ค่าฝุ่น PM2.5 ยังพุ่งต่อเนื่อง ตรวจพบ 16 จังหวัดเกินมาตรฐานมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะภาคเหนือเกินมาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ วัดได้34-95 มคก./ลบ.ม. ซึ่งกรมควบคุมมลพิษคาดการณ์แนวโน้มฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นใน 17 จว.เหนือและพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ระหว่าง 28 กุมภาพันธ์และ 1-5 มีนาคม ซึ่งต้นเดือนมีนาคม ควรเฝ้าระวังทั้งสองพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ ประจำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 07.00 น.พบว่า ภาพรวมปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน 16 จังหวัด ประกอบด้วย นนทบุรี กรุงเทพฯ เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก ราชบุรีและตราด ซึ่งจังหวัดในภาคเหนือ เกินค่ามาตรฐานเป็นส่วนใหญ่ตรวจวัดได้ 34-95 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.)

ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 20-35 มคก./ลบ.ม.ภาคกลางและตะวันตก เกินค่ามาตรฐาน 1พื้นที่ ตรวจวัดได้ 28-62มคก./ลบ.ม.ภาคตะวันออก เกินค่ามาตรฐาน 1 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 31-68 มคก./ลบ.ม.ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 20-31 มคก./ลบ.ม.กรุงเทพฯและปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของ คพ.ร่วมกับ กทม.เกินค่ามาตรฐาน 2 พื้นที่ ตรวจวัดได้ 29-66 มคก./ลบ.ม.

นอกจากนี้ ศกพ.ยังออกคำแนะนำทางสุขภาพสำหรับประชาชนทั่วไปด้วยว่า ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ขณะที่ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ สำหรับประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ(พื้นที่สีแดง) ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น หากมีอาการทางสุขภาพควรปรึกษาแพทย์ โดยสามารถติดตามสถานการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ Air4Thai.com และ airbkk.com แอปพลิเคชัน Air4Thai และ AirBKK

ด้านกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ รายงานผลการคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์-5 มีนาคม 2566 ดังนี้ ระหว่างวันที่ 1-4 มีนาคม พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลอาจมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงได้ในบางพื้นที่ โดยพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มฝุ่นละอองขึ้นสูงในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ และวันที่ 1-5 มีนาคม โดยช่วงต้นเดือนมีนาคมเป็นช่วงที่ควรเฝ้าระวังทั้ง 2 พื้นที่