมูเถื่อน
แม้ว่าหน่วยงานต่างๆ จะดูขึงขังในการดำเนินมาตรการ เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล แต่ยังต้องพิสูจน์ด้วยการปฏิบัติ เพื่อเป็นการแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปกป้องผู้บริโภคและอุตสาหกรรมสุกรภายในประเทศ
บ้านเรายังคงมีความจำเป็นในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการต่างๆ เพื่อให้การควบคุมและป้องกันปัญหาหมูเถื่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี