นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดโครงการฝึกอบรมครูยางอาสา หลักสูตร“การถ่ายทอดเทคโนโลยียางสำหรับครูยาง” ที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ครูยางอาสาได้รับทราบนโยบายการส่งเสริมการเกษตรด้านยางพาราของ กยท.และนำความรู้ทางวิชาการและเทคโนโลยี ไปถ่ายทอดแก่เกษตรกรในเขตพื้นที่รับผิดชอบได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ พร้อมกับแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้ในการปฏิบัติงานให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมีครูยางอาสาในสังกัด กยท.ในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศ เข้าอบรม
นายอลงกรณ์กล่าวว่า กยท.มีแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการเขตส่งเสริมนวัตกรรมยางพาราระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ : SECri (SouthernEconomic Corridor of RubberInnovation) โดยโครงการดังกล่าว เดิมคือโครงการจัดตั้งพื้นที่บริหารจัดการยางพาราทั้งระบบ (Rubber Valley) ที่เคยศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ (Feasibility Study) ในการพัฒนาพื้นที่ในบริเวณ อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช ขนาดประมาณ 3,500 ไร่ เป็นพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาต่อยอดกิจการและความเป็นอยู่ของชาวสวนยางพาราให้ดียิ่งขึ้น และเมื่อศึกษาความเป็นไปได้พบว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นพื้นที่เป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา หรือเป็นพื้นที่ส่งเสริมนวัตกรรมยางพารา เพื่อรองรับการแปรรูปยางพาราเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม การเป็นต้นแบบเกษตรกรรมสวนยางอย่างยั่งยืนและเกษตรกรรมสวนยาง
อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ซึ่ง กยท.กำกับดูแล ในบริเวณ อ.ช้างกลาง (ส่วนที่เหลือจากพื้นที่โครงการฯ) ขนาดพื้นที่ประมาณ 7,910 ไร่ และในบริเวณ อ.ทุ่งใหญ่ ขนาดพื้นที่ประมาณ 25,610 ไร่ มีความเหมาะสมในเบื้องต้นที่จะเป็นพื้นที่ส่งเสริมเกษตรกรรมสวนยางอย่างยั่งยืนและเกษตรกรรมสวนยางแบบผสมผสาน โดยมี5 Key Moves ของ SECri ได้แก่ 1.การเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมยางพาราไทยด้วยนวัตกรรม (Strengthen)2.การสร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมยางพาราที่ครบวงจร (Establish) 3.การเชื่อมโยงด้วยโครงข่ายถนน เรือ ราง และอากาศ (Connect) 4.ยกระดับเสถียรภาพราคาและคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางพารา (Raise) และ 5.บูรณาการระบบต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าให้แก่ยางพารา (Integrate)
อย่างไรก็ดี โครงการดังกล่าวคาดว่าจะสามารถสร้างประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการลงทุนทั้งจากนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ GPP จังหวัดเพิ่มขึ้น ขยายการสร้างงาน ต่อยอดสู่การพัฒนาการเปิดประมูลยางพาราตลาดท้องถิ่นซึ่งมีแผนพัฒนาโครงการ พ.ศ.2567-2573 งบประมาณ 10,200 ล้านบาท