วันที่ 15 มี.ค. 2566 กรุงเทพมหานคร จัดแถลงข่าวข้อค้นพบจากนักสืบฝุ่นในประเด็นต้นตอที่แท้จริงของการเกิดฝุ่นในกรุงเทพฯ และการล้างถนนและฉีดพ่นน้ำสามารถลดฝุ่นได้หรือไม่ โดยมี ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมด้วย รศ.ดร.
เอกบดินทร์ วินิจกุล คณะสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา (AIT)นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ด้านสิ่งแวดล้อม นายประพาส เหลืองศิรินภาผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม และนายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. และโฆษกของกทม.ร่วมแถลงและให้ข้อมูลการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ของ กทม. ที่ผ่านมารวมถึงทิศทางต่อไปในการขับเคลื่อนตามแผนวาระแห่งชาติ ณ โรงเรียนวิชูทิศ เขตดินแดง
ผศ.ดร.สุรัตน์ บัวเลิศ คณบดีคณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงต้นตอของฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า ในช่วงนี้ฝุ่นใน กทม. จะมาจากการเผาไหม้ชีวมวลที่ลอยเข้ามาในช่วงกลางวันและจมตัวในกรุงเทพฯในช่วงเวลาเย็น-ค่ำ บวกกับฝุ่นที่อยู่ในกรุงเทพฯที่มาจากการจราจรของเรา ทำให้ค่าฝุ่นสูง-สูงมาก การแก้ไขปัญหาอย่างแรกคือ การเผาไหม้ข้างนอกต้องลดลงให้ได้ เดิมเราเคยใช้มาตรการห้ามเผา แต่ก็ยังมีการเผาอยู่ ซี่งรัฐต้องคิดแล้วว่าจะให้มีการเผาแบบมีวิธีการจัดการหรือ ห้ามเผาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ให้ชาวบ้านอยู่ได้โดยไม่มีผลกระทบจากฝุ่น ปัจจุบันความพยายามของหน่วยงานรัฐดูดีขึ้นจากจุดความร้อนในประเทศไทย แต่จุดความร้อนนอกเหนือประเทศไทยที่มาจากที่อื่นเรายังคุมไม่ได้ ยังไม่สามารถดำเนินการจัดการได้ ต้องอาศัยทั้งกระทรวงต่างประเทศ ทั้งอาเซียน ร่วมมือกัน บางครั้งไปบังคับเขาไม่ได้แต่ต้องมีมาตรการจูงใจซึ่งรัฐต้องพิจารณาดูว่าควรต้องทำอย่างไร
รศ.ดร.เอกบดินทร์ วินิจกุล คณะสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และการพัฒนา (AIT) กล่าวในส่วนของการฉีดพ่นละอองน้ำ และการฉีดล้างถนนสามารถลดฝุ่นได้หรือไม่ ว่า การฉีดละอองน้ำจากอาคาร ตามที่ทำการทดลองได้ผลน้อยมาก เทียบปริมาณน้ำกับค่าไฟไม่ค่อยคุ้ม ค่าเฉลี่ยเมื่อเปิดน้ำกับไม่เปิดน้ำ ค่าต่างกันไม่มากเพียง 1-2 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ถ้าเทียบกับสถานีตรวจวัดปกติที่มีค่าผันผวน 3-4 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ฉะนั้น หลักการการแก้ปัญหาที่ชัดเจนคือจัดการที่แหล่งกำเนิดคือดีที่สุด ซึ่งในกรุงเทพฯเป็นรถยนต์ ข้างนอกเป็นการเผา และอาจจะมีแหล่งกำเนิดอื่นด้วย การฉีดพ่นน้ำเป็นการแก้ที่ปลายทางเท่านั้น สำหรับการทำวิจัยแหล่งกำเนิดฝุ่น ได้มีการทำบัญชีการระบายมลพิษ ซึ่งจะบอกว่าใน
พื้นที่มีแหล่งกำเนิดอะไรบ้าง และทำองค์ประกอบทางเคมีของฝุ่น จะบอกได้ว่าฝุ่นที่ลอยมาจากข้างนอกเป็นฝุ่นที่มาจากแหล่งกำเนิดอะไร ซึ่งเรามีข้อมูลแล้วที่จะต้องผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาจริงๆในขั้นตอนต่อไป
นายพรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ที่ปรึกษาของผู้ว่าฯกทม. ด้านสิ่งแวดล้อมกล่าวถึงการดำเนินการของกทม. ว่า กทม.เราทำได้ตามเรามีอำนาจที่จะทำ ตรวจต้นตอฝุ่น ป้องกันสุขภาพ แจ้งเตือนประชาชน แต่เรื่องของแหล่งกำเนิดสำคัญมีการจราจรยานพาหนะทั้งปี เราทำคนเดียวไม่ได้ มีภาคีเกี่ยวข้องหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบมาร่วมด้วย ซึ่งอยู่ในวาระอยู่แล้ว เราพร้อมเป็นผู้ประสานหน่วยงานมาร่วมมือกัน เพราะประเด็นนี้ไม่ใช่แค่กรุงเทพมหานครอย่างเดียวเป็นทั้งประเทศมีแผนชัดเจน ในส่วนของนโยบาย “นักสืบฝุ่น” นี้ เราเริ่มจากกรุงเทพมหานคร ถ้าจังหวัดหรือเทศบาลอื่นรับไปทำก็ถือเป็นแนวทางที่ดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี