ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เริ่มวิกฤตหลายพื้นที่ วัดได้เกินมาตรฐานระดับสีแดง 14 จว.อยู่ที่101-158 มคก./ลบ.ม.เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ สธ.ตั้งศูนย์ฉุกเฉินรับมือ เผยยอดผู้ป่วยจากฝุ่นพิษพุ่ง3.7แสนราย ด้านกรุงเทพฯสาหัสค่าฝุ่นเกินเกณฑ์70พื้นที่ ใน27เขต ระดับสีแดง เขตหนองแขมสาหัสที่สุด โดยกทม.ถูกจัดเป็นเมืองที่มีมลพิษอันดับ3ของโลก
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)แถลงถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ในประเทศไทยที่แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นหลายพื้นที่ว่า วันนี้พื้นที่ที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 เกิน 51 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ติดต่อกันเกิน 3 วัน หรือระดับพื้นที่สีแดงมี 14 จังหวัด ได้แก่ 1.ลำพูน ที่อ.เมือง อ.ลี้ 2.เชียงใหม่ อ.เมือง อ.ฮอด อ.เชียงดาว อ.แม่แจ่ม 3.สุโขทัย ที่อ.เมือง 4.นนทบุรี อ.เมือง อ.ปากเกร็ด 5.ปทุมธานี ที่อ.คลองหลวง 6.พระนครศรีอยุธยา ที่อ.พระนครศรีอยุธยา
สธ.ตั้งศูนย์ฉุกเฉินใน14จว.รับมือPM2.5
7.สระบุรี ที่อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เมือง 8.อ่างทอง ที่อ.เมือง) 9.สมุทรสาคร ที่อ.เมือง อ.กระทุ่มแบน 10.ราชบุรี ที่อ.เมือง 11.สมุทรสงคราม ที่อ.เมือง 12.สมุทรปราการ ที่อ.พระประแดง อ.เมือง อ.บางเสาธง 13.นครพนม ที่อ.เมือง และ 14.กรุงเทพมหานครพบ 23 เขตจากทั้งหมด 50 เขต โดยค่าเฉลี่ย PM 2.5 อยู่ที่ 101 – 158 มคก./ลบ.ม. จึงเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีฝุ่น PM 2.5 ใน 14 จังหวัด เพื่อบริหารจัดการสถานการณ์อย่างเป็นระบบ
ยอดป่วยจากฝุ่นพุ่ง3.7แสนราย
นพ.ณรงค์กล่าวต่อว่า จากข้อมูลเฝ้าระวังโรคจากมลพิษทางอากาศในระบบ HDC ระหว่างวันที่ 1-31 มกราคมที่ผ่านมา พบว่า สัปดาห์นี้มีผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับมลพิษทางอากาศ 376,165 ราย เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมา 163,491 ราย โดยกลุ่มโรคที่เจ็บป่วยสูงสุด ได้แก่ กลุ่มโรคทางเดินหายใจ พบ 165,879 ราย เพิ่มขึ้น 72,430 ราย กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ พบ 80,248 ราย เพิ่มขึ้น 31,571 ราย กลุ่มโรค
ตาอักเสบ พบ 70,206 ราย เพิ่มขึ้น 29,605 ราย โรคหลอดเลือดหัวใจและสมองอุดตันขาดเลือด พบ 54,434 ราย เพิ่มขึ้น 26,828 ราย
ปชช.พื้นที่สีแดงเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
ทั้งนี้ ขอย้ำให้ประชาชนตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน หากค่าฝุ่นละอองอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ให้ลดหรืองดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบทางสุขภาพรุนแรงกว่าคนทั่วไป ส่วนประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน และหากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์
กทม.ชูแก้ปัญหาฝุ่นวาระแห่งชาติ
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร มีผลกระทบต่อสุขภาพ ตนจึงออกหนังสือแจ้งในเวลา 18.00 น. หลังค่าฝุ่นสูงขึ้นระดับสีแดง มากกว่า 90 มคก./ลบ.ม. 14 พื้นที่ และจากคาดการณ์แนวโน้มฝุ่นจะมีค่าสูงต่อเนื่องจนถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติแก้ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง PM 2.5 และการหารือร่วมกับ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กรุงเทพมหานครพิจารณาแล้วจึงดำเนินการตามมาตรการ ให้หน่วยงาน กทม. ทำงานที่บ้าน (WFH) ยกเว้นส่วนที่ให้บริการประชาชน บุคลากร กทม. ที่ปฏิบัติงานกลางแจ้ง ขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมประสานกรมควบคุมมลพิษขอความร่วมมือหน่วยงานราชการในพื้นที่ให้ WFH ถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์
ไทยติดอันดับ3เมืองมลพิษโลก
ขณะที่ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศ กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯวันเดียวกันนี้รายงานว่า จากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับสภาพอากาศนิ่งและปิด ทำให้มีการสะสมของฝุ่นละออง PM 2.5 เพิ่มขึ้น ส่งผลให้พื้นที่กรุงเทพฯมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. ระดับสีแดง มีค่าความเข้มข้นมากกว่า 90มคก./ลบ.ม. 27 เขต 70พื้นที่ ค่าเฉลี่ย 71-121 มคก./ลบ.ม. วัดได้สูงสุดอยู่ที่เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 วัดได้ 121 มคก./ลบ.ม.
ส่วนเว็บไซต์ IQAir จัดอันดับเมืองที่มีมลพิษโลก จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศล่าสุด วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) เวลา 09.00 น.พบว่า กรุงเทพฯอยู่อันดับ 3 ของโลก ขณะที่อันดับ 1 คือ เมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน และอันดับ 2 เมืองคูเวตซิตี้ ประเทศคูเวต
52จว.PM2.5เกินค่ามาตรฐาน
ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศฯยังรายงานภาพรวมคุณภาพอากาศทั่วประเทศว่า พบปริมาณ PM2.5 ในประเทศเกินค่ามาตรฐานมากถึง 52 จังหวัด โดยผลตรวจวัดตามรายภาคพบว่า ภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 43-119 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 57-158 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 48-110 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออกเกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 40-79 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 17-28 มคก./ลบ.ม. ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับกทม. เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ ตรวจวัดได้ 62-139 มคก./ลบ.ม.
หนองแขมฝุ่นพิษพุ่ง121มคก.
สำหรับ 70 พื้นที่ที่ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน วัดได้ตั้งแต่ 71- 121 มคก./ลบ.ม. อาทิ 1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 วัดได้ 121 มคก./ลบ.ม. 2.เขตลาดกระบัง หน้าโรงพยาบาลลาดกระบัง 113 มคก./ลบ.ม. 3.เขตประเวศหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ 112 มคก./ลบ.ม. 4.เขตทวีวัฒนาทางเข้าสนามหลวง 2 วัดได้ 112 มคก./ลบ.ม. 5.เขตหนองจอกหน้าสำนักงานเขตหนองจอก 109 มคก./ลบ.ม. 6.เขตบึงกุ่มในสำนักงานเขตบึงกุ่ม 109 มคก./ลบ.ม. 7.เขตบางนาหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา 105 มคก./ลบ.ม.
8.เขตคลองสามวา 105 มคก./ลบ.ม. 9.เขตมีนบุรี สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 103 มคก./ลบ.ม. 10.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา 103 มคก./ลบ.ม. 11.เขตสายไหมหน้าสำนักงานเขตสายไหม 102 มคก./ลบ.ม. 12.สวนหนองจอก เขตหนองจอก 102 มคก./ลบ.ม. 13.เขตคันนายาว ปากทางถนนสวนสยามตัดถนนรามอินทรา 101 มคก./ลบ.ม. 14.สวนพระนคร เขตลาดกระบัง 100 มคก./ลบ.ม.
15.เขตบางบอน 100 มคก./ลบ.ม. 16.เขตยานนาวา ใกล้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำนักงานใหญ่ 99 มคก./ลบ.ม. 17.เขตวังทองหลาง ซ.ลาดพร้าว 95 วัดได้ 99 มคก./ลบ.ม. 18.เขตบางกอกใหญ่ สี่แยกท่าพระ 98 มคก./ลบ.ม. 19.เขตภาษีเจริญ ซอยเพชรเกษม 36 วัดได้ 96 มคก./ลบ.ม. 20.เขตบางเขน 96 มคก./ลบ.ม.21.เขตธนบุรี 96 มคก./ลบ.ม. 22.เขตคลองเตย 96 มคก./ลบ.ม. 23.เขตบางคอแหลม 96 มคก./ลบ.ม. 24.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี 96 มคก./ลบ.ม.
หนองคายน่าห่วงคุณภาพอากาศสีแดง
วันเดียวกัน สถานีสวนสาธารณะหนองถิ่น เขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยกรมควบคุมมลพิษเผยตัวเลขค่าดัชนีคุณภาพอากาศ หรือ AQI ในภาพรวมที่ประกอบด้วย มลพิษทางอากาศ 6 ชนิดได้แก่ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ก๊าซโอโซน ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ของจ.หนองคายสูงถึง 202 AQI เป็นสีแดง ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งนี้ จากดัชนีคุณภาพอากาศที่สูงดังกล่าว แสดงว่าความเข้มข้นองมลพิษทางอากาศมีค่าเกินมาตรฐานและคุณภาพอากาศวันนั้น จะเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน จึงมีคำแนะนำด้านสุขภาพแก่ประชาชน และกลุ่มเสี่ยงควรเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกประเภท เลี่ยงพื้นที่มีมลพิษทางอากาศสูง ในพื้นที่ จ.หนองคาย รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน มีการเผาเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นการเผาพื้นที่ทางการเกษตร สวน ทุ่งหญ้า ที่นาที่ไม่มีการทำนาปรัง เป็นต้น รวมถึงการเผาขยะในครัวเรือนเผาขยะ ใบไม้ ใบหญ้า ทำให้ปริมาณมลพิษทางอากาศสูงต่อเนื่อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี