‘ชัชชาติ’ไม่ห่วงโควิดระบาดหลังสงกรานต์ สั่งเฝ้าติดตามสายพันธุ์ใหม่ แนะสังเกตตัวเองมีอาการรีบพบหมอ-แยกตัวกันแพร่ต่อ
18 เมษายน 2566 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังร่วมงานวันสภากรุงเทพมหานครครบรอบ 50 ปี ที่ กทม.2 ดินแดง ถึงการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์การโรคโควิดสายพันธุ์ใหม่ หลังผ่านช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า สถานการณ์ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดปลายเดือนมีนาคมอยู่ที่วันละประมาณ 100 คน ช่วงวันที่ 1-15 เมษายน เฉลี่ยวันละ 300 คน ผู้ป่วยเริ่มมากขึ้น เชื่อว่าหลังสงกรานต์จะมีตัวเลขเพิ่มขึ้นอีก อย่างไรก็ตามเราได้เตรียมเตียงและทุกอย่างรองรับไว้ ขณะนี้มีผู้ป่วยครองเตียงแค่ 30% ยาต่างๆก็เตรียมพร้อมไว้เต็มที่ คิดว่าไม่น่าเป็นห่วง ก็ให้เตรียมเฝ้าระวังไว้ ส่วนสายพันธุ์ใหม่ยังไม่มีปรากฎชัดเจน ได้ให้สำนักการแพทย์และสำนักอนามัยเฝ้าติดตาม แนะให้ทุกคนสังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการคล้ายให้เข้าไปศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้านหรือโรงพยาบาล อย่าประมาทให้ดำเนินการเหมือนเดิม ให้แยกตัว พบแพทย์ เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย แต่ไม่ต้องตระหนก เพราะโรคนี้กลายเป็นโรคประจำถิ่นไปแล้ว บางคนป่วยอาจไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ส่วนมากจะกักตัวและรักษาหายได้
ด้าน พญ. เลิศลักษณ์ ลีลาเรืองแสง ผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ กล่าวว่า เช้าวันนี้ได้มีการประชุมร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สำหรับสายพันธุ์ใหม่ยังไม่มาก อาการที่ว่าไม่มีไข้นั้นไม่ใช่ ผู้ป่วยยังพบมีไข้อยู่ จากการศึกษาทางทีมวิชาการ ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ประมาณ 10% ส่วนโควิด 3% แต่ขอให้ประชาชนระวังไว้เพราะตอนนี้จำนวนที่เป็นเพิ่มขึ้นเนื่องจากเรามีกิจกรรมที่เจอกันของคนจำนวนมาก ให้สังเกตอาการตัวเอง 7 วัน หากมีอาการให้ตรวจ ATK และหากใครยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ขอให้มาฉีด กทม.เรามีวัคซีนเพียงพอทั้งโรงพยาบาลและศูนย์บริการสาธารณสุข โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี