ทหารเมียนมาดับ85
ฝ่ายต้าน8กลุ่มระดมกำลังโจมตี
อพยพหนีตายมาไทย5.4พันคน
ฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมา ลงนาม ปิดถนนสายเมียวดี-กอกาเล็ก ถึง 21 เมษายน หลังสู้กันเดือด ดับแล้ว 85 ศพ ด้าน ปลัด สธ.เผย ดูแลผู้อพยพภัยสู้รบ อ.แม่สอด กว่า 5.4 พันรายรักษาแล้ว 14 ราย
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากอ.แม่สอด จังหวัดตาก ว่า ทางชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงที่ต่อต้านทหารเมียนมาทั้งหมด 8 กลุ่มได้ลงนามประกาศปิดเส้นทางสายเอเชีย เส้นทาง จ.เมียวดี-อ.กอกาเลก รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นเส้นทางที่สำคัญ ในการสัญจรไปมาของประชาชนชาวเมียนมา และรถยนต์บรรทุกสินค้าที่ไปจากเขตไทย
โดยหนังสือลงนามระบุว่า เนื่องมาจากสถานการณ์การสู้รบที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ จึงประกาศปิดเส้นทางระหว่างวันที่ 7 เมษายน 66 ถึง 21 เมษายน 66 การปิดเส้นทางสำคัญครั้งนี้ ฝ่ายกะเหรี่ยงแจ้งว่า ขอความร่วมมือประชาชนชาวเมียนมางดใช้ถนน และอย่าฝ่าฝืน จะทำให้เกิดอันตรายได้
เจ้าหน้าที่ฝ่ายกะเหรี่ยงแจ้งว่า ทหารเมียนมา และฝ่ายกะเหรี่ยงบีจีเอฟ. ยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเมียวดีเพราะฝ่ายต่อต้านยังอยู่ในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ฝ่าย เคเอ็นยู.พีซี.ระบุว่า จากการสู้รบระหว่างวันที่ 4 เมษายน 2566จนถึงวันที่ 6 เมษายน 2566 ทหารฝ่ายต่อต้านสภาทหารเมียนมา ยึดที่มั่นของฝ่ายบีจีเอฟ.ได้ ลึกจากชายแดนด้าน อ.แม่ระมาด ประมาณ 6กิโลเมตรและยึดอาวุธปืน พร้อมกระสุนนานาชนิด จำนวน 25 กระบอก
ฝ่ายทหารเมียนมา และ บีจีเอฟ.เสียชีวิต 85 นาย ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทำให้โรงพยาบาลในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงเต็มไปด้วยทหารที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ ฝ่ายต่อต้าน เสียชีวิต 3 นาย ได้รับบาดเจ็บ 17 นาย
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่ามีความห่วงใยสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนจังหวัดตากซึ่งทำให้มีผู้อพยพหนีภัยจำนวนมากข้ามมาอาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ทั้งนี้ ได้รับรายงานจาก นพ.วิทยา พลสีลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ตาก เกี่ยวกับกรณีมีผู้อพยพข้ามแดนในเขต อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด จำนวน10 จุดข้อมูลเมื่อวันที่ 6 เม.ย.เวลา 15.00 น. มีผู้อพยพทั้งหมด 5,428 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 814 ราย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดตาก ได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ปกครองในพื้นที่ จัดเตรียมพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ซึ่งการดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ปลัดกระทรวง สธ.กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ได้ให้การรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บจากการสู้รบ จำนวน 10 ราย พร้อมส่งต่อโรงพยาบาลแม่สอด และพลเรือนอีก 4 ราย ส่วนการป้องกันควบคุมโรคติดต่อต่างๆ ได้กระจายชุดตรวจมาลาเรียไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ที่มีผู้อพยพ และสนับสนุนหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจ พร้อมทั้งให้คำแนะนำสุขอนามัยเบื้องต้น ส่วนการดูแลด้านอนามัยสิ่งแวดล้อม ได้แนะนำการใช้ส้วมอย่างถูกวิธี ดูแลความสะอาดของน้ำดื่มและน้ำใช้
“หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ได้ให้การดูแลผู้อพยพตามหลักมนุษยธรรม ขณะเดียวกันก็ดำเนินงานด้านการป้องกันควบคุมโรคควบคู่กันไปด้วยอย่างเต็มที่ โดยส่วนกลางได้เตรียมการสนับสนุนอุปกรณ์ ยา และเวชภัณฑ์เพิ่มเติม หากได้รับการร้องขอ” นพ.โอภาสกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี