ชาวนาบ้านท่าควาย-น่าน ลงแขกเก็บ‘ข้าวโพดหวาน’ สร้างรายได้ครอบครัว
19 มกราคม 2566 ที่แปลงนาของนายประดิษฐ์ และนางเพลินพิศ จิตอารีย์ ชาวนาบ้านท่าควาย หมู่ 3 ต.ไชยวัฒนา อ.ปัว จ.น่าน มีชาวนาเกือบ 100 คน ร่วมลงแขกเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดหวาน หลังได้ทำการเพาะปลูกจนครบกำหนดเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยเกษตรกรชาวนาได้รวมกลุ่มกันหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อย ตามที่หน่วยงานภาครัฐขอความร่วมมืองดทำนาปรัง จึงได้หันมาปลูกข้าวโพดหวาน ซึ่งเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และเป็นพืชที่มีความต้องการของตลาด โดยใช้เวลาในการปลูกไม่ถึง 60 วันสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว
“ข้าวโพดหวาน” เป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรรวมกลุ่มกันปลูก มีบริษัทมารับซื้อถึงสวน และเป็นพืชที่นิยมกันปลูก เพราะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และเป็นที่ต้องการของตลาด ประชาชน นิยมบริโภค เมื่อได้ผลผลิตแล้วก็ไม่ต้องนำไปขายที่ตลาด มีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง สามารถนำออกมาขายเองที่สวน
“วิธี” การปลูกก็ไม่ยุ่งยากให้เลือกดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย ที่ระบายน้ำได้ดี การเตรียมดินโดยการไถดะ และตากดิน 3-5 วัน แล้วจึงไถแปรให้ดินละเอียดอีกครั้ง ก่อนไถแปรควรหว่านปุ๋ยคอก เช่น ปุ๋ยขี้ไก่ เพื่อให้ดินร่วนซุย และเพิ่มธาตุอาหารให้กับข้าวโพด การปลูกให้ขุดหลุมปลูก โดยให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 25 เซนติเมตร หรือที่ระยะ 50+50 เซนติเมตร หยอดเมล็ดพันธุ์หลุมละ 1-2 เมล็ด พร้อมกลบดิน ใน 1 ไร่สามารถปลูกได้ 7,000 ต้น ราคาขายตกกิโลกรัมละ 7-8 บาท ลงทุนไร่ละ 5,000 บาท สามารถจำหน่ายได้ไร่ละ 15,000 -18,000 บาท จึงทำให้ครอบครัวไม่เดือดร้อน
นางละเอียด วรรณภพ หนึ่งในผู้ปลูกข้าวโพด กล่าวว่า เกษตรกรในพื้นที่ยังได้ทำการปลูกพืชน้ำน้อยอื่นๆอีก เช่น ไร่ยาสูบ พริก มะเขือ กะหล่ำปลี ถั่วผักยาว และถั่วลิสง โดยจะใช้ที่ดินในพื้นที่ทำการปลูกพืชหมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ สามารถดำรงชีพอยู่ได้ในช่วงหน้าแล้งนี้ ตามที่รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด สร้างรายได้ให้ครอบครัว โดยไม่เดือดร้อน หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวโพดหวานแล้วเสร็จก็จะทำการไถกลบปรับปรุงดิน และทำการปลูกถั่วลิสง หมุนเวียนไปจนถึงฤดูการทำนาครั้งต่อไป