วันศุกร์ ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เดินหน้าใช้ ม.61 ประมวลกฎหมายที่ดินเพิกถอน น.ส.3 ไม่ถูกต้องบนเกาะหลีเป๊ะ

เดินหน้าใช้ ม.61 ประมวลกฎหมายที่ดินเพิกถอน น.ส.3 ไม่ถูกต้องบนเกาะหลีเป๊ะ

วันศุกร์ ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 18.35 น.
Tag : เพิกถอน น.ส.3 ประมวลกฎหมายที่ดิน ม.61 เกาะหลีเป๊ะ
  •  

เดินหน้าใช้ ม.61 ประมวลกฎหมายที่ดินเพิกถอน น.ส.3 ไม่ถูกต้องบนเกาะหลีเป๊ะ มท.สั่งจังหวัดสตูลเร่งดำเนินการโดยเร็ว-ตรวจสอบทุกแปลง ขณะที่ กมธ.ที่ดินช่วยขันน็อตแนะ 8 ข้อ พบพิรุธการออกเอกสารอื้อแถมมีการทำนิติกรรมอำพราง

เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีการแก้ไขปัญหาที่ดินและชุมชนชาวอูรักลาโว้ยบนเกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริง กรณีปัญหาข้อพิพาทเรื่องที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ที่มีพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เป็นประธาน ได้สั่งดำเนินคดีกับเอกชนที่รุกล้ำที่ดินของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และได้ประสานกรมที่ดินเพื่อให้มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ในบางแปลง พร้อมทั้งตรวจสอบ น.ส.3 ทุกแปลง


นายณฐพร โตประยูร ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ได้สั่งให้ทางจังหวัดสตูลตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ตามมาตรา 61 ของประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อเพิกถอน น.ส.3 แปลงที่ 11 เนื่องจากมีผลคำวินิจฉัยของศาลระบุว่าที่ดินแปลงนี้ออกเอกสารโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งคาดว่าคงเสร็จสิ้นในเร็ววันนี้

“ก่อนออก น.ส.3 ต้องมีเอกสารรับรองว่าเจ้าของที่ดินแปลงนี้ได้ทำประโยชน์จริงหรือไม่ ถ้าแจ้งการครอบครองไม่ถูก ถือว่าได้มาโดยมิชอบ ตอนนี้ให้ที่ดินจังหวัดตรวจสอบใหม่แล้ว คาดว่าได้ผลเร็วๆนี้ ผมเองจะลงพื้นที่ไปกำกับด้วยตัวเอง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เราจะตรวจสอบ น.ส.3 บนเกาะหลีเป๊ะทุกแปลง หากพบว่ามีการออกเอกสารโดยมิชอบก็ต้องเพิกถอน เพราะอยากให้ที่ดินตรงนั้นเป็นของชาวเลจริงๆ”นายณฐพร กล่าว

ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า ส่วนเรื่องถนนและลำรางสาธารณะ ก็ได้สั่งการให้มีการพิสูจน์ตามระวางที่ดินไปแล้วเช่นกัน หากพบว่ามีการถมหรือบุกรุกก็จะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์นั้นทันที ส่วนกรณีที่ตรวจพบมีโรงแรมและรีสอร์ทกว่า 100 แห่งไม่มีใบอนุญาตนั้น ก็ต้องร่วมกันหาทางออก เพราะคงสั่งให้รื้อทั้งหมดไม่ได้ เพียงแต่ต้องตรวจสอบด้วยว่าโรงแรมหรือรีสอร์ทเหล่านั้นเป็นเจ้าของที่ดินจริงหรือไม่ หรือมีต่างชาติเข้ามาถือครองด้วย หากเป็นเช่นนั้นก็ต้องรื้อ

“เราอยากเห็นเกาะหลีเป๊ะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ไม่ต้องหรูหรา แต่นักท่องเที่ยวได้เข้ามาดูวิถีวัฒนธรรมของชาวเลในพื้นที่ ปัจจุบันแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมากถูกทุนหลายชาติครอบงำ ขณะเดียวกันสถานประกอบการเหล่านี้ควรมีบ่อบำบัดน้ำเสีย และมีที่ทิ้งขยะถูกสุขลักษณะ เพราะอย่าลืมว่าชายหาดหลีเป๊ะสวยงามมาก แต่สิ่งปฎิกูลเหล่านี้ขัดกับความสวยงาม เรื่องนี้เป็นนโยบายของผู้ใหญ่ในรัฐบาลที่สั่งการมาด้วย”นายณฐพร กล่าว

ด้านคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ได้ออกรายงานผลการศึกษาเรื่องการแก้ปัญหาออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ โดยระบุว่าตามที่ได้รับหนังสือร้องทุกข์ของ นางสลวย หาญทะเล ราษฎรเกาะหลีเป๊ะ เรื่องขอให้เร่งดำเนินการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะและ กมธ.ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ผู้แทนกรมที่ดิน ผู้แทนกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้แทนจังหวัดสตูล และภาคประชาชน ชี้แจงต่อ กมธ. ผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการ มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้

ปัญหาสิทธิที่ดิน ที่อยู่อาศัย และวิถีชีวิตชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ ในการแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค. 1) มีชาวเลจำนวนมากไม่ได้แจ้งการครอบครองที่ดิน เพราะความห่างไกล เดินทางลำบาก ความไม่รู้หนังสือ และชาวเลเองไม่ได้มีแนวความคิดในการถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดิน จึงมีเพียง 41 รายเท่านั้น ที่ขอแจ้ง ซึ่งต่อมาได้มอบอำนาจให้กำนันในสมัยนั้น และคนไว้ใจอีกรายหนึ่งยื่นคำขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส. 3) และพบข้อพิรุธการซื้อขายเปลี่ยนมือที่ดินจำนวนหลายแปลง

ในรายงานผลการศึกษาของ กมธ.ระบุว่า ต่อมาเกิดการการบุกรุกขยายที่ดินมากกว่าหลักฐานที่ดินที่เคยครอบครองและทำประโยชน์ เช่น น.ส. 3 เลขที่ 9, 10 และ 11 ไปทับที่ดินของชาวเลกว่า 200 หลัง และมีการฟ้องคดีขับไล่ชาวเลออกจากที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะแปลง น.ส. 3 เลขที่ 11 ซึ่งเป็นแปลงที่เกิดกรณีพิพาทจากการที่เอกชนสร้างรั้วปิดกั้นเส้นทางที่นักเรียนใช้เดินทางไปโรงเรียนรวมไปถึงการบุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ของเอกชนอีกด้วย

ในรายงานของ กมธ.ชุดนี้ได้พิจารณาศึกษาเอกสารข้อมูลผลการตรวจสอบเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะของหน่วยงานต่างๆ  โดยสรุปผลการพิจารณาศึกษาได้ดังนี้ 1.ปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดิน พบข้อพิรุธการออก น.ส. 3 และกระบวนการทำนิติกรรมขายที่ดิน เมื่อผู้มีชื่อครอบครอง ส.ค. 1 มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจ ไปขอ น.ส.3 แต่กลับปรากฏว่าที่ดินได้ถูกขายให้กับผู้ที่รับมอบอำนาจในวันเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  พบว่า มีข้อพิรุธในการจดทะเบียนนิติกรรมการขอออก น.ส.3 โดยการขายที่ดินให้กับผู้รับมอบอำนาจในคำขอออก น.ส.3 โดยมีข้อพิรุธทะเบียนบ้านหรือชื่อบิดามารดาของผู้ยื่นขอออก น.ส.3 ไม่ตรงกับความเป็นจริง และภรรยา หรือบุตร หรือญาติ ยืนยันว่าผู้ยื่นขอออก น.ส. 3 ดังกล่าว มิได้ขายที่ดินให้กับผู้ใด

ขณะเดียวกันมีปัญหาเอกชนบุกรุกขยายที่ดินมากกว่าหลักฐานที่ดินที่เคยครอบครองและทำประโยชน์เกือบทุกแปลง โดยเฉพาะ น.ส.3 เลขที่ 11 ซึ่งเป็นแปลงที่เกิดกรณีพิพาทจากการที่เอกชนสร้างรั้วปิดกั้นเส้นทางที่นักเรียนใช้เดินทางไปโรงเรียนในกรณีล่าสุด และปัญหาการบุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ และการออกเอกสารสิทธิทับเส้นทางสัญจรของเอกชนอีกด้วย

ในรายงานของ กมธ.ระบุว่า พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ผ่านมากรมที่ดินยังมิได้มีการดำเนินการอ่าน แปล วิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ มาใช้ประกอบผลการตรวจสอบความถูกต้องของการออกน.ส. 3 และส.ค.1 รวมถึงการดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับข้อพิรุธในการจดทะเบียนนิติกรรมการซื้อขายที่ดินให้กับผู้ได้รับมอบอำนาจ เพื่อขอออก น.ส.3 และการออก น.ส. 3 เกินกว่าหลักฐานเดิมจำนวนมาก รวมถึงการออกเอกสารสิทธิทับพื้นที่สาธารณประโยชน์ของชาวเล ได้แก่ เส้นทางสัญจรของชาวเล ลำรางสาธารณประโยชน์ และสุสานของชาวเล อันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับชาวเลที่อยู่อาศัยมาแต่ดั้งเดิม ต้องสูญเสียสิทธิในที่ดิน และต้องถูกขับไล่ หรือถูกฟ้องร้องคดีจากเอกชนจำนวนมากในปัจจุบัน ดังนั้น กมธ.จึงเห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมที่ดิน กรมอุทยานฯ กรมบังคับคดี จังหวัดสตูล และคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงคดีพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ พิจารณาดำเนินการ ดังต่อไปนี้

1.ตรวจสอบ น.ส.3 ทุกแปลงบนเกาะหลีเป๊ะ โดยเริ่มจากที่ดินแปลงที่มีเนื้อที่เกินกว่าหลักฐานเดิม หรือแปลงมีความขัดแย้งกับชาวเลจำนวนมาก เช่น แปลงที่ดิน น.ส.3 เลขที่ 10, 11 และ ส.ค.1 เลขที่7 ว่าออกชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ และเร่งรัดให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว

2. ตรวจสอบ ส.ค.1 ที่ยังมิได้มีการนำไปขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ว่า มีทิศและตำแหน่งสอดคล้องกับความเป็นจริงหรือไม่ 3 ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกระบวนการทำนิติกรรมซื้อขายที่ดินให้กับผู้รับมอบอำนาจเพื่อขอออก น.ส. 3 ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ รวมถึงการออกเอกสารสิทธิทับพื้นที่สาธารณประโยชน์ เช่น ถนนหรือทางสาธารณะ ที่ใช้เป็นเส้นทางสัญจรของชาวเล และปัญหาการบุกรุกลำรางสาธารณประโยชน์ของเอกชน

4. ให้มีการอ่าน แปล วิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายสมควรที่จะใช้ภาพถ่ายทางอากาศที่เก่าที่สุด คือ ภาพถ่ายทางอากาศปี พ.ศ. 2493 เป็นเครื่องมือในการพิสูจน์การครอบครองการใช้ประโยชน์ ประกอบกับหลักฐานอื่น เช่น ผลอาสิน (ต้นมะพร้าว) ประวัติศาสตร์ เป็นต้น

5. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมที่ดิน กรมอุทยานฯ จังหวัดสตูล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ดำเนินการตรวจสอบร่วมกัน โดยเฉพาะการอ่าน แปล วิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่ยอมรับร่วมกัน 6. สำหรับที่ดินของรัฐที่ได้คืนมาจากการตรวจสอบเห็นควรนำมาจัดเป็นที่พักอาศัยตามวิถีชีวิตของชาวเล และมีมาตรการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล ตามมติคณะรัฐมนตรีว่าด้วยการฟื้นฟูวิถีชีวิตชาวเล เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2553

7. ให้กรมอุทยานฯ ร่วมกับกรมบังคับคดี เร่งดำเนินการตรวจสอบบังคับรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างสำหรับที่ดินที่คดีสิ้นสุดแล้ว รวมทั้งตรวจสอบ บังคับรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ครอบครองเกินกว่าเอกสารสิทธิที่ดิน และนำไปจัดให้ชุมชนชาวเลอยู่อาศัย

8. กรมอุทยานแห่งชาติฯ ควรเร่งดำเนินการจัดทำโครงการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตามความในมาตรา 65 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 เพื่อให้ชุมชนชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะได้ประกอบอาชีพทำการประมงได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  

Breaking News

'สพฐ.' แจ้งสถานศึกษาไม่ตื่นตระหนกข่าวลือ 'โควิด' ย้ำไม่ประมาท

(คลิป) หลอกหลอน 'โฆษกพรรคเพื่อไทย' ไปตลอดชีวิต

'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?

สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved