วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 13.50 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการ ศูนย์สืบสวนนครบาล เปิดเผยภายหลังมีการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ห้วยขวางรวม 6  นาย  ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขังผลัดแรก 12 วันในคดีรีดทรัพย์นักท่องเที่ยว ไต้หวัน และสิงคโปร์ บริเวณด่านตรวจ หน้าสถานทูตจีนฯ  พร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง  หากให้ประกันเกรงว่าหลบหนีและเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานว่า การสอบปากคำตลอดระยะเวลาในชั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คนยังคงให้การปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหา ซึ่งสวนทางกับในชั้นสืบสวนที่มีการให้การเป็นประโยชน์มากกว่านี้ แต่ในหลักฐานของฝ่ายสืบสวนที่มีการรวบรวมมา สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าทั้ง 6 คนมีการร่วมมือกันรู้เห็นในการปฎิบัติหน้าที่การเรียกรับเงินในครั้งนี้ จึงมีการแจ้งดำเนินคดี ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบนตามมาตรา 149 และข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157

และแม้ว่าในชั้นสอบสวน ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธทุกข้อหา แต่ตำรวจก็ไม่หนักใจเพราะ มีพยานหลักฐาน ในหลายส่วนมาประกอบสำนวนคดีที่เชื่อว่าจะเอาผิดทั้ง 6 นายได้ ทั้งคำให้การของนายสกาย พยานปากสำคัญ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์และที่สำคัญ มีภาพวงจรปิดจากเอกชน ที่อยู่บริเวณหน้าด่านจับภาพ ขณะเกิดเหตุได้

ส่วนประเด็นเรื่องเงิน 27,000 บาท  ฝ่ายสืบสวนได้มีการตรวจสอบพบข้อมูลบ้างแล้วและมีการนำลงสำนวนในคดีเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอาจมีการพาดพิงไปถึงบุคคลอื่นด้วย ต้องรอดการตรวจสอบ 

ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าว พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีการกำชับให้การทำงานในคดีนี้ให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา หากนิ้วไหนร้ายต้องตัดทิ้ง โดยเฉพาะเมื่อเป็นเจ้าที่ตำรวจซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และเด็ดขาด