วันที่ 7 มีนาคม 2566 จากกรณีผัวหึงโหดสาดน้ำมันเบนซินเผาเมีย แล้วแทงซ้ำดับคาร่องน้ำ หลังขับรถกระบะมากับเมียเกิดทะเลาะกันกลางทาง จังหวะฝ่ายชายจอดรถซื้อของข้างทาง ฝ่ายหญิงอาศัยที่เผลอวิ่งหนีจากรถมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน กระทั่งผัวไล่ตามหยิบขวดน้ำมันเบนซินสาดจุดไฟเผาร่างจนไหม้ผิวหนัง ส่วนเมียกระโดดลงร่องน้ำ หนีตายแต่ผัวสติแตกตามไปบงไปกระหน่ำแทง 6 แผลดับสลด ส่วนผู้ก่อข่มขู่พลเมืองดีไม่ให้เข้ามายุ่ง ก่อนกลับไปขึ้นรถกระบะ สีขาว หลบหนีไปไปอย่างรวดเร็ว เหตุเกิดภายในซอย 9A นิคมอุตสาหกรรมบางปู อ.เมืองสมุทรปราการ เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มีนาคม 2566
ล่าสุดเ พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.บางปู มอบหมายฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่ไล่ติดตามตัว นายพิสุทธ์ศิริ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา และเข้ากดดันตามภูมิลำเนาและแหล่งที่เชื่อว่านายพิสุทธิ์ศิริ จะหลบหนี พร้อมกับประสานกับ ฝ่ายสืบสวน จากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เร่งไล่ล่ามานำตัวมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเหตุสะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจ ต่อมาภายหลังจากศาลจังหวัดสมุทรปราการ อนุมัติหมายจับในข้อหา ฆ่าโดยไตร่ตรอง และเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า นายพิสุทธิ์ศิริ หลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนที่จะติดไปจับกุมตัวเอาไว้ได้ ขณะจอดรถหลบอยู่บริเวณใต้สะพานข้ามแม่น้ำบางประกง ก่อนคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.บางปู
พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า หลังสอบปากคำ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ตนเองและ นางณัฐนันท์ อายุ 45 ปี ผู้ตาย อยู่กินสักระยะแล้ว ต่อมาไปพบข้อความขอผู้ตายที่แอบไปคุยกับคนอื่น จึงโมโหจนเกิดมีปาเสียงกัน ต่อมาผู้ตายจึงพักอยู่กับเพื่อนได้ประมาณ 4-5 วัน กระทั่งช่วงสายวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหานัดผู้ตายให้มาหา และชักชวนกันไปทำบุญที่วัดคลองเก้า ภายหลังจากทำบุญเสร็จ ทั้งสองคนจึงไปนั่งคุยกันบริเวณทางเข้าสนามกอล์ฟ ใกล้กับที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นทางฝ่ายไปพบเห็นข้อความของผู้ตายที่แอบไปคุยกับชายอื่น จึงโมโหและมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนผู้ต้องหาสติแตกใช้น้ำมันเบนซิลที่เตรียมมา เทลาดเมียรัก และยังเทลาดตัวเองด้วย พร้อมกับขู่ว่า จะเผาให้ตายไปด้วยกันทั้งคู่
ขณะนั้นผู้ตายใจดีสู้เสือทำทีคุยดีกับผู้ต้องหาจนเริ่มใจเย็นลง ก่อนที่ผู้ต้องหาจะขับรถไปบริเวณที่เกิดเหตุและเตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนคราบน้ำมันออก แต่จังหวะนั้นที่ผู้ต้องหาแวะขอซื้อไอติม ผู้ตายฉวยจังหวะที่เผลอวิ่งลงจากรถไปขอความช่วยเหลือ ขณะนั้นผู้ต้องหาเริ่มสติแตก จึงกลับไปเอาน้ำมันเบนซิลในรถสาดใส่ผู้ตายขณะกำลังหลบอยู่หลังนายพลเมืองดี ก่อนที่จะหยิบไฟแช็กจุดเผา นางณัฐนันท์ ผู้ตาย จนทำให้นายประภาส ถูกไฟลวกได้รับบาดเจ็บไปด้วย
ต่อมา นางณัฐนันท์ ผู้ตายจึงวิ่งลงไปในน้ำ แต่ ผู้ต้องหาไม่ยอมลดมือ ยังวิ่งกลับไปที่รถหยิบเอามีดยาวกว่า 40 ซม.ตามไปจ้วงแทง นางณัฐนันท์ จนเสียชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีไปในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา กระทั้งถูกจับกุมตัวได้ พร้อมของกลาง มีดยาวประมาณ 40 เซนติเมตร และรถยนต์กกระบะ ก่อนคุมตัวมาสอบสวน ที่ สภ.บางปู ทั้งนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้มีการเตรียมการมา ส่วนน้ำมันเบนซิน อ้างว่าซื้อไปเติมน้ำมันรถจักรยานยนต์ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนไปสอบปากคำเพิ่มเติม
ต่อมาเมื่อช่วงเวลา 13.00 น. ภายหลังจากตำรวจคุมตัวผู้ต้องหามาถึงโรงพัก สภ.บางปู ระหว่างคุมตัวผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียด และยังกล่าวขอโทษญาติผู้เสียชีวิต โดยมีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่โรงพักด้วย
นาย นายพิสุทธ์ศิริ เปิดใจและยอม ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองยอมรับว่าลงมือก่อเหตุจริง สาเหตุที่ทำ นายต้นอ้างว่า ตนเองเก็บอารมณ์ความโกรธมา 2 ปี ที่ฝ่ายหญิงแอบไปคุยชู้สาวกับชายอื่นในแชท ก่อนหน้านี้ยอมรับว่าเคยคุมอารมณ์ไม่อยู่ลงมือทำร้ายฝ่ายหญิงจริงด้วยการตบ ทำให้ฝ่ายหญิงหนีออกจากห้องพักไปกว่า 10 วัน กระทั่งขอนัดคุยนัดเคลียร์ปัญหา จนฝ่ายหญิงตกลงตามที่นัดหมาย วันเกิดเหตุตนจึงขับรถไปรับฝ่ายหญิงตามนัด โดยพาไปทำบุญที่วัด จากนั้นพาไปจอดรถนั่งเล่นที่สนามกอล์ฟ ภายในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ระหว่างนั่งคุยเล่นกัน นายต้นอ้างว่าถูกฝ่ายหญิงดุด่าจนเกิดความโมโหและข่มขู่ว่าจะราดน้ำมันเผาให้ตายทั้งสองคนหากยังไม่หยุดด่า และพอขึ้นรถมาได้ก็ยังถูกฝ่ายหญิงต่อว่าอีกทำให้เกิดความโมโห จึงใช้น้ำมันราดฝ่ายหญิงและตัวเอง เพื่อหวังข่มขู่ แต่ด้วยความคันจากน้ำมันจึงพากันถอดเสื้อหวังเปลี่ยนเสื้อผ้า ระหว่างทางฝ่ายหญิงอ้างหิวน้ำจึงจอดรถที่เกิดเหตุพอจอดรถฝ่ายหญิงจึงเปิดประตูวิ่งไปขอความช่วยเหลือ ด้วยความโมโหและคุมอารมณ์ไม่อยู่จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว เมื่อถามว่าเตรียมการมาหรือไม่ นายต้นอ้างว่าไม่ได้เตรียมการ แกลอนน้ำมันที่เตรียมมาอ้างว่าเตรียมไว้เติมรถจักรยานยนต์ที่เอาไปจำนำเพื่อเอาเงินมาจากค่างวดรถยนต์ที่ค้างไว้
ขณะเดียวกัน พี่สาวของผู้เสียชีวิต และญาติได้เดินทางมาดูหน้าผู้ต้องหาที่ สภ.บางปู หลังจากที่ทราบข่าวว่าตำรวจสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ ได้ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า ไม่ให้อภัยไม่รับคำขอโทษจากผู้ต้องหา และอยากถามว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ หลังจากเกิดเรื่องยอมรับว่าทุกคนหวาดกลัวที่ผู้ต้องหาจะย้อนมาก่อเหตุกับคนในครอบครัว พอทราบว่าถูกจับตัว ก็รู้สึกสบายใจขึ้นและต้องขอบคุณตำรวจที่ตามจับกุมตัวได้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ก่อนที่จะเดินที่หน้าห้องสืบสวน ที่ผู้ต้องหากำลังถูกสอบสวนอยู่ด้านใน ได้ตะโกน ถามผู้ต้องหาทั้งน้ำตา ว่า ฆ่าน้องกุทำไม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : รวบผัวโหด!! จุดไฟเผาเมียตามไปแทงซ้ำ 6 แผลดับคาที่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี