ในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในไม่ช้านี้ (ถ้าไม่มี “ปฏิวัติ” หรือ “รัฐประหาร”) เกิดขึ้น พรรคประชาธิปัตย์ มีการตั้ง“ตัวเลข” ของการได้ “สส.” ในภาคใต้ที่ 35 ที่นั่งขึ้นไป ซึ่ง“ขุนพล” ที่มีหน้าที่รับผิดชอบใน “สมรภูมิภาคการเลือกตั้ง” ทั้งประเทศ และ “ภาคใต้” อย่าง “นิพนธ์ บุญญามณี” ผู้อำนวยการเลือกตั้ง และ รองหัวหน้าพรรค รวมทั้ง “เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรค ผู้รับผิดชอบการเลือกตั้งในภาคใต้ โดยเฉพาะต่างให้“สัมภาษณ์” สื่อมวลชน แบบ“ย้ำแล้วย้ำอีก”ว่า ครั้งนี้“ประชาธิปัตย์“ทำได้ ไม่เหมือนกับการ “เลือกตั้ง” ในปี 2562 ที่“ประชาธิปัตย์” ได้เพียง 22 ที่นั่ง และ“แพ้กราวรูด” ใน 2 จังหวัดใหญ่อย่าง “สงขลา” และ“นครศรีธรรมราช” ซึ่งใน“ภาคใต้”
จังหวัดใหญ่ๆ ที่มี “สส.” แบบ “เป็นกอบเป็นกำ” มีเพียง 3 จังหวัด นั่นคือ “สงขลา, นครศรีธรรมราช” และ“สุราษฎร์ธานี” ซึ่งมี สส.รวม 25 ที่นั่ง ดังนั้น ถ้า“ประชาธิปัตย์” ต้องการที่จะได้ สส.ภาคใต้ 35 ที่นั่งขึ้นไป ต้องชนะใน 3 จังหวัดดังกล่าว หรือถ้าจะ“เสีย” ก็ต้อง“เสีย“ ให้น้อยที่สุด
มาติดตามดู “สนามเลือกตั้งในจังหวัดสงขลา” เขต 1 ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 “ประชาธิปัตย์” ที่เป็นเจ้าของพื้นที่อย่างยาวนาน เสียที่นั่ง ให้กับ “วันชัย ปริญญาศิริ” จาก พรรคพลังประชารัฐ แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ “วันชัย ปริญญาศิริ” สส.ของ“พลังประชารัฐ”ได้ลาออกมารับการเลือกตั้ง “นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา” และ“พลังประชารัฐ” ยังไม่ได้“เคาะ” ว่าจะส่งใครลงสมัคร ในพื้นที่ เขต 1 ดังนั้นเขตเลือกตั้งที่ 1 จึงเป็นการ“ต่อสู้“ ระหว่าง“สรรเพชญ บุญญามณี” จากค่าย “ประชาธิปัตย์” ที่ถูกยกให้เป็น “เต็งหนึ่ง” ที่ต้องสู้กับ “เจือ ราชสีห์” อดีต สส.เขต 1 ของ“ประชาธิปัตย์” ที่ครั้งนี้“สวมเสื้อ”พรรครวมไทยสร้างชาติ และ “ประสงค์ บริรักษ์” อดีตนายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองเขารูปช้าง ที่ลง “สนามใหญ่”เป็นครั้งแรกใน“สีเสื้อ”ของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ “ผู้สมัครในภาคใต้” ใช้ภาพถ่ายของ “เจ๊เปี๊ยะ” นาที รัชกิจประการ และ“เสี่ยเกี๊ยะ” “พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในการทำ“โปสเตอร์” เพื่อ“หาเสียง” ส่วนหัวหน้าพรรคอย่าง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่เป็น“หัวหน้าพรรค” ที่ไม่มีภาพถ่ายใน“โปสเตอร์หาเสียง” ซึ่งก็เป็น“เรื่องแปลกๆ” ของพรรคการเมืองพรรคนี้ พื้นที่ “เขต 1” จึงเป็นการ “ต่อสู้” กันระหว่าง 3 พรรค 3 ผู้สมัคร ส่วนผู้สมัครจาก“พรรคการเมือง”อื่นๆ เชื่อว่ายังยากที่จะ“ฝ่าคลื่นลม” เข้าสู่“เส้นชัย” ในการเลือกตั้งครั้งนี้
เขตเลือกตั้งที่ 2 คือพื้นที่ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่“ชุมชนเมือง” เป็นพื้นที่“เศรษฐกิจ” ในอดีตเขตเลือกตั้งที่ 2 “ตระกูลลาภาโรจน์กิจ” ครองตำแหน่ง สส.เขต 2 อย่าง“ต่อเนื่อง” และมาเสียที่นั่งให้กับ“ศาสตรา ศรีปาน” เด็กหนุ่ม“โนเนม” ทางการเมือง แห่งพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 และในการ เลือกตั้ง ครั้งนี้ “ศาสตรา ศรีปาน” ได้เปลี่ยน “สีเสื้อ”จาก“ค่ายพลังประชารัฐ” ของ“ลุงป้อม” มา“สวมเสื้อ” พรรครวมไทยสร้างชาติ ของ“ลุงตู่” โดยมี“ผู้ท้าชิงอย่าง”นิพัฒน์ อุดมอักษร “เลขานุการ นายก อบจ.สงขลา และ นายกสมาคม “เอสเอ็มอี” จ.สงขลา จากพรรคประชาธิปัตย์ มี รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ “เจษฎาพงศ์ ชูแก้ว” จากพรรคภูมิใจไทย “วชิราภรณ์ นิรันตราภรณ์” จากพรรคก้าวไกล และ “จุรี นุ่มแก้ว” “ดาวติ๊กต๊อก” จากพรรคชาติพัฒนากล้า ที่น่าจะ “สร้างสีสัน“ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งในเขตเลือกตั้งที่ 2 “ประชาธิปัตย์” และตัว“ผู้สมัคร” ใช้เวลาในการ “หาเสียง” มาก่อนคนอื่นๆ จึงน่าเป็น“คู่ชิง”กับ“ศาสตรา ศรีปาน” ที่เป็น สส.ในขณะนี้
เขตเลือกตั้งที่ 3 สส.ในปัจจุบันคือ “พยม พรหมเพชร” ที่ครั้งนี้“ครูยม” ทิ้ง“ลุงป้อม” มาสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะมั่นใจในกระแสความนิยมของคนสงขลา ในตัวของ“ลุงตู่” มากกว่า“ลุงป้อม” แต่ก็ต้องพบกับ “ศึกหน้า” ที่“ตีกระหนาบ” ทั้ง“ซ้าย-ขวา” อย่าง “สมยศ พลายด้วง” หรือ“เถ้าแก่ถึก” ผู้รับเหมารายใหญ่ของ จ.สงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ และ “ไพร พัฒโน” อดีต “นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่” และอดีต สส.หลายสมัยของพรรคประชาธิปัตย์ ในพื้นที่ เขต 3 สำหรับเขตนี้ ผู้สมัครอย่าง“สมยศ” ลงพื้นที่ “เปิดตัว” รวบรวมหัวคะแนน”ก่อนผู้สมัครคนอื่นๆ ส่วน“ไพร พัฒโน”เดินเข้าพบ“ประชาชน”แบบ“น้ำซึมบ่อทราย” ในขณะที่“ครูยม” ถ้าจะกลับเข้าสภาอีกครั้งต้องอาศัย“คะแนนนิยม“ ของ“ลุงตู่”อย่างเดียว
เขตเลือกตั้งที่ 4 สส.ในปัจจุบันคือ “ร.ต.อ.อรุญ สวัสดี” แห่งพรรคพลังประชารัฐ ที่ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สามารถ “โค่นแชมป์” ของ“ประชาธิปัตย์” อย่าง “ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว” แบบ“เฉียดฉิว” และ วันนี้“ผู้กองรุน” มีปัญหา“สุขภาพ” แม้จะเปลี่ยน“สีเสื้อ”จากพรรคของ“ลุงป้อม“ มา“สวมเสื้อ“พรรคของ“ลุงตู่“ ก็ยังคงเหนื่อยกับเรื่องของ“สุขภาพ“ ที่ไม่ “เอื้ออำนวย” โอกาสของ “แชมป์เก่า” ที่ต้องการ“ทวงที่นั่งคืน” อย่าง“ชัยวุฒิ ผ่องแผ้ว” จาก พรรคประชาธิปัตย์ จึงมีมากขึ้น ในขณะที่“ภูมิใจไทย” ก็“หมายมั่น”ที่จะ“ปักธง” ในเขตเลือกตั้งที่ 4
ให้ได้ โดยส่ง “สจ.เต้ง” ว่าที่ ร.ต.ไกรธนู แกล้วทนงค์ สจ.หลายสมัยของ อ.ระโนด จ.สงขลา และทั้ง “เจ๊ะเปี๊ยะ“ และ“เสี่ยเกี๊ยะ“ ต่างก็ “ทุ่มเท” “ทรัพยากร” และ“โครงการ”อย่าง“ต่อเนื่อง” เพื่อ“สนับสนุน” ให้“สจ.เต้ง” สามารถ“ตอกเสาเข็ม” ในเขตเลือกตั้งที่ 4 ให้ได้
เขต 5 เป็นเขตเลือกตั้งเดียว ที่“ประชาธิปัตย์” ไร้คู่แข่งที่จะมา“ต่อกร“ เพราะเป็นเขตของ สส.เดชอิศม์ ขาวทอง “นายกชาย” ที่เป็น “รองหัวหน้าพรรค” รับผิดชอบการเลือกตั้งใน“ภาคใต้” คู่แข่ง จากพรรคต่างๆ ที่ประกาศตัวลงสมัครในเขต 5 ยังไม่ใช่ “คู่แข่ง” ของ“นายกชาย” จึงเป็น“โอกาส” ให้“นายกชาย” ทิ้งพื้นที่ไปช่วย“ลูกพรรค” ในการ “หาเสียง”โดยไม่ต้อง“ห่วงหน้าพะวงหลัง”ว่าจะมีใคร“ตลบหลัง” เพื่อ “เจาะไข่แดง”
ปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี