รวบหัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับผลประโยชน์  3.2 ล้านบาท  อ้างไม่ต้องจ่ายภาษีโรงเรือน 40 ล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 

วันที่ 4 เมษายน 2566 ตำรวจ ปปป. ร่วม ปปท. และปปช. แถลงผลปฏิบัติการจับกุมนายประมวล อายุ 57 ปี หัวหน้าฝ่ายรายได้ สำนักงานเขตราชเทวี เรียกรับผลประโยชน์ 3.2 ล้านบาท บริเวณลานจอดรถโรงแรมในเขตราชเทวีในความผิดฐาน เป็นพนักงานเรียกรับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบด้วยหน้าที่ 

พฤติการณ์คดีนี้ มีผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผู้เสียหาย ได้มอบตัวแทนเข้าไปชำระภาษีโรงเรือนและที่ดิน หลังเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตแจ้งให้บริษัทเข้าไปชำระเงิน โดยต้องชำระค่าภาษีประมาณ 40 กว่าล้านบาท แต่หากนำเงินมาให้เจ้าหน้าที่ จำนวน 3 ล้านบาท จะเก็บเรื่องดังกล่าวไว้ ไม่ต้องชำระ 40 ล้านบาท 

ซึ่งเมื่อบริษัทผู้เสียหายตรวจสอบพบว่า เป็นจำนวนที่สูงเกินจริง จึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่กลับได้รับคำตอบว่า ขอเพิ่มยอดเงินอีกเป็น 3.5 ล้านบาท เพราะต้องเอาไปแบ่งกรรมการหลายท่าน และต่อมาลดให้เหลือ 3.2 ล้านบาท  ผู้เสียหายจึงเข้าร้องเรียนและให้ตำรวจ ปปป.ตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันวางแผน จับกุมนายประมวล ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขตราชเทวี เมื่อถึงเวลานัดหมายนายประมวลได้ขับรถยนต์สำนักงานเขตราชเทวี ไปกระทำความผิดและในเวลาราชการอีกด้วย จากนั้นผู้เสียได้ส่งมอบเงิน ตำรวจ ปปป.จึงเข้าจับกุมตรวจค้นพบธนบัตรเงินสด 3.2 ล้านบาท อยู่ภายในถุงกระดาษสีขาวที่นำมาด้วย และหมายเลขธนบัตรตรงกับธนบัตรที่ลงบันทึกประจำวันไว้

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ารับสิ่งของมาจากผู้เสียหายจริงโดยคิดว่าเป็นเอกสารเท่านั้น

ด้าน พลตำรวจจรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เปิดเผยว่า เมื่อได้รับแจ้งได้เก็บข้อมูลเรื่อยมาตั้งแต่เดือนมีนาคม จนวันที่ 3 เมษายน ได้ให้ผู้เสียหายลงบันทึกประจำวันและตรวจสอบเลขธนบัตร 

ทั้งนี้ผู้เสียหายยินยอมที่จะจ่ายค่าภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ต้องการพฤติกรรมข่มขู่เรียกเงินลักษณะนี้  เงินที่เรียกรับถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจน ประกอบกับหลักฐานอื่น โดยจะสอบสวนภายใน 30 วันก่อนส่งเรื่องให้ป.ช.ช.ต่อไป