เมื่อวันที่ 7 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ที่หน้ากองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(กก.สส.ภ.จว.ฯ) พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม (ผบก.ภ.จว.ฯ) มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤติน กอร์ปกุลหิรัญ ผกก.กก.สส.ภ.จว.ฯ พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.สืบสวน 1 บก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯ พ.ต.ท.ชัชวาลย์ รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองนครพนม ร่วมกับชุดสืบสวนปราบปรามยาเสพติด แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ คือ นายอุดมสิน อายุ 56 ปี เจ้าของฉายานักบินข้ามโขง ชาว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี พร้อมภรรยา นางเจนจิรา อายุ 29 ปี พร้อมตรวจยึดรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กทม. ตรวจค้นภายในรถยนต์พบกระสอบบรรจุยาบ้า จำนวน 6 กระสอบ ตรวจนับได้จำนวนทั้งสิ้น 1,012,000 เม็ด โดยบรรจุแยกเป็นแพคเกจกันชื้น มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ สีเขียว Y1 จากข้อมูลพบว่าเป็นสัญลักษณ์ยาบ้าเกรดต่ำ ราคาม็ดละประมาณ 10 บาท ลักษณะยาบ้าเป็นเม็ดสีส้ม มีตัวอักษร WY คาดว่ากลุ่มผู้ผลิตใช้สารฆ่าแมลงผสมเป็นสารตั้งต้นแทนแอมเฟตามีน เพื่อลดต้นทุน และกำลังระบาดทะลักมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อส่งขายในพื้นที่ตอนในอีสาน อาศัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ลำเลียง โดยจะใช้กองทัพมดลักลอบขนข้ามแม่น้ำโขงมาทางเรือหางยาว ก่อนนำมาพักไว้ตามแนวชายแดนพื้นที่อีสาน รวมถึง จ.นครพนม
การจับกุมครั้งนี้เป็นการสืบสวนขยายผลจากผู้ต้องหา ที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ว่า ชาวลาวชื่อท้าวบัวพา อายุ 25 ปี ร่วมกับเพื่อนชื่อท้าวอ้วน อายุ 26 ปี มีพฤติกรรมค้ายาเสพติด ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครพนม จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ติดตามความเคลื่อนไหวของบุคคลทั้งสองอย่างใกล้ชิด โดยมี พ.ต.ท.จิรเดช อัตตพงษ์ สว.กก.สส.จวฯ เป็นหัวหน้าชุดวางกำลังไว้ตามจุดต่างๆ กระทั่งช่วงเช้าของวันที่ 6 เมษายน สายสืบรายงานว่าพบกระสอบปุ๋ย จำนวน 6 กระสอบ คาดว่าภายในบรรจุยาบ้าซุกซ่อนไว้ในป่าหญ้าริมถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (นครพนม-ท่าอุเทน) จึงซุ่มเฝ้าเพื่อรอว่าจะมีใครมาขนกระสอบปุ๋ยต้องสงสัย
เวลาผ่านไปเกือบ 2 ชั่วโมง ก็มีรถยนต์กระบะสีเทายี่ห้อมิตซูบิชิขับเข้ามาจอด และชายคนขับคือท้าวอ้วน ได้ลงมาแบกกระสอบปุ๋ยใส่ท้ายกระบะ ชุดเฝ้าซุ่มจึงจู่โจมล็อกตัวจับกุม ท้าวอ้วนจำนนต่อหลักฐานจึงรับสารภาพว่า ได้รับท้าวบัวพา โพทิลาด ใช้ให้ขับรถมาขนกระสอบบรรจุยาบ้า จากบริเวณดังกล่าว เพื่อนำไปไว้ที่ท่าทรายร้างแห่งหนึ่งอยู่ บ้านยางนกเหาะ หมู่ 2 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน ระหว่างนั้นเองท้าวบัวพาได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้ามาจอดเทียบรถยนต์ของท้าวอ้วน เพื่อจะสอบถามถึงผลการทำงานลุล่วงหรือไม่ จึงถูกจับกุมตัวได้โดยละม่อม
จากนั้นชุดปฏิบัติการ กก.สส.จว.นครพนม ได้ซ้อนแผนให้ผู้ต้องหาทั้งสองคน นำของกลางยาบ้าที่อยู่ท้ายรถกระบะท้าวอ้วนมาจอดที่ท่าทรายร้าง เพื่อรอผู้ที่จะมารับยาบ้าตามที่นัดหมายกันไว้ ต่อมามีรถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีดำ ขับเข้ามาที่ท่าทรายดังกล่าว ชายคนขับเดินลงมาเปิดฝาท้ายแล้วตรงดิ่งไปที่ท้ายรถกระบะขนกระสอบยาบ้าใส่ฝาท้ายรถเก๋ง ตำรวจที่ซุ่มอยู่จึงเข้าจับกุมทันที ทราบว่าชายดังกล่าวชื่อนายอุดมสิน ส่วนภายในรถเก๋งพบนางเจนจิรา ภรรยาของนายอุดมสินนั่งรออยู่ จึงควบคุมตัวผู้ต้องหารวม 4 คนไปสอบสวนขยายผล
โดยผู้ต้องหา 3 คนอ้างเป็นการทำงานครั้งแรก ขณะทางด้านนางเจนจิราทราบต่อมาว่ากำลังตั้งครรภ์อ่อนๆประมาณ 3 เดือน ให้การกับเจ้าหน้าที่ ว่า ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่มากับสามีรับยาบ้าเพื่อขนไปยังพื้นที่ จ.อุดรธานีได้รับค่าจ้างครั้งละ 5 หมื่นบาท เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกจับกุม พร้อมนำผู้ต้องหาและของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ เป็นการสืบสวนจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่ากลุ่มผู้ต้องหา เป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ โดยนายอุดมสินที่มีประวัติค้าขายกับผู้ค้ายาบ้าข้ามชาติ ในพื้นที่ชายแดนอีสาน จนมีฉายาว่านักบินข้ามโขง โดยนายอุดมสินจะทำหน้าที่ประสานกับเอเย่นต์ชาวลาว และลำเลียงมาพักตามแนวชายแดน ก่อนที่จะใช้รถยนต์ขนไปขายให้เอเย่นต์พื้นที่ตอนในอีสาน โดยทางตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครพนม ได้บูรณาการลงพื้นที่กวาดล้างจับกุม ตามนโยบายของ พล.ต.ต.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ในการเพิ่มมาตรการเข้มปราบปรามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด ที่พยายามลักลอบนำเข้ามาขายพื้นที่ตอนในของไทย ผู้ต้องหาอ้างว่าทำไปเพราะตกงานและเตรียมเก็บเงินไว้ดูแลลูกกับภรรยาที่ตั้งท้องได้ 3 เดือนจึงหวังรวยทางลัด จากสถิติการตรวจยึดจับกุม ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา พื้นที่ชายแดน จ.นครพนม มีการตรวจยึดยาบ้ามากกว่า 3 ล้านเม็ด ส่วนใหญ่เป็นยาบ้าเกรดต่ำราคาถูก ที่มีฤทธิ์ทำลายระบบประสาทสูง - 003