จังหวัดกาฬสินธุ์เดินหน้า "ยุทธการฟ้าแดดสงยาง" ระดมกวาดล้างยาเสพติด ตำรวจ สภ.ยางตลาดร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอยางตลาด ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 และชุดสืบสวนสภ.นากุงจับกุมนักค้ายาเสพติด 3 รายยึดของกลางยาบ้า 198,000 เม็ด
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 ก.พ.66 ที่ สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด พ.ต.อ.สมยศ ศรีพระคุณ ผกก.สภ.ยางตลาด พร้อมด้วยตำรวจ สภ.ยางตลาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอยางตลาด ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 และชุดสืบสวน สภ.นากุง ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาบ้า 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายชรินทร์ หรือทุย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ชาว ต.ลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 2.นายศุภกฤต หรือจอร์จ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ชาว ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น และนายพีรบูรณ์ หรือฟลุค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ก.พ.66 เวลาประมาณ 17.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการรับ-ส่งยาบ้ากันที่หลักกิโลเมตรที่ 9 ถ.ชลประทานปากทางเขื่อนลำปาว บริเวณบ้านแดง หมู่ 3 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยางตลาด จึงได้ประสานชุดสืบสวนภาค 4 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.นากุง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอยางตลาด เพื่อร่วมกันจับกุม พร้อมได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ ก่อนที่จะร่วมประชุมวางแผน และสั่งการโดย พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.หัสชัย เรืองมาลัย รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ มิสา นายอำเภอยางตลาด, พ.ต.อ.สมยศ ศรีพระคุณ ผกก.สภ.ยางตลาด, พ.ต.อ.ภาสกร มหาวงค์นันท์ ผกก.สภ.นากุง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้วางแผนซุ่มอยู่โดยรอบบริเวณดังกล่าวกระทั่งพบชายไทยนั่งอยู่ในป่าห่างจากหลักกิโลเมตร ที่ 4 ถ.ชลประทานปากทางเขื่อนลำปาวประมาณ 10 เมตร จากการสอบถามทราบชื่อสกุลจริงคือ นายชรินทร์ หรือทุย ก่อนยอมรับว่านายบอย (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) มาส่งตนไว้ที่ดังกล่าว เพื่อมาเฝ้ายาบ้า ไว้จนกว่าจะมีคนมารับยาบ้า ซึ่งตนและนายบอย ได้ตกลงกันว่า นายบอยจะให้ค่าจ้างแก่ตนเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท ทั้งนี้ ในขณะที่กำลังสอบถาม นายชรินทร์ อยู่นั้นปรากฏว่ามีชายไทย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซ้อนท้ายกันมา โดยคนขับรถจักรยานยนต์ได้สวมเสื้อสีขาว อีกคนหนึ่งสวมเสื้อสีดำได้นั่ง ซ้อนท้าย คนนั่งซ้อนท้ายถือตะกร้าพลาสติก แบบใส่เสื้อผ้า ซึ่งมีตำหนิ รูปพรรณตรง ตามที่สายลับได้แจ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถยนต์ติดตามไปตรวจสอบ เมื่อพบเห็นชายไทยทั้ง 2 คนจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและส่งสัญญาณให้ชายไทยทั้ง 2 คนหยุดรถ เมื่อบุคคล ทั้ง 2 หยุดรถแล้ว จึงได้ขอทำการตรวจค้น สอบถาม
โดยชายทั้ง 2 คนทราบชื่อสกุลจริงคือ นายศุภกฤต หรือจอร์จ ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และนายพีรบูรณ์ หรือฟลุค เป็นผู้นั่งซ้อนท้าย และในขณะนั้นยังมีสายโทรศัพท์ผ่านระบบแมสเซ็นเจอร์โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของ นายศุภกฤต หรือจอร์จ สอบถามทั้ง 2 คนได้ความว่า ผู้ที่โทรเข้ามาคือนาย ท.(นามสมมุติ) ซึ่งเป็น คนใช้ให้ตนทั้ง 2 คนมาดูจุดที่จะมารับ-ส่งยาบ้าโดย ท. ตกลงจะให้ค่าจ้างพวกตนทั้ง 2 คน เป็นเงินจำนวน คนละ 5,000 บาท
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวทั้ง 3 คน มานำชี้จุดที่ซ่อนยาบ้า ปรากฏว่าพบถุงพลาสติก สีดำ จำนวน 2 ถุง มีของอยู่ข้างในเป็นห่อๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดจับกุมจึงได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นยาบ้าซุกซ่อนอยู่ในห่อในถุงนั้น จึงได้ตรวจยึด ถุงยาบ้าทั้ง 2 ถุง และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาที่ สภ.ยางตลาดและตรวจนับยาบ้ารวมของกลางยาบ้า 198,000 เม็ด นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการ กระทำเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและเป็นการกระทำให้เกิด ผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยไม่ได้รับ อนุญาต และขยายผลติดตามผู้ร่วมขบวนการต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี