จังหวัดพิจิตร เป็นจังหวัดขนาดเล็กในกลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ที่มีนักการเมืองที่มีระดับชื่อเสียงเบอร์ต้นของประเทศไทย ซึ่งจังหวัดพิจิตรมี 12 อำเภอ แบ่งการเลือกตั้งออกเป็น 3 เขตเลือกตั้ง โดยแบ่งเป็นรายอำเภอ แยกออก เขตเลือกตั้งละ 3-4 อำเภอ แม้จะได้ชื่อเป็นเมืองขนาดเล็ก แต่มีผู้อิทธิพลทางการเมืองคุมเกมการเมือง 3 ถึง 4 กลุ่ม ที่คอการเมืองคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ สส. พิจิตร 4 สมัย คุมเกมพรรคภูมิใจไทย นายไพฑูรย์ แก้วทอง พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และ นส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตสส. และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ปัจจุบันคือแกนนำครอบครัวเพื่อไทยพิจิตร หญิงใหญ่ครอบครัวพรรคเพื่อไทย รวมถึง กลุ่มเจ้าของเก้าอี้ปัจจุบัน พรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 3 เขต
เขตเลือกตั้ง เขต 1 อำเภอเมืองพิจิตร, อำเภอสามง่าม และอำเภอวชิรบารมี ตั๋วคราวที่แล้ว เป็นของ นายพรชัย อินทร์สุข คาดว่าจะลงชิงชัยสังกัดพรรค พปชร. ลงสนามรักษาแชมป์อีกครั้ง หลังข่าวมีการย้ายค่าย ท่ามกลางคู่แข่ง ที่เข้ามาแย้งตำแหน่ง หลายพรรคหลายทีม อย่างเช่น ตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” พรรคภูมิใจไทย โดยมี “เสี่ยอ๊อด” ประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยคลัง และสส.พิจิตร 4 สมัยส่งหลานชาย ภัทรพงษ์ ภัทรประสิทธิ์ หรือ กำนัน น็อต อดีตกำนันตำบลหัวดง และมีฐานะหลานเขย “ลุงเนวิน ชิดชอบ” ลงแข่งในเขตนี้ ทางด้านพรรคเพื่อไทย ส่งน้องชายสุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการเพื่อไทย คือ ปุณยวัจน์ เหลืองวิจิตร สจ.รถ อดีต รองนายก อบจ. เข้าร่วมชิงตำแหน่ง ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ของลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่ชัดว่าจะเคาะใครลงชิงชัยเขตนี้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ มอบหมาย พล.ท.ฉลวย แย้มโพธิ์ใช้ อดีตนายทหารจากค่ายจิรประวัติ รับภารกิจลงแทน ส่วนพรรคก้าวไกล ส่ง นายชัยณรงค์ คล้ายเนียม ลงทำหน้าที่
เขตเลือกตั้งที่ 2 พื้นที่ อำเภอสากเหล็ก, อำเภอวังทรายพูน, อำเภอตะพานหิน, อำเภอทับคล้อ และอำเภอดงเจริญ เจ้าของเดิมเป็นของ “โกทรัพย์” นายภูดิท อินทร์สุวรรณ์ จากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งครั้งนี้ล่าสุดมีการเคลื่อนไหว ลงมาใส่เสื้อ พรรคเพื่อไทย ส่วน ภูมิใจไทยได้คนจากตระกูล “ภัทรประสิทธิ์” คือ “วินัย ภัทรประสิทธิ์” น้องชาย “เสี่ยอ๊อด” นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ลงแข่งซึ่งในการเลือกตั้งปี’62 “วินัย” เคยร่วมงานกับพรรคไทยรักษาชาติ แต่ถูกยุบพรรคเสียก่อน ครั้งนี้จึงมาแก้มือทวงพื้นที่ส่วนรวมไทยสร้างชาติ ส่ง มาดามนิด “ปุณณรีย์ ศรีบุษกร” ซึ่ง เป็นภรรยาของนายสุรชาติ ศรีบุศกร สส.พิจิตรเขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ลงชิงชัยด้วย ด้าน ประชาธิปัตย์ ส่ง “วรวุฒิ แก้วทอง” อดีต สจ. น้องชาย “ไพฑูรย์ แก้วทอง” เข้าแข่งหวังชิงเก้าอี้กลับคืน ปชป.อีกครั้ง ส่วนพรรคก้าวไกล ส่ง นายดุษฎี บัวเขียว ลงแข่ง
เขตเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่ อำเภอบางมูลนาก, อำเภอโพทะเล, อำเภอบึงนาราง และอำเภอโพธิ์ประทับช้าง ตำแหน่งเดิม คือ “นายสุรชาติ ศรีบุศกร” หรือ สส.ไก่ จากพลังประชารัฐ ที่ครั้งนี้ย้ายค่ายมาสังกัด รวมไทยสร้างชาติ
เพื่อป้องกันแชมป์อีกสมัย ขณะที่พรรคภูมิใจไทย ส่งลูก “ลูกยอด” ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชายเสธ.หนั่น ที่เคยลงในระบบบัญชีรายชื่อ กลับลงแข่งในระบบเขตการเลือกตั้งซึ่งมีดีกรีเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ ที่มีทั้ง นายใหญ่นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ และนายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ อดีตนายก อบจ.พิจิตร เปิดเกมส์สู้อย่างเต็มที่ ขณะที่พรรคเพื่อไทย ส่ง “สจ.น้ำ” นายวิชัย ด่านรุ่งโรจน์ ซึ่งครั้งนี้สจ.น้ำ มีปัญหาคาใจ ย้ายจากค่ายสีน้ำเงิน ภูมิใจไทยที่ลงเลือกตั้งปี’62 มาลงในนาม เพื่อไทยแทน ส่วน นายจักรพงศ์ บุบผา ลงในนามพรรคก้าวไกล ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และ พลังประชารัฐ ยังไม่เปิดตัวในเขตนี้
สำหรับการเมืองที่ใกล้จะมาถึงในครั้งนี้ คอการเมือง ทั้งนอกจังหวัดและในจังหวัดมองว่า เป็นการต่อสู้ของกลุ่มคนที่ต้องการคุมการเมืองในพื้นที่จังหวัดพิจิตร แบบ ทั้งหมด แบบครบวงจร ทั้งการเมืองใหญ่ การเมืองเล็ก เพื่อการควบคุมกลุ่มกำลัง เป็นการต่อสู้ที่สนุกทุกเขตการเลือกตั้งแบบเทหน้าตัก เต็มที่ทั้งกำลังแรงกำลังทุนและกำลังภายใน ที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวของการเดินเกมกับแกนนำกลุ่มชาวบ้านบ้างแล้ว และคาดว่ากลุ่มอำนาจใหญ่ ทั้ง 3-4 กลุ่ม อาจต้องแบ่งตำแหน่งออกมาจะไม่ได้ตำแหน่งครบทั้งทีมทั้งพรรคใน 3 เขตเลือกตั้งของเมืองชาละวัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี