สธ.ได้รับวัคซีนโควิดเจน 2 หรือ “ไบวาเลนท์” ผสมระหว่างสายพันธุ์“อู่ฮั่น-โอมิครอน” จากเกาหลีใต้เป็นไฟเซอร์ 5 แสนโดส อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณภาพ ก่อนส่งกระจายไปถึงรพ.ทั่วประเทศ เพื่อฉีดเป็นบูสเตอร์โดส ให้กลุ่มเสี่ยง 607–บุคลากรแพทย์สาธารณสุขด่านหน้า จากนั้นมีนาคม จะมาอีก 1 ล้านโดส จากฝรั่งเศส ตั้งเป้าใช้เป็นเข็มกระตุ้น ฉีดปีละ 2 เข็ม
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงแผนการใช้วัคซีนโควิดรุ่น 2 ของประเทศไทยว่า ไทยได้รับวัคซีนเจน 2 หรือไบวาเลนท์ (bivalent) ซึ่งผสมกันระหว่างอู่ฮั่นและโอมิครอน จากประเทศเกาหลีใต้ให้วัคซีนไฟเซอร์เจน 2 จำนวน 5 แสนโดส โดยถึงไทยแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณภาพของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คาดว่าจะแล้วเสร็จสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้าจะทำพิธีส่งมอบและกระจายวัคซีนต่อไป
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้พิจารณาข้อมูลข้อบ่งใช้วัคซีนเจน 2 โดยจะให้ใช้ในกลุ่มเสี่ยง กลุ่ม 607 และบุคลากรด่านหน้าทั้งบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ ตม. เจ้าหน้าที่ควบคุมโรค รวมทั้งเจ้าหน้าที่รพ.ที่ต้องดูแลโรคโควิด-19 ซึ่งเมื่อนำมาใช้เป็นบูสเตอร์โดส ไม่แตกต่างจากวัคซีนที่มีอยู่ แม้ตัวเลขจะมากกว่านิดหน่อย แต่ทางเศรษฐกิจไม่แตกต่าง
อธิบดีกรมควบคุมโรคเผยว่า วัคซีนโควิดเจน 2 นี้ จะใช้เป็นบูสเตอร์โดสเป็นหลัก และใช้คู่กับวัคซีนที่เรามีอยู่ โดยวัคซีนเจน 2 จะมาล็อตสองอีกประมาณ 1 ล้านโดสจากฝรั่งเศสในเดือนมีนาคม นอกจากนี้ เรายังได้รับการติดต่อบริจาควัคซีนซัปยูนิตอีกด้วย ซึ่งปี 2567 คาดการณ์ว่าไม่ต้องซื้อวัคซีนเลย เพราะยังมีวัคซีนสำรอง และวัคซีนที่บริจาค เบื้องต้นแนะนำฉีดปีละ 2 เข็มเป็นเข็มกระตุ้น
นพ.ธเรศ ยังกล่าวถึงการเฝ้าติดตามการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก (Marburg virus disease) ในประเทศอิเควทอเรียลกินี (Equatorial Guinea) แอฟริกากลางว่า กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์โรคดังกล่าวต่อเนื่อง ได้มอบหมายให้ด่านควบคุมโรคระหว่างประเทศ ที่สนามบินสุวรรณภูมิตรวจคัดกรองกลุ่มคนที่มาจากประเทิศอิเควทอเรียลกินี และประเทศข้างเคียงว่า มีปัญหาสุขภาพอะไรหรือไม่ เป็นการตรวจประเมินก่อนเข้าประเทศไทย ทั้งนี้กลุ่มประเทศดังกล่าวได้ตรวจเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เหลือง จึงมีการตรวจสอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ยกระดับเฝ้าระวัง และติดตามอาการตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศไทย
“สำหรับไวรัสมาร์บวร์กนั้น เป็นโรคอันตรายที่ประกาศไว้แล้ว เมื่อพบสถานการณ์อะไรผิดปกติก็จะออกแนวทางเข้มข้นได้ทันที เช่น นำคนมาคลอรันทีน ติดตามเป็นพิเศษ ทั้งนี้ ขอให้สบายใจ เพราะจากการตรวจสอบกลุ่มประเทศนี้มาไทยค่อนข้างน้อยมาก อย่างปลายปีที่แล้วมาเพียง 10 คน แล้วไม่พบอาการใดๆ ไม่พบคนไม่สบาย แต่ไวรัสดังกล่าวเมื่อป่วยแล้ว จะเสี่ยงเสียชีวิตถึง 88% ก็จริง แต่มาไทยน้อยมาก จึงไม่ต้องกังวล”น.พ.ธเรศกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี