'สันธนะ'ยื่นDSIข้อมูล 183หน้าแก๊งค้ายารายใหญ่-รายการทรัพย์สิน"กลุ่มเอ็ดดี้- เจ้าพ่อเว็บพนัน" เชื่อเชื่อมโยง'สารวัตรซัว' เผยไม่เชื่อใจตร.ตรวจสอบกันเอง พร้อมจี้ถาม"นายพล จ."ที่มาเงินสร้างคฤหาสน์
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566 ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.แจ้งวัฒนะ กทม. นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อมอบข้อมูลเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายการทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดของกลุ่มนายเอ็ดดี้-พันณรงค์ ขุนพิทักษ์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมความเชื่อมโยงว่าทั้งหมดร่วมกันฟอกเงินจากการทำเว็บพนันออนไลน์ของกลุ่มสารวัตรซัว โดยมีนายสมเกียรติ เพชรประดับ ผู้อำนวยการส่วนพิจารณาสำนวนร้องทุกข์กองบริหารคดีพิเศษ เป็นตัวแทนรับเรื่อง ซึ่งเอกสารที่ยื่นมีจำนวนกว่า 183 แผ่น
นายสันธนะ กล่าวว่า วันนี้ตนมาดีเอสไอเพราะไม่เชื่อใจการตรวจสอบกันเองระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากเมื่อปี 64 ตนเคยนำเอกสารเหล่านี้มอบให้กับอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แบ่งกลุ่มคนกระทำผิดไว้ชัดเจนทั้งกลุ่มของสารวัตรซัว กลุ่มนายเอ็ดดี้ กลุ่มนายชัย ฟันเหล็ก รวมถึงรายชื่อเว็บไซต์พนันออนไลน์กว่า 240 เว็บไซต์ แต่เรื่องราวเงียบ ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ตนดำเนินการเก็บรวบรวมมา 2ปีเศษ ไม่ได้มีแค่ชื่อ-นามสกุล แต่มีข้อมูลความเชื่อมโยงต่างๆ ดังนั้น ตนจึงคาดหวังกับดีเอสไอมากกว่าในการดำเนินการตรวจสอบ เพราะการให้ออกจากราชการไว้ก่อนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนไม่เห็นด้วย เนื่องจากเชื่อว่าเมื่อเรื่องเงียบแล้ว เรื่องแบบนี้ก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า ตนเคยดำเนินการขอเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับสารวัตรซัว แต่ถูกปฏิเสธเนื่องด้วยพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ จึงทำหนังสือไปที่ต้นสังกัดเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว โดยร้องเรียนขอให้ตรวจสอบข้าราชการตำรวจรายนี้ว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์และเจ้าของบ่อนการพนันรายใหญ่หรือไม่ แต่เมื่อทำหนังสือถึงต้นสังกัด ปรากฏว่ามีการตอบกลับมายังตนว่า "ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วปรากฏว่าไม่พบมูลเเห่งการกระทำความผิดตามที่ร้องเรียน จึงได้สั่งยุติเรื่องดังกล่าวไป" โดยที่ไม่ได้เรียกตนสอบถามเลยสักครั้ง ซึ่งหัวหน้าต้นสังกัดรายนี้ ก็คือคนเดียวกันกับที่เซ็นชื่อลงนามให้สารวัตรซัวออกจากราชการไว้ก่อน
นายสันธนะ กล่าวอีกว่า การที่สารวัตรซัวถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ตนมองว่าอาจจะเป็นเพราะตนเคยกล่าวไว้ว่า หากจะให้ตนนำพยานหลักฐานไปมอบให้ จะต้องเอาตัวสารวัตรซัวมานั่งพูดคุยต่อหน้าด้วย เเละตนจะเอาพยานหลักฐานเหล่านี้วางกองอยู่ต่อหน้าสารวัตรซัว จึงเป็นเหตุผลให้สารวัตรซัวถูกให้ออกจากราชการ เพราะเขาไม่ยอมมาพบ อีกทั้งที่ผ่านมาสารวัตรซัวขาดราชการไปเป็นปีๆ ตนเคยไปที่โต๊ะทำงานเขา พบว่าฝุ่นเกาะหนาเตอะ ไม่ได้เข้ามาปฏิบัติราชการเลย" นายสันธนะ ระบุ
" เมื่อปี2564 อดีตสารวัตรซัว ยังได้มีการเปิดตลาดไชยทิศ บริเวณเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน บนพื้นที่ 16 ไร่ ที่มีความทันสมัยและใหญ่ที่สุดย่านฝั่งธนบุรี ภายใต้สโลแกน สะดวก สะอาด ปลอดภัย ใส่ใจสังคมในคอนเซ็ปต์ "เชฟ ช็อป" โดยมีนักการเมืองจากพรรคขนาดใหญ่ชื่อดังรายหนึ่งไปร่วมเปิดตลาดด้วย อีกทั้งยังมีนายตำรวจยศร้อยตำรวจโท เข้าร่วม เพื่อให้เห็นว่าเป็นหุ้นส่วนกัน นอกจากนี้ ธุรกิจของสารวัตรซัวมีจำนวนมาก ทั้งการเป็นเจ้าของเซิร์ฟเวอร์ มาสเตอร์เอเจนซี่ ซึ่งทำโดยไม่หวั่นเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทำธุรกิจผิดกฎหมายครบวงจร ทั้งนี้ อดีตสารวัตรซัวยังมีธุรกิจที่อยู่ระหว่างดำเนินกิจการทั้งหมด 14 แห่ง"นายสันธนะ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายสันธนะยังได้โทรศัพท์หาสารวัตรซัว จำนวน 2 เบอร์ โดยเบอร์แรกไม่มีคนรับสาย ส่วนอีกเบอร์คล้ายติดสายอื่นอยู่ ซึ่งหมายเลขโทรศัพท์ทั้งสองเบอร์นี้ นายสันธนะจะมอบให้ดีเอสไอไปตรวจสอบการใช้ข้อมูลโทรศัพท์ ว่าอดีตสารวัตรซัวได้โทรศัพท์หาผู้ใหญ่รายใดบ้างหรือไม่ รวมถึงในกรณีของนายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอท กองสลากพลัส นายสันธนะ ยังแสดงเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งเป็นผังความเชื่อมโยงกับกลุ่มนายเอ็ดดี้ โดยรถยนต์ของนอทนั้น (ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน ตอง5) พบว่ามีการสวมทะเบียนไว้ 3 คัน แต่ทั้ง 3 คันนี้เป็นรถคนละรุ่น คนละคันกัน จึงอยากรู้ว่าลักษณะเช่นนี้ถือเป็นการสวมทะเบียนหรือไม่
ขณะเดียวกัน นายสันธนะยังได้นำภาพถ่ายของตำรวจยศพลตำรวจโท จ. ปรากฏเป็นภาพคฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่เพิ่งสร้างเสร็จ และมีงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่มาเปิดเผยต่อสื่อมวล ชน พร้อมกับตั้งคำถามว่า บ้านหลังดังกล่าวมีที่มาอย่างไร ใช้เงินจากอะไรไปสร้าง พร้อมกับขอให้ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจหากไม่ได้ทำความผิด แต่ถ้าอยากรับผิดชอบ แสดงความบริสุทธิ์ใจ ก็ขอให้ถอดตัวเองออกจากตำแหน่งไปก่อน และนายสันธนะยังได้นำข้อมูลของนายตำรวจยศพลตำรวจตรี อ. ที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ซึ่งนายตำรวจรายนี้อยู่เบื้องหลังเว็บไซต์พนันออนไลน์ และสั่งให้ก่อเหตุอุ้มตัว หนุ่มโปรแกรมเมอร์ ซึ่งเป็นแอดมินเว็บพนัน ไปทำร้ายร่างกายตามที่ปรากฏข่าวมาส่งมอบให้ดีเอสไอตรวจสอบด้วย
อย่างไรก็ตาม นายสันธนะ ระบุว่าการยื่นเอกสารและหลักฐานในครั้งนี้ ตนไม่คาดหวังว่าดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษ และไม่ได้กดดันการทำงานของดีเอสไอ เพราะเข้าใจดีว่าดีเอสไอก็เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่ต้องทำงานภายใต้การสั่งการของการเมือง แต่เห็นว่าข้อมูลนี้เป็นคดีสำคัญที่ต้องตรวจสอบ เนื่องจากมีตำรวจเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1 แสนล้านบาท และที่สำคัญ ตนยืนยันว่าไม่มีใครมาเคลียร์กับตนแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี